สรุปตอน บทที่ 612 อย่าเอ่ยถึงธีร์ – จากเรื่อง หวานเย็น กรุ่นใจ โดย ช็อคโกแลต
ตอน บทที่ 612 อย่าเอ่ยถึงธีร์ ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง หวานเย็น กรุ่นใจ โดยนักเขียน ช็อคโกแลต เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ปฏิกิริยาแรกที่ธนพัตเห็นก็คิดว่าไม่ใช่ธีร์แน่นอน ตอนแรกอยากจะไปตรวจDNAที่โรงพยาบาล แต่ตอนนี้มีกรดซัลฟูริกติดอยู่ ถ้าไม่ระวังจะทำให้หมอลำบากได้
ธนพัตคิดพิจารณาอยู่นานมาก คิดว่าคงไม่ไปตรวจแล้ว
อีกทั้งบริษัทนักสืบเอกชนยังบอกว่าเห็นธีร์ปรากฏตัว เช่นนั้นจึงรอเบาะแสของบริษัทนักสืบเอกชนต่อไป เด็กที่ถูกเผาจนดำเป็นตอตะโกตรงหน้าคนนี้ไม่ใช่ธีร์แน่นอน
ธนพัตมั่นใจเป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่ในทางตรงกันข้ามกับความมีสติของธนพัต สาริศากลับตื่นตระหนก พอสาริศาเห็นศพ ก็คุกเข่าร้องไห้ทันที
ธนพัตไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะทำอย่างไร เขาบอกสาริศาไปแล้วว่านี่ไม่ใช่ธีร์แน่นอน แต่สาริศาก็ยังไม่สามารถทนต่อความกดดันภายในใจได้ ตอนแรกสาริศาก็หลอกตัวเองมาตลอด ตอนนี้ก็ยังจะหลอกตัวเองต่อไปอีกหรือ
สาริศาทำไม่ได้ เธอไม่อยากจะหลอกตัวเองและคนอื่นต่อไปอีกแล้ว สาริศาคิดไปพลาง เอื้อมมือจะไปคลำที่ศพ แต่ถูกธนพัตขัดขวางเอาไว้
“ริศา ด้านบนมีกรดซัลฟูริก”
ได้ยินที่เขาพูด สาริศาก็ตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็ยังคิดจะเอามือไปจับ แต่ธนพัตก้าวเข้ามา ดึงสาริศาเอาไว้ ด้านบนเป็นกรดซัลฟูริก ถ้าปล่อยให้สาริศาจับจริงๆ เช่นนั้นผลลัพธ์คงไม่สามารถจินตนาการได้
ธนพัตจูงมือสาริศาเอาไว้ด้วยความกังวล กลัวว่าสาริศาจะเผลอตัว วิ่งเข้าไปที่นั่น เช่นนั้นตนเองเสียใจภายหลังก็คงสายไปแล้ว
“ริศา คุณฟังผมนะ นั่นไม่ใช่ธีร์ ธีร์ของพวกเราเคยปรากฏตัวหลังจากที่พชิราตายไปแล้ว นั่นไม่ใช่ธีร์” ธนพัตก้าวเข้ามากระซิบข้างหูสาริศา แต่เห็นได้ชัดว่า ตอนนี้สาริศาไม่ได้เชื่อเขาเลย
สาริศารู้แผนการของธนพัต นั่นคือการหลอกล่อให้ตกหลุมพราง สาริศาจะไม่เชื่อธนพัตอีกแล้ว ไม่อีกแล้ว
สาริศาน้ำตาไหล จากนั้นก็มองธนพัตด้วยสายตาเย็นชา
“ไม่ต้องโกหกฉันแล้ว คุณคิดว่าพูดแบบนี้แล้วจะทำให้ฉันสบายใจเหรอ อย่าเสียแรงเปล่าเลย ฉันเข้าใจทุกอย่าง” หลังจากสาริศาพูดจบแล้ว ก็เตรียมจะเดินจากไป แต่กลับคิดไม่ถึงว่า เดินไปได้สองสามก้าวก็จะล้มพับลงกับพื้น เป็นลมหมดสติไป
“ริศา !” ธนพัตรีบมองไปทางตำรวจ แล้วอุ้มสาริศาไปโรงพยาบาล
สาริศาไม่ได้เป็นอะไรมาก เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกระทบกระเทือนไปถึงสมองของสาริศา สาริศาเศร้าเสียใจอย่างกะทันหัน ดังนั้นจึงเป็นลมหมดสติไป ให้น้ำเกลือนิดหน่อยก็คงกลับมาเป็นปกติแล้ว
ธนพัตนั่งลงข้างๆสาริศา มองดูสาริศา ไม่รู้ว่าในหัวคิดอะไรอยู่
เพราะว่าที่สาริศาเป็นลมครั้งนี้แค่เพราะการกระทบกระเทือนทางจิตใจมากเกินไป ดังนั้นจึงฟื้นขึ้นมาค่อนข้างเร็ว ตอนที่สาริศาฟื้นขึ้นมานั้น ธนพัตก็งีบหลับไปแล้ว
เขาไม่ได้นอนมาหนึ่งคืนหนึ่งวันเต็มแล้ว สาริศามองธนพัต จากนั้นก็ใส่รองเท้าเบาๆพยายามไม่ไปรบกวนธนพัต เธอลงจากเตียงคิดว่าจะออกไปเดินเล่นข้างนอกหน่อย ภายในห้องพักผู้ป่วยน่าอึดอัดมากจริง
“น้องธีร์ น้องธีร์ แม่อยู่นี่ลูก” สาริศามองเห็นคนที่คล้ายคลึงกับธีร์ คิดว่าเป็นธีร์ แต่ตอนที่สาริศาหมุนตัวเดินไป คนคนนั้นก็หายตัวไปแล้ว
สาริศาเวียนศีรษะเล็กน้อย คิดว่าตัวเองตาฝาดไป
แต่หลังจากนั้นห้านาทีก็ปรากฏเหตุการณ์แบบนี้อีก สภาพจิตใจของสาริศาไม่ปกติแล้ว เพราะสาริศาเริ่มเห็นภาพหลอน
ธนพัตตื่นขึ้นมาเห็นว่าสาริศาไม่ได้อยู่บนเตียง ก็รีบออกไปตาม แต่ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่คิดไว้ คือหาไม่เจอ ธนพัตจะเก่งกาจแค่ไหน ก็ขัดขวางคนที่ต้องการหนีไปไม่ได้
ธนพัตตามหาไปทั่วด้วยความตื่นตระหนก อยากจะตามหาสาริศาว่าตกลงไปที่ไหนกันแน่
หลังจากทั้งสองทักทายกันแล้ว ชัชวาลก็ถามเขาถึงสถานการณ์ในตอนนี้
ผู้คนข้างๆเห็นว่าไม่มีอะไรน่าดูแล้ว ก็ค่อยๆแยกย้ายกันไป ธนพัตจึงเริ่มเล่าเรื่องเมื่อครู่ให้ชัชวาลฟัง
“ศพนั้นไม่ใช่ธีร์จริงๆ แต่สาริศาตอนนี้ก็ไม่ฟังคำพูดของผมเลย ไม่ว่าอย่างไรก็พูดอยู่แบบนี้ สถานการณ์ในตอนนี้ ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีแล้ว” ธนพัตมองดูสาริศาที่ยังคลุ้มคลั่ง ขมวดคิ้วด้วยความสงสารจับใจ
“จำได้ว่าตอนนั้นนายให้เธอไปหาจิตแพทย์คนนั้น พวกเราไปหาเขากันเถอะ” ชัชวาลได้ยินคำพูดของธนพัต ก็คิดว่าตอนนี้ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว คงต้องลองใช้วิธีนี้ที่เป็นความหวังสุดท้าย ได้ไม่ได้ผลก็คงต้องลองดูแล้ว
ธนพัตได้ยินคำพูดของชัชวาล ก็พยักหน้า ครั้งก่อนสาริศากินยานั่นหาย ตอนนี้น่าจะไม่ได้บังเอิญแบบนั้นอีกแล้ว แต่ธนพัตก็คิดที่จะไปลองดู
“ก๊อกๆ” ธนพัตและชัชวาลพาสาริศาเดินมาที่ห้องของคุณหมอ จากนั้นเคาะประตูห้องแล้วก็ผลักเข้าไปเลย
คุณหมอมองเห็นธนพัต ก็รู้ว่าอาการป่วยภรรยาของเขาต้องกำเริบแน่นอน
“ช่วยดูภรรยาผมหน่อยได้มั้ยครับว่าเป็นอะไร” ธนพัตเอ่ยพลางให้สาริศานั่งลงบนเก้าอี้ จากนั้นก็มองไปที่คุณหมอ สาริศาไม่ได้อยากจะนั่งบนเก้าอี้ แต่ก็ไม่อาจสู้แรงกดของผู้ชายสองคนได้
คุณหมอดูอาการอยู่ครู่หนึ่ง ก็รู้หนึ่งในสาเหตุแล้ว ตอนนี้สาริศามีชีวิตอยู่ในโลกของตัวเองจริงๆ คนอื่นเข้าไปไม่ได้ เธอเองก็อาจจะออกมาไม่ได้ นอกเสียจากว่าตัวเธอเองจะได้สติเอง
“เป็นยังไงบ้างครับ” ธนพัตมองคุณหมอด้วยสีหน้าที่มีความหวัง คุณหมอยิ้มเจื่อนๆ ดูท่าเพื่อนของตนเองคนนี้จะให้ความสำคัญกับภรรยามากจริงๆ
เมื่อก่อนธนพัตมีสีหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึกตอนนี้เผยให้เห็นสีหน้าท่าทางที่คาดหวัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...