“คุณเบญญา ครอบครัวคุณไม่มาอยู่เป็นเพื่อนคุณเหรอ?”
เบญญามึนงงอย่างสมบูรณ์ ก็แค่มาเอารายงานการตรวจร่างกายไม่ใช่เหรอ ต้องมีคนมาเป็นเพื่อนด้วย?
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงครอบครัว……เธอยังมีครอบครัวอะไรอีก?
คุณแม่คลอดเธอด้วยความยากลำบากเสียชีวิตไปแล้ว คุณพ่อให้เธอเป็นเครื่องมือหาเงิน พี่ชายเกลียดเธอแทบตายเพราะเธอคือต้นเหตุทำให้แม่เสียชีวิต ส่วนคนรัก……เป็นคนที่เธอแย่งชิงมา ถ้าหมอตรงหน้าไม่จู่ๆ พูดถึงสองคำนี้ เธอเกือบลืมแล้วว่า “ครอบครัว” มันหมายถึงอะไร
เบญญาอึ้งไปสักพัก ก่อนส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น “ฉันตัวคนเดียว”
หมอขมวดคิ้ว ดันแว่นบนดั้งจมูก แล้วถอนหายใจหนักหน่วง แววตามีความสงสารและถอนหายใจอย่างหมดหนทาง เขานำกองรายงานผลทดสอบที่วางบนโต๊ะส่งให้เบญญา
“คุณเบญญา ผลการทดสอบออกมาแล้ว มะเร็งกระเพาะอาหารระยะสุดท้าย”
เห็นได้ชัดว่าเขาสงสารหญิงสาวอายุยังน้อยตรงหน้าที่เป็นโรครักษาไม่หาย การพูดจาและการกระทำระมัดระวังเป็นพิเศษ
เบญญาหายใจไม่ออก เธอรับใบทดสอบมา ขมวดคิ้วดูเลขสถิติต่างๆ ในนั้น เธอไม่ได้เรียนหมอ แต่ก็มองออกว่ากระเพาะในร่างกายเธอมันสาหัสแค่ไหน
ที่จริงตอนส่องกล้องตรวจกระเพาะเธอก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างรำไร แค่เธอไม่กล้าคิดเกี่ยวกับมัน
หมอชี้รูปภาพ อธิบายทีละอย่างอยู่ข้างหูเบญญา เบญญาเหม่อลอยฟังเข้าบ้างไม่เข้าบ้าง สรุปได้ว่าเธอเหลือเวลาไม่มาก เธอต้องเข้าโรงพยาบาลใช้เคมีบำบัดรักษาโดยเร็วที่สุด
มะเร็งกระเพาะอาหารระยะสุดท้ายมีชีวิตอยู่ได้นานเท่าไร? เบญญาเข้าใจโรคนี้ดีกว่าใคร เพราะปู่เธอก็ประคับประคองตัวอยู่บนเตียงผู้ป่วยเป็นเวลาสองปีแล้วเสียชีวิตไป
หมอแนะนำด้วยความหวังดี “คุณเบญญา ทางนี้แนะนำให้คุณเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด”
“ถ้าฉันอยู่โรงพยาบาล……มันจะดีขึ้นไหม?” เบญญาเสียแหบ ลักษณะด้านช้า เหมือนกำลังพึมพำกับตัวเองอยู่
หมอไม่เปล่งเสียงอีก แค่ส่ายหน้าลำบากใจ
งั้นไม่รักษาแล้ว เบญญาเลียริมฝีปากแห้งผาก ยืนขึ้นแล้วยัดเอกสารการตรวจและวินิจฉัยทั้งหมดใส่ในกระเป๋า
เธอยืนขึ้นกล่าวขอบคุณ แล้วหันศีรษะเดินออกไปจากห้องตรวจ
ตอนออกมาจากโรงพยาบาล ด้านนอกฝนกำลังตก ฝนปรอยๆ ผสมกับลมหนาว พัดใส่หน้าเธอเจ็บเหมือนมีดกรีด เบญญาเปิดกระเป๋าเอาร่มข้างในออกมากาง ฝนตกพรำๆ มีร่มก็ไม่สามารถบังลมหนาวได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห้วงอาวรณ์ คืนสู่วันวาน