“ปะป๊าหม่าม๊ารีบกลับมานะครับ ธีร์จะคิดถึงพวกคุณ” ธีร์จับมือมิลิน พร้อมกับมองสาริศาและธนพัตอย่างอาลัยอาวรณ์
แม้ว่าIQของธีร์จะสูงมาก แต่อันที่จริงEQยังเป็นเพียงระดับของเด็กเท่านั้น เวลานี้ไม่อยากแยกจากทั้งสองคนก็สมเหตุสมผล
“ตกลง ปะป๊ากับหม่าม๊าจะรีบกลับมาหาธีร์นะ” นี่เป็นคำพูดของธนพัต น้อยครั้งที่เขาปลอบธีร์แบบนี้
ครั้งนี้เพราะอาลัยอาวรณ์จริงๆ
“ครับ โอเค” ธีร์พยักหน้า หลังจากมิลินบอกลาธนพัตกับสาริศา ทั้งสองก็ขึ้นแท็กซี่มุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟ
ตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงครึ่ง แต่ที่สถานีรถไฟยังมีผู้คนอยู่มากมาย
เดิมทีครั้งนี้ธนพัตต้องการไปเที่ยวโดยนั่งเครื่องบิน แต่สาริศาอยากนั่งรถไฟแบบดั้งเดิม ซึ่งธนพัตก็เห็นด้วย
จะนั่งอะไรมันก็คือการนั่งไม่ใช่เหรอ ตราบใดที่สาริศามีความสุข มันก็ดีกว่าอะไรทั้งสิ้น
“ธนพัต คุณว่าพี่วาลของฉันจะโกรธแล้วโทรหาฉันจนสายไหม้ไหม” สาริศามองโทรศัพท์ในมืออย่างไม่สบายใจเล็กน้อย
แม้ว่าชัชวาลจะดีต่อตัวเองเสมอมา แต่คราวนี้กลับไปตัดสินใจเรื่องของเขา
สาริศาไม่กล้ารับประกันอะไร
“ไม่รู้สิ พี่วาลเป็นคนแบบไหนล่ะ” ที่จริงธนพัตกับชัชวาลแค่มีความสัมพันธ์เพียงผิวเผิน ดังนั้นจึงไม่ค่อยรู้จักนิสัยของชัชวาลมากนัก
“อื้อ งั้นฉันจะบล็อกพี่ชาย กลับถึงบ้านค่อยอธิบายแล้วกัน” หลังจากสาริศาทำตาวิบวับครุ่นคิดแล้วจึงคิดได้ถึงวิธีนี้
ที่จริงนี่เป็นวิธีที่ดี แต่สิ่งที่สาริศาไม่รู้ก็คือ ตั้งแต่ต้นจนจบชัชวาลไม่ได้โทรหาเธอเลย
มิลินพาธีร์ขึ้นรถ เมื่อเห็นธีร์นั่งอยู่ในรถอย่างเชื่อฟังโดยไม่พูดอะไร ยิ่งรู้สึกว่าธีร์นั้นคล้ายกับธนพัตมาก
ทั้งคู่ไม่ชอบพูดและดูจริงจัง แต่มีความสามารถมาก
“ธีร์จ๊ะ เราไปบ้านเพื่อนคนไหนเหรอ”
เมื่อครู่ตอนที่มิลินอยากถามสาริศาว่าเพื่อนคนไหน เห็นว่าธนพัตอยู่ข้างเธอ จึงไม่ถามอะไรมาก
แต่ตอนนี้ความอยากรู้ผลักดันให้มิลินตัดสินใจถามธีร์ก่อน
“ธีร์ก็ไม่ทราบครับ”
ธีร์รู้ว่าการโกหกคนอื่นเป็นเรื่องไม่ดี แต่ตนไม่ทำแบบนี้ไม่ได้
ยังจำได้ที่เมื่อครู่สาริศากระซิบข้างหูว่า “อย่าให้คุณน้ารู้ว่าไปบ้านคุณลุงนะลูก”
ธีร์ก็อยากบอกมิลินว่าไปบ้านคุณลุง แต่ก็จนปัญญา ไม่สามารถลืมการกำชับของหม่าม๊าได้
“โอเคจ้ะ งั้นธีร์พักผ่อนไปก่อนนะ เรายังมีเวลา” มิลินเหลือบมองที่อยู่ในมือ
ดูเหมือนจะเป็นตระกูลใหญ่ มิลินไม่รู้ว่าคนๆ นั้นจะรังเกียจตนหรือไม่ คิดฟุ้งซ่านไปต่างๆ นานา...
ส่วนทางฝั่งสาริศากับธนพัตได้นั่งไปถึงสถานีที่สี่แล้ว อีกสถานีเดียวก็จะลง
สาริศารู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่รู้ว่าสถานีต่อไปเป็นสถานที่อะไร
ดูเหมือนว่าจะไม่มีการทำเครื่องหมายบนรถไฟ และสาริศาก็ขึ้นรถไฟเป็นครั้งแรก จึงไม่รู้แน่ชัด
ยิ่งธนพัตยิ่งไม่ต้องถาม
“ธนพัต คุณหวังว่าสถานที่ต่อไปเป็นที่ไหน” สาริศามองธนพัตที่สงบนิ่ง แล้วเงยหน้าขึ้นถามด้วยหน้าตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง
ธนพัตจุ๊บลงไปบนปากสาริศาอย่างแผ่วเบา และพูดอย่างเสน่หา “ทุกสิ่งที่คุณคาดหวังคือทุกสิ่งที่ผมต้องการ”
ฟังประโยคนี้จบ สาริศาก็รู้สึกทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ
“เอาล่ะ เราลงจากรถกัน”
เมื่อมองดูทิวทัศน์รกร้างภายนอก ใจสาริศามีความรู้สึกไม่ดี เห็นว่าที่นี่มีเพียงธนพัตและเธอเท่านั้นที่ลง ในใจก็ยิ่งงุนงงเข้าไปอีก
ทำไมไม่มีใครลงที่นี่กันเลย หรือว่าที่นี่มีเรื่องอะไรไม่ดี
สาริศามองไปรอบๆ พบว่าสถานที่นี้เธอเคยมา
สาริศากับธนพัตวางแผนจะไปยังที่ที่มีผู้คน แล้วไปถามใครสักคน แต่ตอนนี้มีสองเส้นทาง มาดูกันว่าพวกเขาจะเลือกเส้นทางไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...