หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 565

สรุปบท บทที่ 565 ชอบปะป๊า: หวานเย็น กรุ่นใจ

ตอน บทที่ 565 ชอบปะป๊า จาก หวานเย็น กรุ่นใจ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 565 ชอบปะป๊า คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ หวานเย็น กรุ่นใจ ที่เขียนโดย ช็อคโกแลต เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

“จันจิราคนนั้นชอบปะป๊า ถึงเป็นแบบนี้ครับ”

ประโยคของธีร์ปลุกคนที่อยู่ในความฝัน

ตลอดมาสาริศาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจันจิราต้องจ้องหาเรื่องตัวเอง ตอนนี้นับว่าเข้าใจแล้ว

“ว่าแต่หนูรู้ได้ยังไง”

“เพราะในงานเลี้ยง จันจิราเอาแต่จ้องมองปะป๊าครับ”

ด้วยเหตุนี้ เรื่องทั้งหมดจึงเกิดขึ้นโดยไม่ได้นัดหมาย

แต่สาริศายังคงตำหนิธนพัตเล็กน้อยในใจ ธีร์ยังรู้เรื่องนี้ แต่ทำไมธนพัตซึ่งเป็นตัวเอกกลับไม่รู้

สาริศาคิดอะไรอยู่ธีร์รู้ทุกอย่าง และรู้แน่ชัดอยู่ในใจ แต่ไม่สามารถพูดอะไรได้ ทำได้เพียงพูดปลอบสาริศา

“หม่าม๊าดูสิครับ ไม่ใช่ว่าธีร์มาอยู่เป็นเพื่อนหม่าม๊าหรอกเหรอครับ”

ธีร์ขยิบตาอย่างซุกซน เห็นสาริศาดูหน้าตาแช่มชื่นทันที

ที่จริงแล้วธนพัตไม่เชื่อตน ดังนั้นอย่างน้อยธีร์ก็ยังเชื่อตน

เมื่อครู่เธอแค่อยากจะสัมผัสมัน แต่จันจิรากลับบอกว่าตนอยากเอาเป็นของตัวเอง

เธอชอบมัน แต่เธอมีสันดานดี ไม่ถึงขั้นเอาของของคนอื่นไปเพราะชอบสิ่งนั้น

สาริศาจูงมือธีร์กลับบ้าน ในใจคิดว่าจะรอดูว่าธนพัตกลับถึงบ้านแล้วจะอธิบายอย่างไร

สาริศาตัดสินใจว่าถ้าครั้งนี้ธนพัตไม่อธิบายกับตัวเอง เช่นนั้นเธอก็จะไม่สนใจธนพัต

สาริศาตัดสินใจอย่างลับๆ แล้วนั่งแท็กซี่กลับบ้านกับธีร์

เดิมทีสาริศาต้องการเดินกลับบ้านคนเดียว แต่ตอนนี้ธีร์อยู่ที่นี่แล้ว ตนเหนื่อยมากแค่ไหนก็ไม่สำคัญ แต่สาริศารักธีร์มาก กลัวว่าเขาจะเหนื่อย

ดังนั้นแท็กซี่จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

เมื่อกลับถึงบ้าน สาริศาให้ธีร์รีบไปฟังบรรยายการสอน เพราะครูผู้สอนมาแล้ว

หลังจากธีร์บอกพวกเขาเรื่องความบกพร่องของครูสอนในครั้งนั้น สาริศาจึงเปลี่ยนทั้งหมดยกเว้นมิลิน

ครูที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสม ไม่ควรสอนธีร์

สาริศากลับไปที่ห้องนอน นอนห่มผ้าคนเดียวพลางทานของกิน

สาริศาไม่เคยทานใต้ผ้าห่มมาก่อน แต่ตอนนี้สาริศาอารมณ์เสียมาก จึงขี้เกียจจะนั่งทานที่โต๊ะ

อยู่ในอารมณ์ไม่ดี จึงทำตามอำเภอใจ

สาริศาทานๆ ไปแล้วผล็อยหลับ

เป็นผลให้เมื่อธนพัตกลับมา ได้เห็นเตียงเกลื่อนไปด้วยมันฝรั่งทอด มีบางส่วนถึงขึ้นเปื้อนหน้าสาริศา

ธนพัตก้าวเข้าไปหยิบถุงมันฝรั่งทอด จากนั้นก็หยิบมันฝรั่งทอดที่กระจัดกระจายอยู่ข้างนอกทีละชิ้น

กระทั่งเก็บเสร็จ สาริศาก็ลืมตาแล้ว

สาริศาซึ่งเดิมทีหลับอยู่กลับลืมตาขึ้นมากะทันหัน ทำให้ธนพัตสะดุ้งตกใจ

จากนั้นมองไปที่สาริศาด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “หิวไหม ลงไปทานข้าว”

เมื่อมองดูเวลา ตอนนี้ล่วงเลยเวลาอาหารเย็นมาแล้ว 1 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะทานข้าว

เพราะถึงอย่างไรก็ไม่อาจนอนไปทั้งที่ท้องว่างได้ แบบนี้จะไม่ดีต่อท้อง

สาริศาไม่ได้เป็นโรคกระเพาะ แต่ถ้าหิวจนปวดท้องก็ไม่ดี

สาริศาเหลือบมองธนพัตแต่ไม่ตอบ พลิกตัวหนีตัดสินใจที่จะหลับตาต่อไป เมื่อครู่ใครใช้ให้ธนพัตทำตนเสียหน้าล่ะ

ธนพัตมองสาริศาที่ตอนนี้กำลังแสนงอน จึงขึ้นเตียงไปกอดสาริศาอย่างไม่มีทางเลือก

“ที่รักคุณฟังผมนะ วันนี้เป็นโอกาสสำคัญ ผมไม่สามารถทำเกินไปได้ ดังนั้นจึงได้แต่ตำหนิคุณ คุณคือภรรยาของผม เชื่อว่าคุณจะยกโทษให้ผม ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อคุณ แต่คุณก็เห็น ผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกสาวของคฑาวุธ ถ้าตอนนั้นผมทำอะไรลงไป แล้วเราจะยังร่วมธุรกิจกันได้เหรอ”

ธนพัตบอกเหตุผลที่เขาทำอย่างนั้นกับสาริศาอย่างนุ่มนวล สาริศาฟังแล้วขยับตัวเล็กน้อย

การทำอาหารของธนพัตนั้นพัฒนาขึ้นแล้ว ตอนนี้ทำได้อร่อยขึ้นเรื่อยๆ ถ้าพยายามอีกหน่อย คงสามารถผ่านระดับของสาริศาได้

แต่ไม่ว่าธนพัตจะทำอาหารอร่อยแค่ไหน ธนพัตก็ยังชอบทานอาหารที่สาริศาทำอยู่ดี

เพราะเขาลิ้มรสความรักอันลึกซึ้งในอาหารที่สาริศาทำให้ตัวเขา

“อร่อยไหม” ธนพัตเอ่ยปากถามสาริศา

สาริศาแค่พยักหน้าแล้วทานต่อ

สาริศาไม่ชอบการทานไปพูดไป ธนพัตรู้จึงหยุดพูด

ครอบครัวนั่งทานอาหารเย็นด้วยกันที่โต๊ะเงียบๆ

วันรุ่งขึ้นระหว่างทางไปบริษัท สาริศาครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน แม้ว่าธนพัตจะให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับสาริศาแล้วก็ตาม

แต่สาริศาที่อ่อนไหวยังคงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ส่วนมันอยู่ตรงไหนนั้นสาริศาเองก็ไม่รู้

ไม่รู้ว่าคืออะไรจึงเลิกคิดมันไปเลย

เมื่อสาริศามาถึงบริษัท ก็เห็นว่าทุกคนทำงานกันอย่างคร่ำเคร่ง อดไม่ได้ที่จะแปลกใจเล็กน้อย

ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาทำงานไม่ใช่เหรอ ทำไมทุกคนต่างคร่ำเคร่งขนาดนี้

สาริศาคิดว่าตัวเองดูเวลาผิด จึงยกมือขึ้นมาดูอีกครั้ง แต่มันก็ไม่ผิด จึงทำได้เพียงเดินไปยังที่นั่งแล้วถามมิลิน

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ ทำไมทุกคนคร่ำเคร่งขนาดนี้ล่ะ” สาริศามองมิลินที่กำลังทำงานด้วยหน้าตางุนงง

“ได้ยินว่าวันนี้ท่านประธานจะมาตรวจน่ะสิ”

ตั้งแต่ธนพัตเข้าซื้อบริษัทนี้ ก็ไม่มีใครเห็นหน้าตาที่แท้จริงของธนพัตเลย รู้แค่ว่าประธานบริษัทนามสกุลกีรติเมธานนท์

เช้าตรู่วันนี้ ได้รับข่าวว่าธนพัตจะมาที่บริษัท ในใจแต่ละคนจึงมีความสุขมาก

พวกเขาได้ยินว่าท่านประธานเป็นคนที่หล่อเหลาและประสบความสำเร็จอย่างมาก แน่นอนว่าตอนนี้ต้องพยายามทำงานให้หนัก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ