สาริศาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องฟังคำพูดของกันยา หลังจากไปทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลเสร็จ ก็ทำการเก็บของ แล้วพากันยาออกจากโรงพยาบาล
ในรถ คนขับรถกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ สาริศากับกันยานั่งเงียบอยู่ในรถ
“ริศา เมื่อตะกี้แม่ก็แค่ไม่อยากรบกวนหนู หนูอย่าคิดมากนะ”
กันยารู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ใส่อารมณ์กับสาริศาไป จึงอยากจะอธิบายกับสาริศา
ก่อนหน้านี้กันยาอารมณ์รุนแรงมากไปจริงๆ แต่พอคิดว่าสาริศาทำไปก็เพราะหวังดีกับเธอ จึงอยากจะอธิบายกับเธอ
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันแค่อยากดูแลคุณอย่างใกล้ชิด ในเมื่อคุณไม่ต้องการให้ฉันดูแลคุณ คุณสบายใจจะทำยังไงก็ตามใจเถอะค่ะ”
ที่จริงแล้วสาริศาไม่ใส่ใจเรื่องก่อนหน้านี้เลย ในเมื่อกันยาไม่อยากไป เธอก็จะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก
ตอนนี้กันยาอยากจะอธิบายให้ตัวเองฟัง พูดไปก็ไร้ประโยชน์ เธอแค่ฟังผ่านหูเท่านั้นเอง “อืม”
กันยาได้ยินคำพูดของสาริศา จึงไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อ ได้แต่พยักหน้าแล้วมองไปข้างหน้า
เพราะระยะทางที่ค่อนข้างไกล ทั้งสองจึงต้องนั่งอยู่ในรถเป็นเวลานาน ทำให้สาริศาเริ่มเจ็บก้นเล็กน้อย
หลังจากที่สาริศาลงจากรถ เธอก็รีบบิดตัว เพื่อให้ตัวเองผ่อนคลายขึ้น
หลังจากบิดตัวเสร็จก็รีบไปพยุงกันยาลงจากรถ
“ลุงคะ ช่วยรอฉันสักครึ่งชั่วโมงได้ไหมคะ ฉันให้เงินค่ารถเพิ่มให้ด้วย” ที่นี่ค่อนข้างไกลจากตัวเมือง เรียกรถแท็กซี่ไม่ค่อยสะดวก ดังนั้นสาริศาจึงขอให้คนขับรอเธอจะดีกว่า
“ได้เลย แม่หนูเข้าไปข้างในเถอะ” ทันทีที่ได้ยินว่าจะเพิ่มเงินให้ คนขับก็มองไปที่สาริศาด้วยรอยยิ้ม ไม่มีคำตำหนิใดๆ
สาริศาพยักหน้า และช่วยพยุงกันยาเข้าไป
“อันนี้วางตรงไหนคะ” ในนั้นมีเสื้อผ้าและยาของกันยาที่ซื้อมาจากโรงพยาบาลด้วย
ล้วนเป็นของใช้จำเป็นของกันยา ดังนั้นสาริศาจึงต้องถามกันยา เพราะถ้าเธอวางมันเรื่อยเปื่อย แล้วกันยาหาไม่เจอจะแย่เอา
“วางไว้บนโต๊ะก็ได้จ้ะ”
หลังจากผ่านไปประมาณยี่สิบนาที สาริศาก็ทำการเก็บของเรียบร้อย และมองไปที่กันยา
“ฉันไปก่อนนะคะ มีอะไรโทรหาฉันได้เลยนะคะ”
สาริศาวางเบอร์โทรติดต่อไว้บนโต๊ะให้กันยา แล้วเตรียมจะจากไป
“ริศา…”
ตอนที่สาริศาออกมา ก็ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว สาริศามองไปทางคนขับรถด้วยความรู้สึกผิด
“คุณลุงคะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ ต้องมารอนานขนาดนี้”
“ไม่เป็นไรแม่หนู กลับกันเลยไหม”
“ค่ะ”
จากนั้นสาริศาก็ขึ้นรถ นั่งอยู่ในรถรู้สึกเบื่อ เธอจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและเปิดอ่านข่าวบันเทิงล่าสุด
จันจิราที่ในตอนนั้นเคยมีข่าวกับธนพัตเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาแล้ว ถึงแม้จะพึ่งผู้ชาย แต่เธอก็ยังมีพรสวรรค์ด้านการแสดงเล็กน้อย
แต่สาริศารู้ดี ว่าเธอยังคงคาดหวังว่าธนพัตจะเป็นของเธอจริงๆ
แต่สาริศาไม่กลัว ผู้ชายที่ถูกแย่งไปได้ง่ายๆ ไม่ใช่ผู้ชายที่ดี อีกทั้งเธอเชื่อสายตาของตัวเอง
สาริศาได้รับข้อความจากธนพัตขึ้นมากะทันหัน
“ที่รักครับ”
“อืม”
“คุณจะกลับตอนไหน”
“ใกล้จะถึงแล้วค่ะ”
ทั้งสองคุยกันไปเรื่อยๆ จนรถหยุดจอดหน้าบริษัทของธนพัต
ธนพัตอยากให้สาริศามาทานอาหารกลางวันกับเขา สาริศาจนใจ ได้แต่ยอมทำตามที่เขาต้องการ
จากนั้น สาริศายังมีแผนอื่นอยู่ด้วย
“เป็นยังไงบ้าง?”
ธนพัตเอ่ยถาม สาริศาไม่ต้องถามรู้ว่าเขาถามเรื่องของกันยา
“ดีขึ้นแล้วค่ะ ไม่เป็นไรแล้ว อาการป่วยครั้งนี้แปลกมาก และอาการดีขึ้นเร็วอย่างผิดปกติ” หลังจากสาริศาพูดจบ เธอก็เริ่มทานอาหารตรงหน้า ธนพัตจึงแค่พยักหน้า และไม่พูดอะไรอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...