อัญชสาปล่อยให้ไอรดาลงจากตักเธอหลังจากที่เธอได้ยินว่าเด็กเริ่มหายใจไม่ออกจากการร้องไห้อย่างหนัก
ไอรดาคลานไปที่หน้าต่างอีกฝั่งของรถทันทีและอดทนต่อความเจ็บปวดด้วยการกอดกระเป๋านักเรียนไว้แนบอกขณะที่เธอยังคงสะอื้นต่อไป
"ดี! มันควรจะต้องเจ็บแบบนี้แหละ” อัญชสาเย้ยหยันขณะที่เธอจ้องไปที่เด็กหญิงตัวเล็กๆ “ถ้าเธอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้ใครฟัง ฉันสาบานได้เลยว่าเธอจะไม่ได้เจอนังผู้หญิงคนนั้นอีกเลย”
จากนั้นเธอก็กลับไปที่เบาะหน้าและขับรถไปส่งไอรดาที่โรงเรียนต่อ
“ถึงแล้ว เช็ดน้ำตาของเธอซะ” อัญชสาสั่งหลังจากที่พวกเธอไปถึงโรงเรียน
ไอรดารีบเช็ดหน้าของเธอให้แห้ง เธอกลัวว่าจะไม่ได้เจอคุณรษิกาอันเป็นที่รักอีกตามที่อัญชสาขู่ไว้
จากนั้นอัญชสาเหลือบมองไอรดาและรู้สึกว่าหน้าของเธอดูเป็นปกติแล้ว เธอจึงเปิดประตู ขณะที่พวกเขาจูงมือกันไปยังประตูรั้วโรงเรียน เธอก็ยังคงขู่ไอรดาต่อไปว่า “อย่าร้องไห้หรือเอะอะเป็นอันขาด ถ้าใครเห็นรอยน้ำตาบนใบหน้าของเธอแม้แต่หยดเดียว เธอจะได้รู้แน่ว่ามีอะไรรอเธออยู่”
หลังจากที่เธอขู่ไอรดาแล้ว อัญชสาก็เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งด้วยรอยยิ้มหวานที่ประดับอยู่บนใบหน้าของเธอ
ไอรดาพยายามอย่างที่สุดเพื่อกลั้นน้ำตาและเดินเข้าไปหาคุณครูของเธออย่างเชื่อฟัง เธอโค้งคำนับคุณครู
“สวัสดีจ้ะไอรดา!” ครูของเธอทักทายอย่างร่าเริง เธอเห็นน้ำตาที่แห้งเหือดบนแก้มของไอรดาและขมวดคิ้วด้วยความกังวล "เกิดอะไรขึ้นคะ? หนูร้องไห้ทำไม?”
สีหน้าของอัญชสาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แต่เธอก็ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน “ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ วันนี้เธองอแงมากและไม่อยากมาโรงเรียนค่ะ เราใช้เวลาตั้งนานกว่าจะเกลี้ยกล่อมจนเธอยอมให้เราลากมาส่งที่โรงเรียนได้”
คุณครูขมวดคิ้วด้วยความสับสนเมื่อได้ยินเช่นนั้น "จริงเหรอคะ? ไอรดาไม่เคยเกลียดการมาโรงเรียนเลยนะคะ เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะเนี่ย?"
อัญชสาขมวดคิ้วแต่เธอรีบกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มและรีบเปลี่ยนเรื่อง “บางทีเธออาจจะรู้สึกไม่ค่อยสบายนักน่ะค่ะ แต่ยังไงไข้ของเธอก็ลดลงแล้ว ช่วยจับตาดูเธอไว้ให้ด้วยและถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็ติดต่อฉันทันทีนะคะคุณครู”
คุณครูตอบตกลงด้วยรอยยิ้ม เธอพยายามไม่คิดมากจนเกินไป
อัญชสามส่งไอรดาให้กับครูและแสร้งทำเป็นให้คำแนะนำสองสามคำก่อนที่จะหันหลังจากไป
เธอเพิ่งก้าวขึ้นรถแล้วก็ได้เห็นรถเบนซ์ที่คุ้นตาจอดอยู่หน้าโรงเรียน
จากนั้นรษิกาก็พาลูกสองคนของเธอลงจากรถมา
สีหน้าที่ไอรดาเพิ่งจะแจ่มใสขึ้น แต่ก็เริ่มดูหม่นหมองอีกครั้งเมื่อทั้งสามคนปรากฏตัว
ส่วนสีหน้าของอัญชสาเศร้าหมองขึ้นอย่างรวดเร็ว
เธอเฝ้าดูอย่างขมขื่นขณะที่รษิกาพูดคุยกับคุณครูอย่างสบายๆ ก่อนจะส่งตัวเด็กๆ ให้ และสีหน้าของเธอยังคงเศร้าหมองอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งรษิกาขึ้นรถและขับออกไป
เธอหยุดดูจนกว่ารถเบนซ์จะลับหายไปจากสายตาของเธอ
ถ้าเธอจำไม่ผิด ตระกูลฟ้าศิริสวัสดิ์ได้ลงทุนในโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ด้วย
เธอจึงอดไม่ได้ที่จะสงสัยอย่างมาก
เลอศิลป์ต้องพบกับรษิกาอย่างน้อยหนึ่งครั้งเวลาที่เขารับส่งไอรดาที่นี่แน่ๆ นอกจากนี้ ในฐานะผู้ถือหุ้น ไม่มีทางที่เขาจะไม่รู้ว่าลูกๆ ของรษิกาเรียนอยู่ที่นี่
อีกทั้งไอรดายังแสดงให้เห็นว่าเธอชอบผู้หญิงคนนี้มากแค่ไหน ดังนั้นใครจะรู้ว่าพวกเขาทำอะไรกันลับหลังอัญชสาบ้าง?
อัญชสารู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ เธอเห็นครูยังคงยืนอยู่ตรงนั้นจึงตัดสินใจลงจากรถโดยทำสีหน้าเคร่งขรึม
เมื่อเห็นว่าเธอเดินกลับมา คุณครูจึงถามด้วยรอยยิ้มไปว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ? มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?”
อัญชสาโค้งคำนับเล็กน้อย "สวัสดีค่ะ ฉันอยากแนะนำตัวเอง ฉันเป็นเจ้าของภักดีสรวงกรุ๊ปและต้องการบริจาคอุปกรณ์ในสนามเด็กเล่นให้กับโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ค่ะ ฉันขอคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนได้ไหมคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม
เนื้อเรื่องวนอยู่อ่าง10รอบ,😁😁😁...
วนกลับมาที่เดิมอีกรอบ ประสาทแดก นิคือ 2วันกลับมาอ่าน1บท ก้อยังวนอยู่ที่เดิม ใครซื้ออ่าน เอาตังค์ซื้อบ้านได้เลยมั้ง...
แล้วจะไงต่อ ไอวีโดนตี โดนทำร้าย หนักก่อน ? ทั้งๆ ควรจะรู้ได้แล้ว ที่โดนวางยา ขนาดนั้น เห้อออออ มาตามอ่านแต่ก็เบื่อ ว่าวนๆอยู่ที่เดิม...
ทะเลาะอึกแล้ว ถึงตอนนี้ ถ้าควรมีไรเปลี่ยนแปลงบ้างค่ะ นอกจากพากลับบ้าน วนหลูบอีกกกกแล้ว...
ที่สุดของการวนเวียนย่ำอยู่กับที่ เนื้อเรื่องไม่มีไรเลย น้ำล้วนๆ น่าจะไป5000ตอน พ่อแม่ลูกยังไม่รู้จักกัน โอ้ยประสาท ละครไทยชิบ มีไรไม่พูดกัน หลบกันไปหลบกันมา...
เนื้อเรื่องวนอยู่ในอ่างมากค่ะ น่าเบื่อ ไม่สนุก เสียดายตอนแรกๆทำไว้สะสนุกเลย เนื้อหาออกทะเล กู่ไม่กลับ ใครไหวไปก่อนเลยจ้าาา...
ไม่ถึงไหนเลยจริงๆ พอดีน่าจะเก่งกว่านี้ดูมีอิทธิพล แต่ไม่ได้เรื่องสักอย่าง แค่ลูกก็ยังไม่รู้เลย มึนนนนค่ะ...
ทำไมกดไปตอน1036ไม่ไปละ...
เข้าไปอ่านถึงตอน1035แล้วอ่ะแต่ไปต่ออีกไม่ได้...
เนื้อเรื่องหลงทางวนไปมา ไม่สนุก...