สาริศาที่กำลังนึกถึงเรื่องราวในอดีต ชั่วขณะหนึ่งที่ค่อนข้างนิ่งงันไป ไม่ได้สังเกตเห็นธนพัตที่อยู่ข้างๆ ว่ากำลังมองตัวเองอยู่ด้วยดวงตาขุ่นมัว
เมื่อก่อนเธอติดหนี้ธีภพงั้นเหรอ
ธนพัตบอกไม่ได้ว่าในใจรู้สึกอย่างไร
คือเขาปรากฏตัวในชีวิตของเธอสายเกินไปเหรอ
สาริศาที่เขารู้จัก เป็นผู้หญิงรักอิสระที่ไม่ว่าอะไรก็ชอบแบกทุกอย่างไว้บนบ่าของตัวเอง
แต่เขาไม่รู้ว่าที่เธอเคยเป็น ก็แค่นักเรียนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ถูกความยากจนของครอบครัวและความอัปยศในประสบการณ์ชีวิตเข้ามาทำให้ย่ำแย่จนไม่สามารถเงยหน้าขึ้นสู้ใครได้
แต่ตอนนั้นธีภพได้รู้จักเธอ ให้ความรักครั้งแรกและการซัพพอร์ตอยู่เงียบๆ
ทันใดนั้นธนพัตพลันยื่นมือไปกุมมือของสาริศา
สัมผัสอบอุ่นบนมือส่งผ่านมา ทำให้สาริศาสะดุ้งตกใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองธนพัต “ธนพัต คุณเป็นอะไรเหรอ”
ธนพัตมองเธอ สีหน้าคาดเดายาก เอ่ยพูดเสียงต่ำ “ไม่มีอะไร ผมแค่คิดว่า ถ้าได้เจอคุณเสียตั้งนานแล้วก็คงดี”
แม้ไม่สามารถเจอเธอในสถานศึกษา แต่ถ้าเมื่อสองปีก่อนได้เจอเธอในช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุด และได้ช่วยเหลือเธอ ก็คงจะดีไม่น้อย
สาริศาตกตะลึงจนนิ่งอึ้งกับคำพูดไร้แก่นสารของธนพัต ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างงุนงง เพียงแต่คิดว่าธนพัตยังโกรธอยู่ ดังนั้นจึงพูดเพิ่มเติมไปอีกประโยค “ธนพัต คุณอย่าอารมณ์เสียอีกเลยนะ สถานการณ์เมื่อวานนี้ ถ้าเป็นคุณ ฉันก็ต้องรีบพุ่งเข้าไปแน่นอน”
สาริศาพูดประโยคนี้เพราะคิดว่าธนพัตยังโกรธอยู่ ไม่มีทางเลือกถึงได้พลั้งปากออกมาโดยไม่คิด
เธอไม่ได้คิดเลยว่าประโยคเรียบง่ายเช่นนี้ จะทำให้ธนพัตชะงักไปทันที
วินาทีต่อมา ความรู้สึกโกรธของเขาแต่เดิม พลันดีขึ้นทันใด
มุมปากถึงขั้นอดไม่ได้ที่จะยกโค้งขึ้นบางเบา เขาเลิกคิ้วมองไปยังสาริศา “ที่คุณพูดเป็นความจริงเหรอ”
สาริศารีบพยักหน้าผงกๆ
มองสาวน้อยน่าเอ็นดูตรงหน้า ตัวธนพัตไม่อยากเชื่อ เมื่อวินาทีที่แล้วยังอดกลั้นความโกรธของตัวเองอยู่เลย ตอนนี้กลับอารมณ์ดีขึ้นแล้ว
ให้ตายสิ
อารมณ์ความรู้สึกของเขา ตอนนี้ถูกสาวน้อยสาริศาคนนี้ชักจูงได้ง่ายแบบนี้แล้วเหรอ
เขาพยายามอย่างหนักเพื่อให้สีหน้าตัวเองนิ่งสงบ หลังจากป้อนซุปไก่สาริศาอย่างพิถีพิถันเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมตัวจะออกไป “ผมต้องกลับบริษัทแล้ว คุณก็พักผ่อนในห้องพักผู้ป่วยไปนะ”
เขาหันหลังกำลังจะไป แต่ไม่คิดว่าจู่ๆ สาริศาจะคว้าชายเสื้อของตัวเอง
ธนพัตชะงักทันที ก่อนจะหันหน้าไป “มีอะไรเหรอ”
“เอ่อ......ฉันไม่อยากอยู่โรงพยาบาล” สาริศามองเขาอย่างน่าสงสาร “ฉันเกลียดโรงพยาบาลมาตลอด อีกอย่างคุณดูฉันสิ ฉันบาดเจ็บแค่นี้เอง ไม่จำเป็นต้องอยู่โรงพยาบาลเลย ฉันกลับบ้านได้ไหม”
ธนพัตขมวดคิ้ว “อยู่โรงพยาบาลปลอดภัยกว่า ถ้าคุณติดเชื้อที่บาดแผลล่ะ ถ้าชายคนนั้นทาพวกไวรัสแบคทีเรียบนมีดล่ะ”
สาริศาเหงื่อตก
คนคนนั้นเป็นแค่คนงานธรรมดา ไหนเลยจะมีความรอบรู้ลึกซึ้งขนาดนั้น
เธอรู้ว่าธนพัตชอบให้ใช้ไม้อ่อนมากกว่าไม้แข็ง จึงได้แต่ทำเป็นน่าสงสารต่อไป “ธนพัต ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ และอีกอย่างมีคุณอยู่ ต่อให้ฉันติดเชื้อ คุณก็สามารถเรียกหมอมาช่วยฉันได้ทันทีไม่ใช่เหรอ”
สาริศาเห็นคิ้วของเขาคลายลงอย่างที่คาดไว้ จึงรีบยืนยันเข้าไปอีก “และคุณดูสิ ตอนนี้ห้องพักผู้ป่วยแน่นมาก ฉันไม่ได้เป็นอะไรเลย แต่มายึดห้องพักผู้ป่วยแบบนี้ มันไม่มีมนุษยธรรมเลยนะ”
ธนพัตมองสาวน้อยตรงหน้าที่พยายามทุกวิถีทาง แล้วจิตใจก็พลันอ่อนยวบ “ได้ ผมจะไปส่งคุณที่บ้านก่อน แล้วค่อยไปบริษัท”
สาริศาโห่ร้องในใจ มองดูธนพัตบอกให้ชรัณไปจัดการขั้นตอนการออกจากโรงพยาบาลให้ตัวเอง ไม่นานก็นั่งอยู่บนเบนท์ลีย์สีดำของธนพัต
ระหว่างทาง จู่ๆ สาริศาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “จริงสิ ธนพัต คนที่ทำร้ายฉันคนนั้น จัดการยังไงเหรอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...