หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 139

เจตนาของศศิตาชัดเจนมากว่าเธอยังคงคาดหวังให้เลอศิลป์แต่งงานกับอัญชสา

ตลอดหกปีที่ผ่านมา เธอเอาแต่เซ้าซี้เขาเรื่องนี้มาหลายต่อหลายครั้ง

เลอศิลป์เลิกคิ้วด้วยความรำคาญ “ผมรู้ว่าผมทำอะไรลงไป แม่ไม่จำเป็นต้องเข้ามาแทรกแซงหรอกครับ”

ศศิตาอารมณ์เสีย “ลูกรู้ว่าทำอะไรลงไปงั้นเหรอ? นี่ลูกคิดจะยกเลิกการหมั้นจริงๆ ใช่ไหม?”

ก่อนที่เลอศิลป์จะทันได้ตอบ สีหน้าของศศิตาก็เปลี่ยนไปทันที แม้แต่น้ำเสียงก็แข็งกร้าวขึ้นด้วย “ไม่ว่าจะยังไง ลูกก็เป็นคนตกลงหมั้นกับตระกูลภักดีสรวงเอง ลูกจะทำให้เธอผิดหวังหลังจากรอมานานขนาดนี้ไม่ได้ แม่ขอห้ามไม่ให้ลูกทำผิดสัญญา ดังนั้นไม่ต้องเอาเรื่องนี้มาพูดต่อหน้าแม่อีกต่อไปนะ!”

จากนั้น ศศิตาก็หันไปมองลูกชายด้วยสายตาเข้มงวดก่อนจะมองประตูหน้าบ้านรษิกา ราวกับว่าสายตาเธอจ้องทะลุประตูไปจนเห็นรษิกาที่อยู่ข้างในได้ และสุดท้าย เธอก็ละสายตาก่อนจะเดินกลับออกไป

เมื่อร่างของแม่ลับตาไปแล้ว เลอศิลป์ก็ระงับอารมณ์ไว้แล้วกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง

ไอรดาหยุดร้องไห้แล้วโดยมีรษิกากอดปลอบอยู่ และดูเหมือนเธอจะไม่มีอาการอะไรแย่ๆ อีก เมื่อเธอเห็นพ่อเดินเข้ามา เธอก็กระโจนออกจากอ้อมแขนรษิกาและวิ่งไปกอดขาเขาไว้ ขณะที่เธอจ้องหน้าเขา เขาก็เห็นว่าตาและจมูกของลูกสาวแดงอยู่นิดหน่อย

หลังจากลูบผมปลอบโยนลูกสาวแล้ว เลอศิลป์ก็มองไปทางรษิกา “ผมขอโทษที่แม่มาทำให้คุณลำบาก ผมไม่คิดว่าจู่ๆ แม่จะมาที่นี่ได้”

เมื่อตั้งสติได้แล้ว รษิกาก็พยักหน้านิ่งๆ “ไม่เป็นไร ฉันไม่แปลกใจเลยสักนิดที่เห็นท่าทีแบบนี้ของแม่คุณ เพราะยังไงฉันก็ออกจากตระกูลฟ้าศิริสวัสดิ์ไปอย่างไม่ดีนัก อีกอย่าง แม่คุณก็ไม่เคยเห็นด้วยกับการแต่งงานของเรา แล้วเวลาก็พิสูจน์ได้ว่าเธอคิดถูก”

ย้อนกลับไปตอนนั้น รษิกาแต่งงานกับเลอศิลป์ทั้งที่ศศิตาคัดค้าน น่าเสียดายที่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องทรมานใจกัน

เมื่อเธอกลับมาที่ประเทศนี้ เธอคิดถึงความเป็นไปได้ที่ตระกูลฟ้าศิริสวัสดิ์จะทำให้เธอลำบาก แต่เธอก็ไม่คิดจะกลับไปข้องแวะกับเลอศิลป์อีก จึงไม่เคยนึกเลยว่าจะต้องมาเผชิญหน้ากับศศิตาในสถานการณ์เช่นนี้

เลอศิลป์ขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำตอบเธอแต่ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี เพราะที่รษิกาพูดออกมานั้นเป็นความจริงทุกประการ

อันที่จริง อคติที่แม่เขามีต่อรษิกานั้นไม่เคยลดน้อยถอยลงไปเลยแม้สักนิด

จู่ๆ ความเงียบก็เข้าปกคลุมไปทั่วทั้งห้องนั่งเล่น

“คุณรษิกา คุณเลอศิลป์คะ” คติยาเอ่ยออกมาอย่างระมัดระวัง “ได้เวลาส่งเด็กๆ ไปโรงเรียนแล้วค่ะ”

ทั้งสองจึงหลุดออกจากภวังค์แห่งความคิด

ขณะที่รษิกาจับมือลูกชายของเธอ เธอก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมองเลอศิลป์ “แล้วไอวี่ล่ะ… คุณจะพาเธอไป หรือว่าอยากให้ฉันดูแลเธอต่อคะ?”

คำพูดของศศิตาย้ำเตือนรษิกาว่าไอรดาจะอยู่กับเธอตลอดไปไม่ได้แน่นอน

เมื่อเลอศิลป์กำลังจะตอบ ไอรดาก็คลายกอดจากขาของเขาและวิ่งกลับไปคว้าชายกระโปรงของรษิกาไว้ทันที

ทั้งรษิกาและเลอศิลป์ต่างตื่นตระหนกกับท่าทีของเธอ

เมื่อไอรดาได้ยินว่าจะต้องไปจากรษิกาเป็นครั้งที่สองในเช้าวันนี้ ดวงตาเธอก็ยิ่งแดงและชุ่มน้ำตามากไปกว่าเดิม เธอมองเลอศิลป์ด้วยสายตาอ้อนวอน และดูเหมือนเธอกำลังจะร้องไห้อีกถ้าเขาตัดสินใจพาเธอกลับไป

ด้วยความที่เขาไม่ตั้งใจจะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว เลอศิลป์จึงตอบไปว่า “รบกวนคุณช่วยดูแลเธอต่อไปก่อนเพราะอาการเธอยังไม่คงที่ แต่ถ้าคุณไม่สะดวก คุณก็บอกให้คติยาพาเธอกลับบ้านได้เลยนะ”

รษิกาเห็นว่าไอรดาน่าสงสารแค่ไหน เธอจึงพยักหน้าด้วยหัวใจที่หวั่นไหวไปหมด

ทันทีที่รษิกาตอบตกลงจะดูแลเธอต่อ ความโศกเศร้าของไอรดาก็ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มที่แสนจะมีความสุข

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม