เจตนาของศศิตาชัดเจนมากว่าเธอยังคงคาดหวังให้เลอศิลป์แต่งงานกับอัญชสา
ตลอดหกปีที่ผ่านมา เธอเอาแต่เซ้าซี้เขาเรื่องนี้มาหลายต่อหลายครั้ง
เลอศิลป์เลิกคิ้วด้วยความรำคาญ “ผมรู้ว่าผมทำอะไรลงไป แม่ไม่จำเป็นต้องเข้ามาแทรกแซงหรอกครับ”
ศศิตาอารมณ์เสีย “ลูกรู้ว่าทำอะไรลงไปงั้นเหรอ? นี่ลูกคิดจะยกเลิกการหมั้นจริงๆ ใช่ไหม?”
ก่อนที่เลอศิลป์จะทันได้ตอบ สีหน้าของศศิตาก็เปลี่ยนไปทันที แม้แต่น้ำเสียงก็แข็งกร้าวขึ้นด้วย “ไม่ว่าจะยังไง ลูกก็เป็นคนตกลงหมั้นกับตระกูลภักดีสรวงเอง ลูกจะทำให้เธอผิดหวังหลังจากรอมานานขนาดนี้ไม่ได้ แม่ขอห้ามไม่ให้ลูกทำผิดสัญญา ดังนั้นไม่ต้องเอาเรื่องนี้มาพูดต่อหน้าแม่อีกต่อไปนะ!”
จากนั้น ศศิตาก็หันไปมองลูกชายด้วยสายตาเข้มงวดก่อนจะมองประตูหน้าบ้านรษิกา ราวกับว่าสายตาเธอจ้องทะลุประตูไปจนเห็นรษิกาที่อยู่ข้างในได้ และสุดท้าย เธอก็ละสายตาก่อนจะเดินกลับออกไป
เมื่อร่างของแม่ลับตาไปแล้ว เลอศิลป์ก็ระงับอารมณ์ไว้แล้วกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง
ไอรดาหยุดร้องไห้แล้วโดยมีรษิกากอดปลอบอยู่ และดูเหมือนเธอจะไม่มีอาการอะไรแย่ๆ อีก เมื่อเธอเห็นพ่อเดินเข้ามา เธอก็กระโจนออกจากอ้อมแขนรษิกาและวิ่งไปกอดขาเขาไว้ ขณะที่เธอจ้องหน้าเขา เขาก็เห็นว่าตาและจมูกของลูกสาวแดงอยู่นิดหน่อย
หลังจากลูบผมปลอบโยนลูกสาวแล้ว เลอศิลป์ก็มองไปทางรษิกา “ผมขอโทษที่แม่มาทำให้คุณลำบาก ผมไม่คิดว่าจู่ๆ แม่จะมาที่นี่ได้”
เมื่อตั้งสติได้แล้ว รษิกาก็พยักหน้านิ่งๆ “ไม่เป็นไร ฉันไม่แปลกใจเลยสักนิดที่เห็นท่าทีแบบนี้ของแม่คุณ เพราะยังไงฉันก็ออกจากตระกูลฟ้าศิริสวัสดิ์ไปอย่างไม่ดีนัก อีกอย่าง แม่คุณก็ไม่เคยเห็นด้วยกับการแต่งงานของเรา แล้วเวลาก็พิสูจน์ได้ว่าเธอคิดถูก”
ย้อนกลับไปตอนนั้น รษิกาแต่งงานกับเลอศิลป์ทั้งที่ศศิตาคัดค้าน น่าเสียดายที่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องทรมานใจกัน
เมื่อเธอกลับมาที่ประเทศนี้ เธอคิดถึงความเป็นไปได้ที่ตระกูลฟ้าศิริสวัสดิ์จะทำให้เธอลำบาก แต่เธอก็ไม่คิดจะกลับไปข้องแวะกับเลอศิลป์อีก จึงไม่เคยนึกเลยว่าจะต้องมาเผชิญหน้ากับศศิตาในสถานการณ์เช่นนี้
เลอศิลป์ขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำตอบเธอแต่ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี เพราะที่รษิกาพูดออกมานั้นเป็นความจริงทุกประการ
อันที่จริง อคติที่แม่เขามีต่อรษิกานั้นไม่เคยลดน้อยถอยลงไปเลยแม้สักนิด
จู่ๆ ความเงียบก็เข้าปกคลุมไปทั่วทั้งห้องนั่งเล่น
“คุณรษิกา คุณเลอศิลป์คะ” คติยาเอ่ยออกมาอย่างระมัดระวัง “ได้เวลาส่งเด็กๆ ไปโรงเรียนแล้วค่ะ”
ทั้งสองจึงหลุดออกจากภวังค์แห่งความคิด
ขณะที่รษิกาจับมือลูกชายของเธอ เธอก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมองเลอศิลป์ “แล้วไอวี่ล่ะ… คุณจะพาเธอไป หรือว่าอยากให้ฉันดูแลเธอต่อคะ?”
คำพูดของศศิตาย้ำเตือนรษิกาว่าไอรดาจะอยู่กับเธอตลอดไปไม่ได้แน่นอน
เมื่อเลอศิลป์กำลังจะตอบ ไอรดาก็คลายกอดจากขาของเขาและวิ่งกลับไปคว้าชายกระโปรงของรษิกาไว้ทันที
ทั้งรษิกาและเลอศิลป์ต่างตื่นตระหนกกับท่าทีของเธอ
เมื่อไอรดาได้ยินว่าจะต้องไปจากรษิกาเป็นครั้งที่สองในเช้าวันนี้ ดวงตาเธอก็ยิ่งแดงและชุ่มน้ำตามากไปกว่าเดิม เธอมองเลอศิลป์ด้วยสายตาอ้อนวอน และดูเหมือนเธอกำลังจะร้องไห้อีกถ้าเขาตัดสินใจพาเธอกลับไป
ด้วยความที่เขาไม่ตั้งใจจะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว เลอศิลป์จึงตอบไปว่า “รบกวนคุณช่วยดูแลเธอต่อไปก่อนเพราะอาการเธอยังไม่คงที่ แต่ถ้าคุณไม่สะดวก คุณก็บอกให้คติยาพาเธอกลับบ้านได้เลยนะ”
รษิกาเห็นว่าไอรดาน่าสงสารแค่ไหน เธอจึงพยักหน้าด้วยหัวใจที่หวั่นไหวไปหมด
ทันทีที่รษิกาตอบตกลงจะดูแลเธอต่อ ความโศกเศร้าของไอรดาก็ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มที่แสนจะมีความสุข
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม
เนื้อเรื่องวนอยู่อ่าง10รอบ,😁😁😁...
วนกลับมาที่เดิมอีกรอบ ประสาทแดก นิคือ 2วันกลับมาอ่าน1บท ก้อยังวนอยู่ที่เดิม ใครซื้ออ่าน เอาตังค์ซื้อบ้านได้เลยมั้ง...
แล้วจะไงต่อ ไอวีโดนตี โดนทำร้าย หนักก่อน ? ทั้งๆ ควรจะรู้ได้แล้ว ที่โดนวางยา ขนาดนั้น เห้อออออ มาตามอ่านแต่ก็เบื่อ ว่าวนๆอยู่ที่เดิม...
ทะเลาะอึกแล้ว ถึงตอนนี้ ถ้าควรมีไรเปลี่ยนแปลงบ้างค่ะ นอกจากพากลับบ้าน วนหลูบอีกกกกแล้ว...
ที่สุดของการวนเวียนย่ำอยู่กับที่ เนื้อเรื่องไม่มีไรเลย น้ำล้วนๆ น่าจะไป5000ตอน พ่อแม่ลูกยังไม่รู้จักกัน โอ้ยประสาท ละครไทยชิบ มีไรไม่พูดกัน หลบกันไปหลบกันมา...
เนื้อเรื่องวนอยู่ในอ่างมากค่ะ น่าเบื่อ ไม่สนุก เสียดายตอนแรกๆทำไว้สะสนุกเลย เนื้อหาออกทะเล กู่ไม่กลับ ใครไหวไปก่อนเลยจ้าาา...
ไม่ถึงไหนเลยจริงๆ พอดีน่าจะเก่งกว่านี้ดูมีอิทธิพล แต่ไม่ได้เรื่องสักอย่าง แค่ลูกก็ยังไม่รู้เลย มึนนนนค่ะ...
ทำไมกดไปตอน1036ไม่ไปละ...
เข้าไปอ่านถึงตอน1035แล้วอ่ะแต่ไปต่ออีกไม่ได้...
เนื้อเรื่องหลงทางวนไปมา ไม่สนุก...