มรุเดชก็ไม่ได้ช่วยอะไรจ้องมองเบญญาเก็บกวาดห้องอยู่แบบนี้ตลอดเวลา วิ่งเข้าออกขึ้นลง สุดท้ายท้องของเบญญาก็รับไม่ไหวแล้ว เธอกลับมาที่ห้อง เปิดลิ้นชักหยิบยาสองขวดนั้นออกมากินเข้าไปอย่างละเม็ด"เธอกินยาอะไร?"มรุเดชพูดถามขึ้น ยาที่อยู่ในขวดแก้วสองขวดในลิ้นชักนั้น ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นมาแล้ว แม้ว่าจะรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากแต่ก็ไม่เคยถามมาก่อนเลย เบญญาพูดอย่างสงบนิ่ง"ยากระเพาะ เป็นยาที่หมอจ่ายให้ทั้งนั้น"มรุเดชไม่ได้ถามอะไรต่อ เขารู้ว่าเธอเป็นโรคเกี่ยวกับกระเพาะหยุดไปสักพักก็พูดขึ้นมาต่อ"ในเมื่อร่างกายยังไม่หายดีก็ไม่ต้องคิดเรื่องย้ายบ้านแล้ว""ที่ฉันย้ายบ้านไม่ใช่เพราะอยากย้ายสักหน่อย แต่เป็นเพราะว่าฉันขาดแคลนเงินจำเป็นต้องขายบ้านหลังนี้อย่างเร่งด่วน มรุเดชนายก็น่าจะรู้ดีกว่าใครว่าทำไมฉันถึงขาดแคลนเงิน"ถ้ามรุเดชพะว้าพะวังการแต่งงานระหว่างพวกเขาสักหน่อย ให้ทางออกกับเธอสักทาง เธอก็ไม่ต้องมีชีวิตที่ยากลำบากเหมือนที่ผ่านมานี้"เธอกะที่จะขายบ้านหลังนี้เท่าไร""ในตอนนั้นฉันซื้อขาดมา28.5ล้าน ปัดเศษแล้วตอนนี้ก็ขาย25ล้านก็แล้วกัน"ราคาบ้านในตอนนี้สูงกว่าเมื่อสามปีก่อนอยู่ไม่น้อย อย่าว่าแต่25ล้านเลย ต่อให้ 40ล้านก็มีคนซื้อ แค่ต้องการเวลานิดหน่อยเท่านั้นแต่ที่เบญญาขาดก็คือเวลา เธอไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้นมรุเดชกอดอก แววตาที่ราวกับเหยี่ยวทำให้คนไม่กล้าจ้องมองตรงๆ หลังจากผ่านไปสักพักเขาก็พูดกับเบญญา"ฉันซื้อบ้านหลังนี้แล้ว ถือว่าเป็นทรัพย์สินร่วมกันของสามีภรรยาของพวกเราก็แล้วกัน""นายซื้อ?"เบญญามีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาอย่างรวดเร็ว "ได้สิ ตราบใดที่นายให้เงินฉัน บ้านหลังนี้ก็เป็นของนาย"มรุเดชหยิบบุหรี่ออกมาจากซองบุหรี่หนึ่งมวนก่อนจะจุดไฟ ไม่ได้สูบแต่ถือเล่นอยู่ในมือ แสงไฟสีส้มติดๆดับๆอยู่ในความมืดเห็นแล้วสว่างไสวอยู่ไม่น้อยมรุเดชไม่ได้ติดบุหรี่ นอกจากว่าเจอกับเรื่องที่กลัดกลุ้มใจอะไรถึงจะเอามาสูบ มรุเดชคาบบุหรี่ หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากในเสื้อ ก่อนจะหยิบบัตรธนาคารออกมาหนึ่งใบ"ข้างในนี้มีอยู่25ล้าน"เบญญาเดินตรงเข้าไปรับบัตรธนาคารมา "ฉันจะเตรียมทนายความมาทำการโอนย้ายอสังหาริมทรัพย์ให้เร็วที่สุด"เธอรู้สึกไม่ชินกับกลิ่นควันบุหรี่ ตอนที่เจรจาธุรกิจก่อนหน้านี้ก็เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเจอกับคนที่ชอบสูบบุหรี่ ในตอนนั้นยังอดกลั้นเอาไว้ แต่ตอนนี้เป็นมะเร็งกระเพาะอาหารแล้ว พอได้กลิ่นที่มันกระตุ้นก็จะมีการตอบสนองต่อความเครียดขึ้นมาเห็นได้ชัดว่ามรุเดชก็สังเกตเห็นว่าเธอไม่ชอบกลิ่นควันบุหรี่ เขาถอยออกจากห้อง"ไม่ต้องย้ายบ้านแล้ว เธอก็อยู่ที่นี่นี่แหละ อีกอย่าง อีกสองวันนลินก็จะย้ายมาอยู่ที่นี่"
นันท์นลินย้ายมาที่นี่? น้ำเสียงของมรุเดชไม่ใช่น้ำเสียงที่กำลังเจรจาปรึกษากับเธอ เบญญาสายตาสำรวจ จู่ๆภายในใจก็เกิดความรู้สึกขยะแขยงขึ้นมาที่มรุเดชไม่หย่ากับเธอก็เพื่อแอบไปเล่นชู้ข้างนอกบ้านอย่างนั้นเหรอ?เบญญาขมวดคิ้วยิ้มๆ"ได้สิ มีความสุขก็ดีแล้ว"ที่มรุเดชกลับมาในวันนี้ก็คือเพื่อมาคุยเรื่องนี้กับเบญญา เมื่อวานนันท์นลินถามเรื่องหย่าของเขากับเบญญาอีกแล้ว หลังจากที่รู้ว่าเขาจะไม่มีทางหย่าก็เลยเสนอว่าจะอยู่ด้วยกันกับเขาแม้ว่าจะต้องมีเบญญาอยู่ด้วยเธอก็ไม่ใส่ใจ หมดหนทางเขาทำได้แค่ตอบรับไปเท่านั้นแต่มรุเดชคิดไม่ถึงว่าเบญญาจะเห็นด้วยอย่างสบายใจขนาดนี้ จุดนี้มันขัดแย้งกับนิสัยของเธอ เบญญาเป็นคนที่นิสัยเย่อหยิ่งทะนงตัว รับช่วงต่อพุ่มเทียน กรุ๊ปมาจัดการดูแลหลายปีขนาดนี้ ออร่าของเธอนั้นอยู่เหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป ความหยิ่งทะนงที่ตัวทำให้เธอไม่ยอมก้มหัวให้ใครง่ายๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับ"ชู้รัก"มรุเดชรู้สึกไม่แน่ใจว่าภายในใจของตัวเองนั้นรู้สึกดีใจหรือไม่กันแน่ เขาขยับปากพูดคำอธิบายที่มันไม่มีความสำคัญอะไรเลยออกมา"เธออย่าคิดมาก ที่นลินย้ายมาที่นี่ก็เพื่อมาดูแลเธอ"เบญญาควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่ แววตาเผยให้เห็นถึงความเยาะเย้ยดูถูก สภาพร่างกายที่ขาดเลือดเป็นระยะๆของนันท์นลินเนี่ยนะจะมาดูแลเธอ?นันท์นลินเป็นคนยังไงเธอดูออกอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งตั้งแต่สี่ปีที่แล้ว เธอไม่สามารถรู้สึกดีกับผู้หญิงแบบนั้นได้เลยสักนิด แต่ว่ามรุเดชอยากจะให้เธอย้ายเข้ามาถ้าอย่างนั้นก็ให้เธอย้ายเข้ามาก็แล้วกันไม่ย้ายบ้านแล้ว เบญญาก็ผ่อนคลายขึ้นมา เอาของที่แพ็คเรียบร้อยแล้วออกมาวางไว้ที่เดิม ตอนที่กำลังจะทิ้งรูปแต่งงานที่มีหรือไม่มีก็ได้รูปนั้นไว้ในห้องเก็บของนั้น มรุเดชก็เข้ามาเอารูปแต่งงานในมือของเธอไป มองเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่พร้อมกับพูดขึ้น"แขวนรูปไว้ตรงบนหัวเตียงในห้องนอน ฉันจะไปหาตะปูเอง"ไม่ถามความเห็นของเบญญาเลยสักนิด เขาเข้าไปในห้องใช้บรรทัดวัดตำแหน่งทันทีเบญญาพิงกำแพงมองเงาหลังของมรุเดชพร้อมกับพูดขึ้น"มรุเดช นายไม่กลัวว่านันท์นลินจะเห็นรูปแต่งงานรูปนี้แล้วจะหาเรื่องทะเลาะกับนายหรือไง?"มรุเดชดูเหมือนจะไม่สนใจแม้แต่น้อย มือที่ตอกตะปูอยู่ก็ทำต่อไปไม่ได้หยุด หันหลังให้กับเบญญาพูดออกมาหนึ่งประโยค"นลินไม่เหมือนกับเธอ"เบญญาหลุดขำออกมา พูดจาโหดร้ายรุนแรงออกมาอย่างทนไม่ไหว"ถ้าอย่างนั้นเธอก็ใจกว้างจริงๆ สามารถทนยอมให้คนที่ชอบกะหนุงกะหนิงอยู่ด้วยกันกับผู้หญิงคนอื่นตลอดทั้งวันแบบนี้ได้"คำพูดนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าเยาะเย้ยนันท์นลินหรือว่าเยาะเย้ยตัวเองกันแน่ หรือไม่ก็เยาะเย้ยทั้งสองคนพูดจบเธอก็พูดเปลี่ยนเรื่องอีก"ฉันกับเธอก็ไม่เหมือนกันจริงๆนั่นแหละ อย่างน้อยตอนนี้นันท์นลินก็ยังชอบนายอยู่ แต่ฉันไม่ได้ชอบนายแล้ว"ไม่มีใครที่ชอบทรมานตัวเอง โดยการไปชอบคนที่ใจง่ายหรอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห้วงอาวรณ์ คืนสู่วันวาน