ห้วงอาวรณ์ คืนสู่วันวาน นิยาย บท 14

เบญญาเหมือนถูกฟ้าผ่า ทั้งร่างสั่นระริก ลำคอเหมือนมีหนามติดอยู่ กลืนไม่ลงคายไม่ออก ติดอยู่ตรงนั้นจนเลือดออกเต็มคอ

ในศาล คนนั่งเต็มที่นั่งผู้ฟัง ญาติที่ไม่สามารถรวมตัวกันได้วันนี้มาหมดเลย ใบหน้าพวกเขามีสีหน้าต่างๆ เบญญามองอย่างรีบๆ เห็นแค่การเหน็บแนมเท่านั้น

ธมเชษฐ์ที่นั่งข้างหน้าเห็นเบญญาเข้ามา แววตาดุเดือดแฝงไปด้วยความพยาบาท เขายืนขึ้นแล้วพุ่งเข้ามายกมือตบหน้าเบญญาทันที

การตบครั้งนี้ไม่ออมแรงสักนิด เบญญาหน้าหัน หูขวาเกิดเสียงวิ้งๆ สติไม่รู้ว่าบินไปไหนแล้ว

“เบญญา สี่วันนี้เธอไปอยู่ไหนมา? ตอนนี้เธอยังมีหน้ามาที่นี่ได้ยังไง! เธอทำร้ายพ่อ! เธอทำร้ายแม่ฉันจนตายยังไม่พอ ยังจะทำร้ายพ่อฉันจนตายอีก!”

เสียงตบหน้าดึงดูดสายตาทุกคนที่นั่น ดวงตาหลายสิบคู่จ้องมองเบญญา ทำให้เธอไม่มีที่หลบซ่อน

เบญญารู้สึกว่าสายตาเป็นๆ ที่มองเธอมันกลายเป็นมีดถลกหนังเลาะกระดูกเธอ

เบ้าตาธมเชษฐ์แดงฉาน ตะคอกเสียงดังด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว “แกมันแรด ไอ้ตัวขาดทุน เป็นตัวซวยทำให้เกิดหายนะ! ตอนแรกแม่ไม่น่าคลอดแกออกมาเลย เกิดมาแล้วฉันก็ควรให้พ่อกดแกให้จมน้ำตายทั้งเป็น! เบญญาแกแย่งทุกอย่างไปจากฉัน!”

คำพูดเลวร้ายแต่ละประโยคเล็งเป้ามาที่เบญญา สมองเบญญาขาวโพลน ตาสองข้างสูญเสียจุดโฟกัส มันกวัดแกว่งไปมามั่วซั่ว สุดท้ายก็จ้องไปที่หน้าเหี้ยมโหดของธมเชษฐ์

เห็นว่าอีกฝ่ายจะตบหน้าอีกครั้ง มรุเดชก็ดึงเอวเบญญาซ่อนไว้ด้านหลัง “ตบจนเสียหายนายชดใช้ไหม?”

หน้ามรุเดชมีรอยยิ้ม สีหน้าเดิมทีที่อ่อนโยน ความน่าสะพรึงกลัวปรากฏบนใบหน้าเขา

ธมเชษฐ์ชอบไม้อ่อนไม่ชอบไม้แข็ง กล้าตบเบญญาแต่ไม่กล้าขัดใจมรุเดช

เขาจ้องเบญญาด้วยความรังเกียจ ราวกับคนตรงหน้าไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ ของเขา แต่เป็นศัตรูของเขา

มรุเดชดึงเบญญาที่อกสั่นขวัญหายไปนั่งแถวหน้าสุด ตรงนี้อยู่ในขอบเขตที่ได้ยินชัดเจน มือเบญญาสองข้างกำแน่น เล็บจิกลงไปในเนื้อ เจ็บไปถึงหัวใจ เธอรู้ว่านี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น

ผู้พิพากษาทยอยเข้ามานั่ง สาวินถูกคุมตัวเข้ามา เห็นเบญญา แววตาเขาก็ฉายประกายความหวังทันที กู่ร้องโดยไม่สนใจทุกสิ่ง “เบญ ลูกสาวฉัน เธอต้องช่วยฉันนะ พ่อไม่ได้รับความเป็นธรรม ฉันโดนคนใส่ร้าย……”

ผู้พิพากษาเคาะค้อนไม้ใหญ่อย่างเข้มงวด “เงียบ!”

ที่นั่นเงียบทันที ได้ยินแค่เสียงผู้พิพากษาเปิดเอกสารบนโต๊ะ

ต่อมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง พูดอะไรบ้าง เบญญาไม่รู้อะไรทั้งนั้น เหมือนวิญญาณหลุดออกไปจากเนื้อหนัง เธอจ้องมองสาวินอย่างงุ่มงาม

นี่พ่อเธอเหรอ?

ใช่หรือเปล่า?

ทำไมเธอรู้สึกแปลกหน้า?

สาวินก้มหน้า ผมโดนโกนแต่เบญญายังเห็นผมขาวที่ปะปนอยู่ด้านใน รอยย่นก็ลึกมาก ตอนนี้เบญญาถึงได้รู้สึกอย่างแท้จริงว่าพ่อที่อยู่กับเธอมา 24 ปีแก่แล้วจริงๆ

ผลตัดสินออกมาแล้ว สาวินร้องไห้โฮในศาล เบญญาดึงแขนเสื้อมรุเดชอย่างใจลอยแล้วถามขึ้น “ผลพิจารณาคดีว่าไงนะ?”

“เธอไม่ได้ยินเหรอ?” มรุเดชเข้าใกล้หูเบญญาทันที แตะปลายหูเธอพูดขึ้น “พ่อเธอจบเห่แล้ว การทำให้คนอื่นเสี่ยงตายไม่ใช่แค่ชดใช้ด้วยเงินแต่ต้องโดนยิงเป้าชดใช้ด้วยชีวิต”

เป็นไปไม่ได้……เป็นผลลัพธ์แบบนี้ไม่ได้ เธอไม่เชื่อมรุเดช แต่ทำไมพ่อเธอถึงร้องไห้?

“ทำไม?” แต่งงานกับมรุเดชมาสี่ปี สิ่งที่เธอคิดมากที่สุดก็คือทำไม ทำไมไม่รักเธอ? ทำไมไม่กลับบ้านมากินข้าวที่เธอทำ? ทำไมไม่จดจำเธอ?

“ทำไมอะไรนักหนา” มรุเดชเอนหลังพิงเบาะเก้าอี้ มุมปากแฝงไปด้วยความขี้เล่น เหมือนดูภาพยนตร์สนุกจบแล้ว จิตวิญญาณพอใจสุดขีด

“เรื่องพ่อฉัน นายเป็นคนทำใช่ไหม?”

ยังถือว่าฉลาด ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นยังไงก็เดาสาระสำคัญได้

มรุเดชหัวเราะเหน็บแนม “ข้อตกลงที่เขาเซ็นฉันบังคับเขาหรือไง? สิบห้าล้านที่เขาลงทุนฉันให้เขาลงทุนหรือไง? พ่อเธอไม่ได้โดนกลั่นแกล้งสักนิด คนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมคือเจ็ดคนที่ตายต่างหาก เขาชีวิตเดียวชดใช้เจ็ดชีวิต เขาได้กำไรแล้ว”

“จะว่าไปแล้ว สิบห้าล้านนั่นถ้าเธอไม่โอนให้เขา เขาก็ไม่สามารถเซ็นสัญญาได้จริงๆ แหละ”

“คิดไปคิดมาแล้ว เธอนั่นแหละที่ทำร้ายพ่อตัวเองทางอ้อม พี่ชายเธอไม่ได้พูดผิด”

เสียงเขาดูเย็นยะเยือก เข้าหูเธอไปแล้วทำให้อวัยวะภายในของเธอแช่แข็งไปหมด ดวงตาเบญญาแดงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเลือดจะไหลออกมา

สองมือวางบนเข่ากำเข้าหากันแน่น แต่ยังคงหนาวเหน็บ ทั้งร่างกำลังสั่นเทิ้ม

มรุเดชเหมือนไม่เห็นความเจ็บปวดของเธอ เกี่ยวไหล่เธออย่างคลุมเครือแล้วดึงเข้าหาอ้อมกอด ลูบใบหน้าเธอที่มีรอยมือแล้วพูดขึ้น “เบญญา เธอขอร้องฉันได้ ที่ฉันมีหลักฐานนิดหน่อย ถึงจะไม่ส่งผลอะไรมาก แต่ทำให้พ่อเธอใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในคุกได้ ไม่ถึงขนาดต้องตายอาทิตย์หน้า ต้องการพิจารณาไหม?”

เขาบังคับเธอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห้วงอาวรณ์ คืนสู่วันวาน