จงซื่อนึกถึงสมุดภาพลามกเล่มนั้นขึ้นมาได้ คุณหนูหนิงสี่ผู้นี้ดูท่าจะมีฝีมืออยู่บ้างในศาสตร์การยั่วบุรุษ แต่ทว่า นั่นไม่ใช่วิชาที่สตรีดีงามควรมีเลยแม้แต่น้อย
จงตั่วไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเสนอว่า “ข้าว่าเรื่องแต่งงานระหว่างเจ้ากับคุณหนูรองเซี่ยง น่าจะตกลงกันไว้ก่อนจะดีกว่า เพื่อเลี่ยงปัญหาภายหลัง”
หากบุรุษมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ต่อให้จวนหนิงกั๋วกงจะอยากเกี่ยวดองกับจวนอ๋องกว่านี้เพียงใด ก็ควรจะรู้จักวางมือเสียที
ยิ่งไปกว่านั้น ท่ามกลางเหล่าคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์นับไม่ถ้วนในเมืองหลวง คุณหนูรองเซี่ย เซี่ยหรูอี๋ ก็ถือเป็นผู้เลิศล้ำเหนือใคร เป็นที่หมายปองของเหล่าบุตรชายจากตระกูลใหญ่ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง จงตั่วจึงเห็นว่าควรเร่งตกลงเรื่องแต่งงานนี้เสียแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่า
“สถานการณ์ในวังยังไม่แน่นอน พูดถึงเรื่องแต่งงานตอนนี้ คงยังเร็วเกินไป” จงซื่อกล่าว ความหวาดระแวงของฮ่องเต้นั้นดั่งคมดาบที่แขวนอยู่เหนือศีรษะ เกรงแต่ว่าฝ่าบาทจะมองว่าจวนอ๋องเซวียนกับจวนชิ่งกั๋วกงกำลังคิดจะจับมือกันรวบอำนาจ
รัชทายาทยังมิได้ถูกแต่งตั้ง เวลานี้จึงนับเป็นช่วงที่บ้านเมืองวุ่นวายที่สุด จงตั่วจึงได้แต่เงียบงัน ไม่เอ่ยอะไรต่ออีก
ตลอดหลายชั่วยามที่หนิงฝูและฮูหยินหนิงอยู่ในจวนอ๋องเซวียน บุตรชายทั้งสองผู้ถึงวัยครองเรือนของจวนหวังกลับไม่มีผู้ใดปรากฏตัวเลยแม้แต่คนเดียว
ความหมายในเรื่องนี้ ฮูหยินหนิงย่อมเข้าใจดี จวนอ๋องเซวียนไม่ได้มีเจตนาจะเกี่ยวดองด้วย โชคดีที่ฮูหยินหนิงเองก็ไม่ได้มีความคิดเรื่องนี้เช่นกัน จึงมิได้เอ่ยถึงคุณชายทั้งสองของจวนหวังแม้แต่น้อย
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ฮูหยินหนิงก็เอ่ยลากลับทันที
ก่อนจะจากมา หนิงฝูกล่าวกับพระชายาอ๋องเซวียนว่า “นำหิมะต้นฤดูหนาวมาต้มร่วมกับดอกกุ้ยฮวา สายน้ำผึ้ง และเจ๋อหลาน ทำเป็นยาขี้ผึ้ง จะช่วยลดรอยแผลจากผื่นได้ดี หวังว่าพระชายาจะทรงลองดูเพคะ”
ชาติที่แล้วหนิงฝูเคยถูกลวกจนเป็นแผล ใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะได้ตำรับลบรอยแผลนี้มา
พระชายาอ๋องเลิกคิ้วเล็กน้อย เพียงยิ้มบาง ๆ กล่าวขอบคุณอย่างขอไปทีว่า “เจ้ามีน้ำใจยิ่ง”
หนิงฝูมิได้กล่าวอะไรต่อ เพราะรู้ดีว่าอดีตแม่สามีผู้นี้ เก็บความอ่อนโยนทั้งหมดไว้ให้คนในครอบครัว ส่วนกับคนนอกมักเย็นชาเป็นทุนเดิม แต่ด้วยความรักสวยรักงามนางคงไม่พลาดที่จะลองตำรับยาที่ตนแนะนำแน่
ทันทีที่หนิงฝูกับมารดาเดินจากไป ฮูหยินรองจงก็เอ่ยชมขึ้นว่า “คุณหนูหนิงสี่ผู้นี้ช่างงามละมุนตานัก”
“ถูกตาต้องใจเข้าแล้วหรือ” พระชายาอ๋องเซวียนเหลือบตามองนางพลางกล่าว
ฮูหยินรองจงส่ายศีรษะก่อนกล่าวว่า “แม้ข้าจะถูกใจหน้าตานางอยู่บ้าง แต่คุณชายรองกลับไม่เหมือนคุณชายสามที่เชื่อฟังและสุขุม เรื่องของเขา ข้ามิเคยมีสิทธิ์ออกความเห็นเลยสักครั้ง”
พระชายาอ๋องเซวียนได้แต่ลอบถอนหายใจอยู่ในใจ
ที่น่าขันคือ ทุกคนกลับพากันเข้าใจว่าจงซื่อสุขุมมั่นคง หาได้รู้ไม่ว่าเขาก็ใช่จะต่างกันนัก จิตใจเด็ดเดี่ยวและดื้อรั้นไม่แพ้ใคร
เมื่อยังเยาว์ เขาไม่ยอมตั้งใจเรียนหนังสือ เคยถูกบิดาใช้ไม้ทหารเฆี่ยนเสียจนเจ็บจนลุกไม่ขึ้นอยู่สามเดือน แต่ก็ยังไม่ยอมอ่อนข้อ สุดท้ายก็เป็นเขาเองที่เลือกจะเรียนรู้ จึงได้กลายมาเป็นคุณชายสามแห่งจวนอ๋องผู้เชี่ยวชาญทั้งบุ๋นและบู๊เช่นทุกวันนี้ หากเขาคิดจะทำสิ่งใด นั่นก็แปลว่าเป็นสิ่งที่เขาอยากทำเอง ใครหน้าไหนก็ฝืนใจเขาไม่ได้ทั้งนั้น
องค์หญิงจิ่งอี๋หลงใหลในตัวเขา แต่เรื่องราวกลับไม่เคยคืบหน้า พระชายาอ๋องเซวียนไม่เชื่อเลยว่าเบื้องหลังจะไม่มีเขาเป็นคนขัดขวางอยู่เงียบ ๆ

 ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวนคืนก่อนวิวาห์ ข้าไม่ขอเป็นภรรยาท่านอีก