“เพชรเคยทำอะไรไว้กับเธอ ลองบอกมาสิ” สาริศาได้ยินคำถามของกันยา สาริศาก็รู้ว่ากันยาต้องได้ยินบทสนทนาที่เธอคุยกับชรัณเมื่อครู่แน่นอนเลย
แต่ในเมื่อสาริศาพูดออกมาแล้ว สาริศาก็ไม่อยากปิดบัง ตอนแรกคิดว่าพอกันยารับรู้ถึงความชั่วร้ายของลูกสาวตัวเอง แต่พอย้อนกลับไปคิด
สาริศาจึงเริ่มเล่าสิ่งเลวร้ายที่พชิราทำทั้งหมดในอดีตให้กันยาฟัง หลังจากกันยาได้ฟังแล้วตกใจจนพูดไม่ออก คิดไม่ถึงว่าเธอไม่เพียงถูกพชิราหลอก แต่ถูกต้มจนเปื่อยเลย
ถึงขั้นช่วยเหลือพชิราทำเรื่องเลวร้าย ผิดมโนธรรมเหล่านั้นด้วย
หลังจากกันยารู้เรื่องแล้ว กว่าอารมณ์จะ กลับมาสงบเป็นปกติได้ใช้เวลานานมาก ที่แท้แล้วตนเองเข้าใจผิดมาตลอด สาริศาต่างหากที่เป็นผู้ถูกกระทำอย่างน่าสงสารที่สุด
ตอนนี้กันยาอยากจะไปกอดสาริศามาก ก้าวเข้ามาพูดกับสาริศาว่า:ลูกแม่ ลูกต้องมาลำบากเลย
แต่กันยารู้ว่านับตั้งแต่วินาทีที่ตนเองเริ่มเชื่อพชิรา ก็ไม่มีสิทธิ์แล้ว
ตอนนี้เรียกได้ว่ากันยาอารมณ์สับสนมากเป็นพิเศษ เธอไม่รู้ว่าตนเองควรจะพูดอะไรเพื่อมาปลอบใจสาริศาดี และก็รู้ดีว่าสาริศาไม่ต้องการคำปลอบใจจากตนเอง
สาริศามองท่าทางของกันยา ก็รู้ว่าพชิราต้องหลอกลวง ปกปิดความเป็นจริงเอาไว้ คิดมาถึงตรงนี้ สาริศายังต้องนับถือในความสามารถของพชิรา
นึกถึงเมื่อก่อนฌอนที่ตนเองพามาก็ถูกพชิราหลอกแบบนี้สินะ ไม่เช่นนั้นฌอนคงไม่ตกอยู่ในสภาพออกนอกลู่นอกทางแบบนี้
สาริศาหัวเราะอย่างขมขื่น ตอนนี้คิดถึงเรื่องพวกนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เรื่องที่ควรเกิด ตอนนี้ก็เกิดขึ้นแล้ว
“ริศา” กันยาเรียก อยากจะเอ่ยขอขอโทษกับสาริศา ขอโทษที่เธอลำเอียงมาตลอด ขอโทษที่ตนไม่เคยเชื่อใจเธอเลย ขอโทษที่ทำร้ายเธอมาตลอด ขอโทษ……
แต่คำพูดมากมายหลายคำ กันยาก็พูดไม่ออกสักคำในตอนนี้
เธอที่รักลูกสาวแท้ๆของตัวเองขนาดนั้น เธอที่เอาใจใส่ลูกสาวแท้ๆของตัวเองขนาดนั้น สุดท้ายก็ถูกลูกสาวตัวเองหลอกใช้ เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด
กันยารู้ว่าตอนนี้ตนเองน่าเวทนาแค่ไหน สาริศาเองก็รู้ว่าตอนนี้กันยาทรมานมากแค่ไหน จึงส่งกระดาษทิชชู่แผ่นหนึ่งให้กันยา จากนั้นก็เดินออกไป
สาริศาให้เวลากันยาได้อยู่คนเดียว ถ้าเสียใจจริงๆ ก็ส่งเสียงร้องไห้ออกมาได้ ถ้าสาริศาอยู่ข้างใน ก็จะเกิดความไม่สะดวกหลายอย่าง
กันยารู้สึกขอบคุณที่สาริศาจากไป อย่างน้อยแบบนี้ เธอจะได้ไม่ต้องเศร้าโศกมากนักเวลาอยู่ต่อหน้าสาริศา สาริศาเดินเล่นไปทั่วในโรงพยาบาล จากนั้นเดินไปที่ร้านค้า
คิดว่ากันยาร้องไห้นานขนาดนั้น ปากจะต้องแห้ง เช่นนั้นถ้าตอนนี้ซื้อนมกล่องให้กันยา ต้องไม่เลวแน่นอน ในใจสาริศาคิดแบบนี้
สาริศาออกจากห้องพักผู้ป่วยเดินเล่นในโรงพยาบาลหนึ่งรอบ นับเวลาดูแล้วน่าจะประมาณหนึ่งชั่วโมง ตอนนี้กันยาน่าจะปรับตัวได้แล้ว
สาริศาเดินไปหน้าห้องพักผู้ป่วย ลองฟังเสียงที่ประตูห้องดู ไม่ได้ยินเสียงอะไร ก็เคาะประตูเข้าไปเลย
กันยาไม่ได้เสียใจแล้ว ทั้งยังมองไม่ออกเลยด้วยว่ามีเคยมรคราบน้ำตามาก่อน สาริศาเดินไปข้างหน้า เอานมที่ซื้อมาเมื่อครู่ส่งให้กันยา จากนั้นหมุนตัวไปนั่งที่โซฟา
ตอนนี้เป็นเวลาสี่ห้าโมงเย็นแล้ว สาริศารู้ว่ากันยาใกล้จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว จึงเตรียมลางานมาดูแลกันยา ถ้าเกิดอาการป่วยของกันยารุนแรงขึ้น เช่นนั้นสิ่งที่พยายามทำมาก่อนหน้านี้ทั้งหมดก็สูญเปล่า
สาริศามองดูกันยาที่มองนมกล่องอย่างใจลอย เธอก็ไม่ได้เร่งรัด เธอรู้ว่าเมื่อกันยาอยากดื่ม ก็จะเปิดกล่องด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้ตนเองมาเตือน
สาริศานั่งเล่นโทรศัพท์บนโซฟา กันยานั่งเหม่อลอยอยู่บนเตียง ภายในห้องผู้ป่วย ทั้งสองคนต่างก็ไม่พูดอะไร
“ริศา” กันยาอยากจะบอกเบาะแสของธีร์กับสาริศา แต่กลับได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของสาริศาดังขึ้นมาก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...