หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 114

เกือบหนึ่งชั่วโมงต่อมา จิรายุก้าวออกมาจากห้องด้วยท่าทีที่ค่อนข้างเหนื่อย

มันไม่ได้ผลอย่างที่เขาหวังไว้ แม้เขาจะงัดทุกเคล็ดลับและทฤษฎีในหนังสือที่เขาเรียนรู้มาเพื่อเกลี้ยกล่อมและกระตุ้นการตอบสนองของไอรดา

“เป็นไงบ้าง?” เลอศิลป์ถามอย่างใจจดใจจ่อ

จิรายุได้แต่ส่ายหัว “ไอวี่ปิดกั้นตัวเองอย่างถึงที่สุด เธอปฏิเสธการสื่อสารกับทุกคนรวมถึงฉัน ฉันเดาว่าเธอต้องถูกกระตุ้นจากอะไรบางอย่างมา ทางเดียวที่จะช่วยได้คือเราต้องรู้ว่าแผลในใจของเธอคืออะไร”

เลอศิลป์นิ่งไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น

ดูเหมือนว่าจิรายุจะไม่ได้สังเกตอาการของเพื่อนเขา เขาจึงถามต่อว่า “เมื่อเร็วๆ นี้ มีสถานการณ์ที่อาจจะทำให้อารมณ์ของไอวี่แปรปรวนบ้างไหม?”

ความทรงจำของเด็กน้อยทำลายความเงียบของเธอ เพราะรษิกาได้กลับมาเจอเลอศิลป์ เขาจึงมีคำตอบที่ชัดมาก

หลังจากหยุดไปสักครู่หนึ่ง เลอศิลป์จึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าให้จิรายุฟัง

จิรายุตกตะลึงเมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นมีผลต่ออารมณ์และจิตใจไอรดาได้ขนาดนี้ “บางทีผู้หญิงคนนี้อาจจะเป็นกุญแจสำคัญ อาการของไอวี่อาจจะดีขึ้นถ้าเราพาเธอมาเจอไอวี่ได้”

พาผู้หญิงคนนั้นมาเจอไอวี่เนี่ยนะ?

เมื่อนึกถึงท่าทีของการจากไปเมื่อเช้านี้ ทำให้เลอศิลป์หน้านิ่วคิ้วขมวด “เข้าใจแล้ว ฉันจะลองคุยกับเธอดู”

จิรายุพยักหน้า

ทางด้านรษิกา เธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับสถานการณ์ของไอรดา

ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะสิ่งที่เลอศิลป์พูดกับเธอ หรือเป็นเพราะเธอรู้สึกหวั่นใจตั้งแต่ออกมาจากโรงเรียนอนุบาล

เธอลองวิเคราะห์ถึงเสียงพูดและการแสดงออกของเลอศิลป์ที่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ แต่เธอก็ยังปักใจเชื่อว่าเขาต้องมีส่วนร่วมอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นแน่

รษิกาอยู่ในอารมณ์ที่ซบเซาตลอดทางกลับบ้าน และเธอยังขับรถไปด้วยความกังวลว่าลูกๆ จะสังเกตเห็นความผิดปกติ แต่เธอก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะตั้งหลักให้ดี

เด็กทั้งสองคนได้ขบคิดเรื่องนี้จนเข้าใจดีแล้ว ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นเธอกลับมาจึงรีบปรี่เข้าไปหาเธอ “ทำงานเสร็จแล้วเหรอครับแม่?”

รษิกายิ้มและพยักหน้าราวกับว่าไม่มีอะไรผิดปกติ แถมเธอยังเล่าเรื่องที่ได้เจอไอรดา “เสร็จแล้วจ้ะ แม่ได้พูดคุยกับไอวี่แทนลูกๆ ด้วยนะ”

“ขอบคุณครับแม่!” เด็กๆ ทั้งสองแสดงความขอบคุณ

การลูบหัวพวกเขาทำให้รษิการู้สึกดีขึ้นมามาก

ซึ่งตรงข้ามกับพวกเขา ละครตบตาระหว่างทั้งสามคนที่ฉายต่อหน้าต่อตาเมธินี ทำให้เมธินียิ่งเจ็บปวดและไม่พอใจกับเลอศิลป์มากยิ่งขึ้น

พวกเขาจูงแม่ไปนั่งที่โซฟาด้วยความตื่นเต้น “เนื่องจากเราไปโรงเรียนอนุบาลไม่ได้ แถมยังไม่ได้ลงทะเบียนเรียน พวกเราขออนุญาตหยุดพักการเรียนสักพักได้หรือเปล่าครับ?”

แม่ของเด็กชายทั้งคู่ยินยอมตามที่พวกเขาเรียกร้องโดยไม่ลังเล “ได้สิ พวกลูกพักจนพอใจเลยนะ พร้อมเมื่อไรแม่จะจัดการเรียนเรื่องให้เอง”

“แล้วแม่ล่ะ แม่หยุดงานสักพักด้วยได้ไหม?” เบนนี่กอดแขนอ้อนรษิกาอย่างน่ารัก “ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เราไม่ได้ออกไปเที่ยวด้วยกันนานแล้ว แม่จะไม่พาเราออกไปเที่ยวเล่นบ้างเหรอครับ? อชิกับผมอยากไปเที่ยวที่สวนสนุกยูนิเวิร์ส ป้าเมธินีบอกว่ามันสนุกมาก!”

ก่อนหน้านี้ที่พวกเขาคุยกันได้ข้อสรุปว่า การที่พ่อเขาไล่พวกเขาออกจากโรงเรียนอนุบาลนั้นอาจจะทำให้แม่เขาเสียใจไม่น้อยไปกว่าที่พวกเขาเสียใจเลย ดังนั้นพวกเขาจึงอยากพาเธอออกไปพักผ่อนบ้าง

รษิการู้สึกกังวลเล็กน้อย

เธอเลือกที่จะโอนอ่อนผ่อนตามลูกๆ เพราะเดาได้ว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร “แม่ก็ไม่ได้ไปที่นั่นมาระยะหนึ่งแล้ว แถมวันนี้แม่ก็ลางานแล้วด้วย ทำไมพวกเราไม่ไปกันวันนี้เลยล่ะ?”

เมื่อเธอพิจารณาแล้วว่าไม่มีงานเร่งด่วนที่สถาบันวิจัย อีกทั้งเธอก็ไม่มีอารมณ์ที่จะทำงานแล้ว เธอจึงเลิกลังเลและยอมลูกๆ แต่โดยดี

ทั้งสี่คนเก็บข้าวของ และมุ่งหน้าไปที่สวนสนุกยูนิเวิร์สด้วยกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม