หวางเฟยอัปลักษณ์พลิกชีวิต นิยาย บท 38

น่าหลันไท่เฟยและซ่งหวานหว่านหันไปมองที่หน้าประตูพร้อมกัน จึงเห็นเจียงเทากำลังเข็นเจียงอู๋วั่งเดินเข้ามา

ครู่ต่อมา

เรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น

ซ่งหวานหว่านทำท่าทางโอบกอดเนื้อแกะและน้ำจิ้มที่เหลืออยู่ไม่มากแล้วไว้ในอ้อมแขนราวกับหวงแหน! ส่วนน่าหลันไท่เฟยพอเห็นการกระทำของซ่งหวานหว่าน ก็ทำท่าปกป้องอาหารเลียนแบบซ่งหวานหว่านโดยอัตโนมัติ

เจียงอู๋วั่งและเจียงเทามุมปากกระตุกไม่หยุด

มารดามันเถิด! นี่ออกจะน่ากลัวเกินไปแล้ว! ไท่เฟยและหวางเฟยผู้สูงส่งถึงกับทำนิสัยราวกับเด็กๆ เช่นนี้ออกมาได้!

สาวใช้ที่ปรนนิบัติข้างกายและฮวาอิ่งมองจนลืมคารวะตามพิธีการ ปิดปากแอบขำไม่หยุดจนไหล่กระเพื่อม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกนางอดทนมากเพียงใด

น่าหลันไท่เฟยจ้องมองเจียงอู๋วั่งแล้วถามว่า “เจ้ามาทำอะไร”

“เสด็จแม่ ลูกก็มาที่นี่เพื่อดูว่าหม้อไฟของหวางเฟยคืออะไรน่ะสิพ่ะย่ะค่ะ!”

“นี่ สิ่งนี้ก็คือหม้อไฟ ตอนนี้เห็นแล้ว เจ้าก็กลับไปได้แล้ว!” น่าหลันไท่เฟยชี้ไปที่หม้อทองเหลือง พลางออกคำสั่งอย่างไม่เกรงใจ

เจียงอู๋วั่งทำราวกับไม่ได้ยินพลางมองไปทางซ่งหวานหว่าน “ในเมื่อมาแล้ว หรือหวางเฟยไม่คิดจะเชิญเปิ่นหวางลองชิมรสชาติหม้อไฟนี้เลยหรือ”

ซ่งหวานหว่านกลอกตาอย่างไม่มีทางเลือก ก่อนจะสั่งสาวใช้ “เพิ่มชามกับตะเกียบให้ท่านอ๋องอีกชุด แล้วไปแล่เนื้อแกะมาเพิ่มอีกหน่อย” 

“เจ้าค่ะ นายหญิง”

“ท่านอ๋องอยากเสวยน้ำจิ้มแบบไหนเพคะ เผ็ดหรือไม่เผ็ด”

“เหมือนกับเจ้าก็ได้”

“ท่านแน่ใจนะ”

“แน่ใจอยู่แล้ว!”

“ได้!”

ซ่งหวานหว่านทำน้ำจิ้มรสเผ็ดพิเศษให้เจียงอู๋วั่งถ้วยหนึ่ง จากนั้นก็ไม่สนใจเขาอีก โดยลวกเนื้อแกะให้ตัวเองและน่าหลันไท่เฟยต่อ

เจียงอู๋วั่งลวกเนื้อเลียนแบบนาง ซ่งหวานหว่านจุ่มลงในน้ำจิ้มเล็กน้อย เขาก็ทำตามเช่นเดียวกัน

ยามที่เนื้อแกะทั้งเผ็ดทั้งร้อนเข้าไปในปาก เจียงอู๋วั่งขนกายพลันลุกชัน เผ็ดจนหน้ามืดตาลายราวกับเห็นดาวลอยอยู่ตรงหน้า กลืนเนื้อแกะที่อยู่ในปากลงไปอย่างยากลำบาก แล้วอ้าปากสูดเอาลมเย็นเข้าไป

ซ่งหวานหว่านรีบส่งถ้วยชาให้เขา เจียงอู๋วั่งรับไปก็ดื่มลงไปอึกใหญ่ เพิ่งจะดื่มเข้าไปกลับพ่นออกมาอีก ถึงกับเป็นชาร้อน! ความรู้สึกทั้งเผ็ดทั้งร้อน ทำให้เขาอยากจะดึงสตรีแน่งน้อยที่น่ารังเกียจตรงหน้าผู้นี้มาฟาดแรงๆ สักทีเหลือเกิน

“ฮ่าฮ่า...” ซ่งหวานหว่านและน่าหลันไท่เฟยระเบิดเสียงหัวเราะออกมา นางไม่เอานมให้เขาดื่มหรอก เผ็ดตายไปเลยก็สมควรแล้ว!

“ซ่งหวานหว่าน เจ้าจงใจ!” เจียงอู๋วั่งเผ็ดจนเพลิงโทสะลุกไหม้ คำรามเสียงต่ำด้วยสีหน้าดำทะมึน 

“ท่านอ๋อง นี่ท่านกำลังปรักปรำข้าอยู่นะ เป็นท่านพูดเองว่าต้องการน้ำจิ้มเหมือนที่ข้าทาน ทั้งข้ายังหวังดีส่งถ้วยน้ำชาให้ท่าน ใครจะไปรู้ว่ากระทั่งเป่าก็ไม่เป่าท่านก็ดื่มลงไปเลย มาโทษข้าได้หรือ”

“เจ้าจงใจชัดๆ เปิ่นหวังไม่เชื่อว่าน้ำจิ้มของเจ้าจะเผ็ดขนาดนี้!”

“นี่ น้ำจิ้มข้าอยู่ตรงนี้ หากท่านไม่เชื่อก็ลองดูเอง” ซ่งหวานหว่านผลักน้ำจิ้มตัวเองไปตรงหน้าเจียงอู๋วั่ง

เจียงอู๋วั่งคีบเนื้อแกะขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งชิ้น จุ่มลงในถ้วยน้ำจิ้มของซ่งหวานหว่านเล็กน้อยแล้วยัดใส่ปาก

เอาเถิด! เขายอมรับว่าซ่งหวานหว่านไม่ได้โกหก มันเผ็ดจริงๆ! เผ็ดมาก! เผ็ดจนน้ำตาแทบไหล

สตรีผู้นี้เป็นคนประเภทไหนกัน เผ็ดขนาดนี้ก็ยังกินลงไปได้

จนแล้วจนรอดยังคงเป็นน่าหลันไท่เฟยที่ทนดูไม่ไหว เอาน้ำจิ้มงาของตนส่งให้เจียงอู๋วั่งแทนพร้อมกล่าวว่า “เจ้าทานอันนี้สิ อันนี้ไม่เผ็ด”

“ขอบพระทัยเสด็จแม่”

เจียงอู๋วั่งรับน้ำจิ้มงามา แล้วคีบเนื้อแกะชิ้นหนึ่งจุ่มลงไปในน้ำจิ้มเล็กน้อย ก่อนจะใส่เข้าไปในปากอย่างระมัดระวัง เห็นเพียงนัยน์ตาเขาพลันหรี่ลง เขาเพิ่งเคยทานเนื้อแกะที่อร่อยเช่นนี้เป็นครั้งแรก

หนนี้เจียงอู๋วั่งหยุดไม่ได้อีกแล้ว กินใส่ปากคำแล้วคำเล่า ซ่งหวานหว่านและน่าหลันไท่เฟยมองจนรู้สึกร้อนใจขึ้นมา ก่อนจะเริ่มลงมือสวาปามอย่างไม่สนใจภาพลักษณ์ โดยไม่ทันระวังคนทั้งสามก็กินกันจนอิ่มแปล้

รอจนคนทั้งสามทานเสร็จ ซ่งหวานหว่านก็ทำให้พวกบ่าวรับใช้อีกหนึ่งชุด เมื่อปรุงน้ำจิ้มเสร็จถึงค่อยไปเดินเล่นย่อยอาหารเป็นเพื่อนน่าหลันไท่เฟย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวางเฟยอัปลักษณ์พลิกชีวิต