หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 1010

อย่างไรก็ตาม รษิกาไม่รู้ว่าเจตนินรู้เรื่องในอดีตของเธอหมดแล้ว

นั่นคือเหตุผลที่เจตนินเลิกคิ้วขึ้นและมองดูครรชิตเมื่อเขาได้ยินเธอพูดปฏิเสธ

เป็นอีกครั้งที่ครรชิตรู้สึกไม่ยุติธรรมแทนเลอศิลป์

แม้ว่าเลอศิลป์จะป่วยขนาดไหนแต่เขาก็ยืนกรานที่จะช่วยเหลือรษิกาอย่างเต็มที่ ครรชิตจึงไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงทำแบบนี้ได้ลงคอ

นอกจากนี้ เธอดูมีความลับมากเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับเลอศิลป์ ราวกับว่าเลอศิลป์คือความอับอายขายหน้าของเธอ!

แม้เขาจะมีความคิดที่อยู่ในใจมากมายเพียงใด แต่ครรชิตก็ไม่สามารถแสดงความคิดเหล่านั้นออกมาต่อหน้าเจตนินได้เลย

“สมุนไพรพวกนี้หายากมาก คุณเลอศิลป์ได้เอาสมุนไพรที่เหลือเกือบทั้งหมดมาจากมโหสถกรุ๊ป”

หัวใจของรษิกาเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่เธอก็บังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์อย่างรวดเร็ว

“ยังไงก็ฝากขอบคุณคุณเลอศิลป์ด้วยแล้วกัน…”

รษิกากังวลว่าเลอศิลป์ทำอย่างนี้เพื่อชดเชยให้เธอกับเรื่องในอดีตที่ผ่านมา

ดังนั้นเธอจึงไม่อยากรับของขวัญของเขา

และยิ่งไปกว่านั้น เพราะว่าเจตนินได้จัดเตรียมสมุนไพรไว้ให้เธออย่างเพียงพอแล้ว

ก่อนที่เธอจะพูดจบประโยค เจตนินก็พูดแทรกขึ้นมาทันที

“เนื่องจากนี้เป็นน้ำใจที่ดีจากคุณเลอศิลป์ ผมคิดว่าคุณควรจะรับมันด้วยความเต็มใจนะครับคุณรษิกา”

เจตนินมองรษิกาด้วยสีหน้าจริงจังก่อนจะพูดต่อ “งานวิจัยของเราจะมีความซับซ้อนมากขึ้นในอนาคต การมีสมุนไพรมากขึ้นก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่ครับ”

นี่มันของฟรีนะ ทำไมจะไม่เอาล่ะ?

รษิการู้สึกลังเลอีกครั้ง

ครรชิตรู้สึกทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว แม้ว่าเลอศิลป์จะป่วยแต่เขาก็ยังคิดถึงเธอและพยายามช่วยเหลือ แต่ตอนนี้เธอกำลังวางแผนที่จะไม่รับของจากเขา

ขณะที่ครรชิตกำลังจะอ้าปากพูด ในที่สุดรษิกาก็พยักหน้าตอบรับ

“ฝากขอบคุณคุณเลอศิลป์ที่เขามีน้ำใจต่อฉันด้วยนะคะ”

จากนั้นรษิกาก็พยักหน้าให้ครรชิตด้วยความขอบคุณ

ด้วยเหตุผลแปลกๆ ทำให้ครรชิตรู้สึกสับสนในใจ

คุณรษิกายอมรับยาสมุนไพรเหล่านี้เพราะเธอต้องการมันหรือเปล่านะ?

หรือว่ายอมรับเพราะเจตนินบอกให้เธอรับกันแน่?

ครรชิตรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเห็นว่าชายอีกคนต้องโน้มน้าวใจให้รษิกายอมรับของจากเลอศิลป์

สำหรับรษิกาแล้ว เธอไม่ได้มองข้ามเรื่องนี้อีกต่อไป แต่เธอกลับเดินหน้าตรวจสอบสมุนไพรก่อนที่จะให้ผู้ช่วยของเธอขนเข้าไปข้างใน

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ คุณปู่ยังรอผลรายงานของผมเกี่ยวกับงานที่เราไปให้คำปรึกษาเด็กๆ ในวันนี้”

เจตนินช่วยเหลือเธอจัดรายการสินค้าเสร็จแล้วเขาก็จากไป

รษิกามองดูขณะที่รถของเขาขับออกไป

ทันใดนั้นเสียงของครรชิตก็ดังขึ้น “คุณรษิกา…”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น รษิกาจึงหันกลับมาด้วยความสับสน

ครรชิตใช้คำพูดของเขาด้วยความระมัดระวัง แม้ว่าเขาจะรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก “ถ้าคุณไม่รังเกียจที่ผมจะถาม คุณเจตนินกับคุณ…”

ไม่จำเป็นว่าเขาจะต้องพูดจบประโยค รษิกาก็รู้ว่าเขาต้องการจะถามอะไร

“เราเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น โปรดอย่าเข้าใจผิดนะคะ”

โดยปกติแล้วครรชิตไม่ค่อยเชื่อคำพูดของเธอ แต่ครั้งนี้เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเริ่มพูดสิ่งดีๆ เกี่ยวกับเลอศิลป์

“พูดตามตรงนะครับ คุณเลอศิลป์สั่งให้ผมเอาสมุนไพรเหล่านี้มาขณะที่เขายังป่วยอยู่ วันนี้ตอนที่เขารู้สึกดีขึ้น เขาก็สั่งให้ผมเอาสมุนไพรมาให้คุณที่นี่แหละครับ”

แม้ว่าหัวใจของรษิกาจะเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ แต่เธอทำเป็นพยักหน้าตอบรับ “งั้นฉันฝากไปขอบคุณคุณเลอศิลป์ด้วยนะคะ”

แต่เนื่องจากครรชิตเป็นคนซื่อบื้อ

แค่นี้เนี่ยนะ?

เลอศิลป์ยกย่องเธอและให้เธอเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขา แล้วนี่คือส่ิงที่เขาจะได้รับเหรอ? แค่คำว่าขอบคุณเนี่ยนะ?

ราวกับว่ารษิการู้ว่ามีอะไรอยู่ในใจเขา เธอจึงพูดเสริมออกมาอีกว่า “สถาบันวิจัยนี้เป็นหนี้คุณเลอศิลป์ โปรดบอกให้เราทราบถ้าหากว่าเขาต้องการความช่วยเหลือ เราสัญญาว่าจะพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่”

แม้ว่าจะเป็นคำสัญญา แต่เธอก็บอกว่าเธอจะพยายามทำให้ดีที่สุดเท่านั้น

หัวใจของครรชิตแตกสลาย และเขารู้สึกเสียใจแทนเลอศิลป์มากเหลือเกิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม