หยูซื่อวางแผนเอาชีวิตนาง ก็เพราะคิดว่านางบังเอิญเห็นความสัมพันธ์ลับระหว่างทั้งสองเข้า
หนิงเจินหย่วนเองก็คิดถึงจุดนี้ สีหน้าของเขายิ่งดูแย่ลงไปอีก
"ไม่เพียงแต่ลอบคบชู้ ทั้งยังคิดทำร้ายแก้วตาดวงใจของเขา หากเป็นความจริง เขาไม่มีทางปล่อยหยูซื่อไปแน่
"
หนิงฮูหยินกล่าวเย้ยหยัน "คนรอบตัวของใต้เท้า ช่างมีแต่คนดีเสียจริง"
แม้หยูซื่อจะเป็นคนที่ฮูหยินเฒ่าบังคับให้เขารับเข้ามา หนิงเจินหย่วนก็ไม่อาจโต้แย้งอันใดได้ในยามนี้ ได้แต่ปล่อยให้ฮูหยินเหน็บแนมไปตามเรื่อง สุดท้ายเขายอมอ่อนข้อแล้วกล่าวว่า "ฮูหยินโปรดวางใจ ข้าจะให้คำตอบที่สมควรแก่อาฝูแน่นอน"
เมื่อมีเบาะแสแล้ว การสืบสวนเรื่องที่หนิงฝูตกน้ำจึงเป็นไปอย่างรวดเร็ว
สมุนมือขวาของหนิงเจินหย่วน เดินทางลงใต้ไปยังบ้านเกิดของหยูซื่อ และได้รู้ว่าหยูซื่อกับชายผู้นั้น เป็นคู่รักที่เติบโตมาด้วยกันแต่วัยเยาว์ ภายหลังนางถูกพ่อแม่ขายให้คนอื่น ฮูหยินเฒ่าได้ยื่นมือช่วยเหลือ รับนางมาเลี้ยงไว้ข้างกายให้รับใช้ติดตาม ต่อมาเมื่อเห็นว่านางช่างพูดช่างจา มีไหวพริบ จึงมอบนางให้แก่หนิงเจินหย่วน
หนิงเจินหย่วนใช้หยูซื่อมาข่มขู่ ชายผู้นั้นคิดว่าเขารับรู้ความจริงหมดแล้ว จึงยอมเปิดปากสารภาพในที่สุด
ความจริงเป็นดั่งที่หนิงฝู่กล่าวไว้ หยูซื่อกลัวว่าความสัมพันธ์ลับจะถูกเปิดโปง จึงวางแผนฆ่าปิดปาก
หนิงเจินหย่วนไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ข้างกายของตนจะมีสตรีที่โหดเหี้ยมเช่นนี้อยู่
ร่างกายของหนิงฝูยังไม่ทันฟื้นตัวดี หยูซื่อก็ถูกหนิงฮูหยินผู้เป็นยายหญิงของจวนจัดการเสียแล้ว แม้ว่าหยูซื่อจะเป็นคนของฮูหยินเฒ่า และได้รับความโปรดปรานมาโดยตลอด แต่คราวนี้ฮูหยินเฒ่าก็มิได้ขัดขวางแต่อย่างใด
แม้ว่าหนิงฮูหยินจะไม่กล่าวถึงเรื่องนี้ต่อหน้าหนิงฝู แต่จากท่าทางสงบนิ่งของมารดา นางก็พอจะคาดเดาถึงจุดจบของหยูซื่อได้แล้ว มารดาของนางมิใช่คนที่จะยอมให้ใครรังแกได้ง่าย ๆ
หนิงฝูได้รับความเย็นจนเป็นไข้ จึงต้องพักรักษาตัวอย่างสงบ พี่รอง พี่ชายท้องเดียวกันของนางยังอยู่ที่ชายแดน นอกเหนือจากคนในบ้านใหญ่และญาติฝ่ายมารดาที่มาเยี่ยมนางสองสามครั้ง นางก็ไม่ได้พบเจอผู้คนภายนอกเลย นับว่าได้ใช้ชีวิตอย่างสงบอยู่ช่วงหนึ่ง
กว่านางจะลุกจากเตียงได้ ก็ล่วงเลยไปครึ่งเดือนแล้ว
"อีกไม่กี่วัน ก็ถึงวันที่จะจัดงานเลี้ยงในจวนให้เจ้าแล้ว ไม่รู้เนื้อบนใบหน้าจะกลับมามีน้ำมีนวลได้ทันหรือไม่" หนิงฮูหยินทอดถอนใจ
"ท่านแม่รังเกียจว่าตอนนี้ลูกดูไม่งามแล้วหรือเจ้าคะ" หนิงฝูย้อนถาม
"เจ้าจะไม่งามได้อย่างไรกัน" หนิงฮูหยินตอบทันควัน
เพียงแต่หนิงฝูใกล้จะถึงวัยปักปิ่นแล้ว แต่ร่างกายเพิ่งเริ่มจะเจริญยืดตัว นับว่าเติบโตช้ากว่าสตรีทั่วไป พอผอมลงก็ยิ่งดูตัวเล็กเข้าไปใหญ่ หนิงฮูหยินจึงอดห่วงไม่ได้ บุตรชายจากตระกูลที่นางเคยหมายตาไว้นั้น ต่างก็ถูกจับจองไปแล้ว
คุณชายทั้งสองของจวนอ๋องเซวียน จงซื่อและจงตั่ว ไม่เพียงแต่ถูกหลายตระกูลให้ความสนใจ จวนชิ่งกั๋วกงก็หมายตาเช่นกัน หนิงฮูหยินไม่คิดจะไปแย่งชิง จึงมิได้พิจารณาเลย
ขณะที่หนิงฝูนั่งลง เว่ยจื่ออีก็กล่าวเย้าแหย่ นางคือคุณหนูสามแห่งตระกูลเว่ย และได้หมั้นหมายกับหนิงอวี้พี่ชายคนโตของหนิงฝู และยังเป็นคนที่หนิงฝูสนิทสนมด้วยมากที่สุด
"เจ้าว่างนักหรือไรถึงได้มาแหย่ข้าเล่นเช่นนี้" หนิงฝูกล่าว
"วันนั้นถูกจงซื่อช่วยไว้ รู้สึกอย่างไรบ้าง" เว่ยจื่ออีกระซิบถามข้างหูนางเบา ๆ "ทำให้เจ้าใจสั่นมากขึ้นใช่หรือไม่"
หนิงฝูชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าลงโดยมิได้เอื้อนเอ่ยคำใด
เรื่องที่นางเคยชอบจงซื่อนั้น นอกจากเว่ยจื่ออีแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดล่วงรู้เลย ในชาติก่อน เมื่อถูกเขาช่วยไว้ นางเคยแอบปลื้มยินดีอยู่นาน แต่ตอนนี้กลับรู้สึกสลับซับซ้อนยิ่งนัก
หนิงฝูมองไปยังสตรีที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ใบหน้านั้นแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มละมุนละไม อ่อนโยนไร้ที่เปรียบ นางก็คือเซี่ยหรูอี๋คุณหนูรองแห่งจวนชิ่งกั๋วกง สตรีในดวงใจของจงซื่อ
นางเป็นสตรีผู้มีสติปัญญาเลิศล้ำที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ไม่เพียงแต่งดงาม ทั้งยังเชี่ยวชาญในศาสตร์ทั้งหก นางยังเป็นสตรีที่หนิงฝูชื่นชมที่สุดอีกด้วย
แม้ขนบธรรมเนียมของต้าเยี่ยนจะมิได้เคร่งครัดนัก แต่ชายหญิงก็ยังคงต้องนั่งแยกโต๊ะกัน
หนิงฝูมองไปยังที่นั่งของบุรุษเพื่อค้นหาเงาร่างที่คุ้นเคยโดยสัญชาตญาณ จงซื่อเคยเป็นสามีของนางมานานสามปี ทั้งคู่เคยหลับนอนร่วมเตียง แม้จงซื่อจะเพิ่งผ่านพิธีสวมมงกุฏมาได้ไม่นาน รูปร่างยังแตกต่างจากวันหน้าอยู่บ้าง แต่นางก็ยังหาเงาร่างของเขาเจอได้อย่างง่ายดาย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวนคืนก่อนวิวาห์ ข้าไม่ขอเป็นภรรยาท่านอีก
รอค่าาาา อยากอ่าน จะมาอัพตอนไหนคะ...
รอค่า มาต่อไวๆนะคะ...