หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 460

สาริศาวางโทรศัพท์ลง แล้วถอยหลังไปเล็กน้อย “พชิรา ทางที่ดีแกพูดความจริงออกมาให้หมด อย่าคิดจะใช้กลอุบายอะไร ไม่อย่างนั้น ฉันโพสต์รูปภาพพวกนี้แน่นอน”

พอได้ยินคำขู่ของสาริศา ในใจของพชิราก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่เธอทำได้เพียงยอมจำนน ธนพัตไม่ยอมเชื่อเธอ และสาริศาก็มีรูปถ่ายพวกนั้นอยู่ในมือเธอด้วย เธอไม่รู้จริงๆ ว่าจะทำอะไรได้นอกจากบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดในตอนนั้นออกมา

พชิราไม่กล้าสบตากับธนพัต เธอก้มหน้าลงแล้วสะอื้นไห้ ก่อนจะพูดความจริงเกี่ยวกับคดีลักพาตัวในตอนนั้นออกมา

“ในตอนนั้น พ่อแม่ของฉันเสียชีวิตจากอุบัติเหตุกะทันหัน ทำให้ตระกูลนิธิธราสกุลเหลือแค่พี่วาลกับฉันแค่สองคน ตอนนั้นฉันยังเด็กเกินไป ดังนั้นพี่ชายของฉันจึงต้องแบกรับเรื่องราวทั้งที่บริษัทและในตระกูลเพียงคนเดียว”

“แต่ตอนนั้น พี่ชายของฉันไม่มีประสบการณ์อะไรเลย และพวกหุ้นส่วนของนิธิธราสกุลกรุ๊ปก็ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย อีกทั้งยังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้หุ้นของบริษัทในมือของพี่ชายฉัน แล้วบรรดาญาติพี่น้องในตระกูลไม่เพียงแต่ไม่ช่วยเหลือพี่ชายของฉัน แต่ยังร่วมมือกับคนอื่นมารังแกพวกเราสองพี่น้อง เอาแต่คิดหาโอกาสเพื่อแย่งทรัพย์สินของตระกูลนิธิธราสกุลไปจากพวกเรา”

พอพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของพชิราเต็มไปด้วยความเคียดแค้น “พวกเห็นแก่ได้พวกนั้น ตอนที่ตระกูลนิธิธราสกุลรุ่งเรือง แต่ละคนรีบมาประจบประแจง กลัวว่าจะขูดรีดทรัพย์สินของตระกูลไม่ได้ ปกติพ่อแม่ของพวกเราช่วยเหลือพวกเขาตลอด ให้โอกาสพวกเขาได้มีโอกาสในการหาเงิน แต่พอตระกูลนิธิธราสกุลล้มลง ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขาพวกเขากลับได้ทีขี่แพะไล่ ไม่มีใครช่วยเหลือสักคน”

“ต้องจัดการกับกิจการของบริษัท อีกทั้งยังต้องปกป้องคนในครอบครัว สถานการณ์ของพี่ชายฉันลำบากมาก แต่เขากลับไม่เคยบ่นให้ฉันได้ยินสักครั้ง เขายังให้ฉันได้ใช้ชีวิตเหมือนคุณหนูตระกูลนิธิธราสกุลเหมือนเดิม ดังนั้นในตอนแรกฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตระกูลนิธิธราสกุลยากลำบากถึงระดับนี้แล้ว”

พชิราพูดด้วยเสียงสะอื้น “พี่วาลเอ็นดูฉันมาตั้งแต่ยังเด็ก ฉันขออะไรเขาก็ให้ เขายอมแบกรับความยากลำบากทั้งหมดไว้เอง ไม่เคยปล่อยให้ฉันถูกกลั่นแกล้ง”

นั่นเป็นเหตุผลที่เธอเกลียดสาริศามากขนาดนี้ สาริศาไม่เพียงแต่แย่งฐานะคุณหนูใหญ่ตระกูลนิธิธราสกุลของเธอไป แต่ยังแย่งคนที่รักเธอที่สุดในโลก และเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เธอเหลืออยู่ไปด้วย พอไม่มีชัชวาล ก็ไม่มีใครปกป้องเธอแบบนั้นอีกแล้ว

“แต่สุดท้ายฉันก็รู้เรื่องนี้” พชิราพูดต่อ

“มีอยู่วันหนึ่ง ฉันทะเลาะกับเด็กผู้หญิงในโรงเรียน เรามักจะทะเลาะกันบ่อยๆ แต่เพราะฐานะที่เป็นคุณหนูคนโตของตระกูลนิธิธราสกุล เธอจึงไม่เคยกล้าอวดดีต่อหน้าฉัน แต่วันนั้นเธอไม่เหมือนเดิม เธอทำท่าทางหยิ่งยโส และยังบอกอีกว่านิธิธราสกุลกรุ๊ปจะล้มละลายในไม่ช้า ฉันจะไม่ใช่คุณหนูอะไรอีกแล้ว จึงไม่มีคุณสมบัติที่จะชี้นิ้วใส่เธออีก”

พชิรายังจำท่าทีหยิ่งผยองของเด็กสาวคนนั้นตรงหน้าเธอได้ และทุกครั้งที่เธอนึกถึงอีกฝ่ายเธอก็แทบอยากจะก้าวไปข้างหน้าและข่วนใบหน้าของอีกฝ่ายให้เสียโฉม!

“ในตอนนั้นฉันโกรธมาก หลังจากทะเลาะกับเธอแล้ว ฉันก็วิ่งกลับบ้านอยากจะถามพี่วาลว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอฉันกลับถึงบ้าน ฉันเห็นพี่วาลกำลังขอร้องอ้อนวอนผู้ชายคนหนึ่งอยู่ สีหน้าของเขาดูเคร่งเครียดมาก”

“ด้วยความอยากรู้ ฉันจึงแอบฟังการสนทนาของพวกเขา จากนั้นฉันถึงได้รู้ว่าบุคคลคนนี้เป็นนักลงทุนของนิธิธราสกุลกรุ๊ป เพราะพ่อแม่ของพวกเราเสียชีวิต เขาไม่เชื่อว่าพี่ชายของฉันจะบริหารบริษัทให้ดีได้ จึงต้องการจะถอนการลงทุน”

“พี่วาลพยายามเกลี้ยกล่อมเขา และสัญญาซ้ำๆ ว่าเขาจะพยายามบริหารบริษัทให้ดีที่สุด จะไม่ทำให้นักลงทุนต้องเสียกำไร แต่ผู้ชายคนนั้นยังคงไม่ใจอ่อน และยืนกรานที่จะถอนการลงทุน และให้พี่ชายของฉันชดใช้ค่าเสียหายอะไรสักอย่างด้วย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ