รษิการู้สึกเหมือนกันเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ดังนั้นเมื่อได้ยินที่เบนนี่เล่า เธอก็รู้สึกอุ่นใจ “อาจจะจำได้แล้วนะ แม่ดีใจจังที่หนูสองคนช่วยดูแลไอวี่ได้อย่างนี้”
เบนนี่เอามือตบหน้าอกตัวเองด้วยความมั่นใจขณะพูดออกมาด้วยเสียงเหมือนเด็กน้อยว่า “ไม่ต้องห่วงเลยครับ แม่! อชิกับผมจะคอยดูแลให้ไอวี่ปลอดภัยตลอดไป!”
รษิกาอดขำไม่ได้เมื่อได้ยินอย่างนั้น
เลอศิลป์มองพวกเขาผ่านกระจกมองหลังเมื่อได้ยินคำสัญญาของเบนนี่และเสียงหัวเราะของรษิกา ดวงตาเขาฉายแววอ่อนโยนที่ได้เห็นช่วงเวลาอันแสนอบอุ่นที่พวกเขามีต่อกัน
เธอเลี้ยงเด็กสองคนนี้มาอย่างดีจริงๆ ฝาแฝดมีความคิดเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเด็กอื่นทั่วไปที่อายุเท่านี้
เลอศิลป์คิดว่าจะกลับเลยหลังจากส่งพวกเขาที่บ้านแล้ว เพราะเขาเห็นแล้วว่ารษิกาดูแลไอรดาดีมากขนาดไหน ยิ่งไปกว่านั้น อชิและเบนนี่ก็ปฏิบัติกับไอรดาราวกับเป็นน้องสาวแท้ๆ ด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่มีเหตุผลใดให้ต้องอยู่ต่อซึ่งรังแต่จะทำให้พวกเขาอึดอัดใจเสียเปล่าๆ
พอลงจากรถมาแล้ว รษิกาก็เหลือบมองไอรดาและพูดออกมาหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่า “กินข้าวเย็นกับเราก่อนไหมล่ะ? ฉันว่าไอวี่คงจะรู้สึกดีขึ้นมากถ้ามีคุณอยู่ด้วยนะ”
เลอศิลป์มองเธอแปลกๆ และนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะตอบว่า “ขอบคุณนะ ผมรับข้อเสนอของคุณก็ได้”
รษิกานิ่งเงียบและเดินนำเด็กๆ เข้าไปในบ้าน ส่วนเลอศิลป์ตามเข้ามาหลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเข้าไปในครัว รษิกาก็รีบไปล้างไม้ล้างมือและเริ่มทำอาหารเย็น อชิกับเบนนี่จึงพาไอรดาเข้าไปเล่นตัวต่อที่ห้องนั่งเล่นเพื่อฆ่าเวลา
เลอศิลป์ลังเลอยู่นิดหน่อยในช่วงแรก แต่ก็ตัดสินใจไปยืนข้างๆ พวกเขาและคอยช่วยเหลือเมื่อเด็กๆ ต้องการ
เด็กชายสองคนช่วยกันอย่างใกล้ชิด ไม่นานนักตัวต่อที่กระจัดกระจายอยู่ก็กลายเป็นชิ้นส่วนที่สมบูรณ์
เมื่อจะต้องประกบตัวต่อในส่วนสุดท้าย อชิก็เหลือบมองเลอศิลป์ด้วยสายตาลังเลใจ
เลอศิลป์จึงยื่นมือออกมากระตุ้นให้อชิวางชิ้นส่วนตัวต่อลงบนมือของเขา เด็กชายเม้มปากแน่นและก้มหน้าอย่างหมดคำพูด ขณะที่มองเลอศิลป์ต่อชิ้นส่วนสุดท้ายเข้าไป
ขณะที่ไอรดามองเลอศิลป์ประกบตัวต่อเข้าด้วยกันอยู่นั้น จู่ๆ เธอก็เอื้อมมือออกมาคว้าชิ้นส่วนตัวต่อเอาไว้
ทั้งอชิและเบนนี่ตาเป็นประกายขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นทันทีที่เห็นเช่นนั้น
หลังจากนิ่งไปพักหนึ่ง ไอรดาก็เริ่มต่อชิ้นส่วนตัวต่อเข้าด้วยกันด้วยความเร็วที่เทียบเท่าพวกเขาทั้งสองคน
ด้วยคิดว่าไอรดานึกออกแล้วว่าเคยเล่นตัวต่อกับพวกเขามาก่อนหน้านี้ อชิกับเบนนี่ก็มองหน้ากันด้วยความดีใจ
เลอศิลป์เองก็ตกตะลึงไปเมื่อเห็นอย่างนั้น วินาทีต่อมารอยยิ้มอันแสนอบอุ่นก็แผ่หลาอยู่เต็มหน้าเขา
ดูเหมือนไอวี่จะชอบอยู่กับเด็กแฝดจริงๆ สินะ
รษิกาเห็นว่าเด็กๆ กำลังมุ่งมั่นในการต่อตัวต่อกันอยู่ เธอจึงเลือกจะไม่รบกวนพวกเขาและเตรียมจะเสิร์ฟมื้อเย็นต่อไป
เธอก้าวออกมาจากห้องครัวแต่บังเอิญข้อศอกไปชนกับกรอบประตูเข้า ทำให้ชามซุปในมือร่วงลงไปที่พื้น
ทุกคนในห้องนั่งเล่นหันมาพร้อมกันเมื่อได้ยินเสียงดังลั่น
แน่นอนว่าเลอศิลป์เป็นคนแรกที่มีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาวิ่งเข้าไปหาเธอและถามว่า “บาดเจ็บหรือเปล่า?”
เมื่อเขามองดูใกล้ๆ เขาก็เห็นว่ามีรอยแดงเหมือนถูกน้ำร้อนลวกอยู่บนแขนของเธอ
ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไร เลอศิลป์คว้าแขนเธออีกข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอย่างระมัดระวังและพาเธอไปที่อ่างล้างจาน ก่อนจะเปิดน้ำล้างตรงบริเวณที่เป็นรอย
แม้ว่าอชิกับเบนนี่จะเป็นห่วงเธอ แต่พวกเขารู้ว่าช่วยทำแผลให้เธอไม่ได้อยู่แล้ว เด็กๆ จึงช่วยกันเก็บกวาดพื้นที่เลอะเทอะแทน
“อย่าแตะต้องนะเด็กๆ! ซุปมันร้อน เดี๋ยวจะลวกมือเอา! พาไอวี่ออกไปจากตรงนี้ก่อนนะ!” รษิการ้องบอกพวกเขาเมื่อเห็นว่ากำลังจะทำอะไร
อชิกับเบนนี่ลังเลนิดหน่อย แต่ก็ทำตามที่เธอบอก และเตรียมจะพาไอรดาออกไปจากตรงนั้น
แต่ทว่า ไอรดากลับดึงดันไม่ยอมไปและพยายามจะยืนอยู่ตรงที่เดิมให้ได้
ด้วยไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี อชิกับเบนนี่กำลังจะหันไปขอความช่วยเหลือจากรษิกา แต่ก็ได้ยินเสียงสะอื้นดังอยู่ข้างๆ พวกเขาเสียก่อน
ทุกคนต่างนิ่งเงียบและหันมามองไอรดาเป็นตาเดียวด้วยความตกใจ และก็ได้เห็นว่าน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาแดงก่ำของไอรดา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม