หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 158

รษิกาเงียบไปหลังจากที่เธอทักทายพวกเขา เนื่องจากอัครพลไม่เปิดโอกาสให้เธอออกไป เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอยู่ฟังการสนทนาของพวกเขา

ศศิตาละสายตาจากรษิกาและมองไปที่อัครพลอย่างจริงจัง “ช่างเป็นพรอันแสนวิเศษสำหรับตระกูลคชาเรศที่ตอนนี้คุณสบายดี!”

อัครพลยิ้มและพยักหน้าก่อนจะหันไปทางรษิกา “ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณคุณหมอรษิกา ถ้าไม่มีเธอ ฉันคงยังนอนติดเตียงอยู่อย่างนั้นแน่นอน!”

ทันทีที่คำพูดเหล่านั้นจบลง ทุกคนก็หันมามองรษิกา

กุลธิดาพูดเสริมว่า “อันที่จริง คุณหมอรษิกาคือผู้ที่ช่วยชีวิตตระกูลคชาเรศไว้เลยนะคะ”

ด้วยคำพูดไม่กี่คำ เธอทำให้ศศิตาและคนอื่นๆ หันเหความสนใจไปที่รษิกา

รษิกาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วยิ้มออกมา “ฉันไม่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็นผู้ช่วยชีวิตหรอกค่ะ แม้ว่าในฐานะหมอก็ตาม ฉันแค่ทำตามหน้าที่เท่านั้นเอง ฉันยินดีมากๆ เลยนะคะที่ได้รักษาคุณอัครพล”

ความชื่นชมของอัครพลที่มีต่อเธอยิ่งเพิ่มขึ้นอีกเมื่อเขาเห็นว่าเธอถ่อมตัวเพียงใด

ศศิตาหน้าเสียเมื่อสังเกตเห็นท่าทีของอัครพลที่มีต่อรษิกา แต่เธอยังคงยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันว่า “ก็ไม่เลวเลยนะสำหรับหมอที่ยังสาวอย่างเธอ พวกเราเสาะหาแพทย์ที่มีชื่อเสียงมาตั้งมากมาย และกลับไม่มีสักคนที่รักษาได้สำเร็จ ช่างน่าประหลาดใจอะไรอย่างนี้นะ”

แม้จะดูเหมือนว่าศศิตาชื่นชมเธอ แต่รษิกาก็สัมผัสได้ถึงความเป็นปรปักษ์ในคำพูดเหล่านั้น

รษิการู้สึกหดหู่และเธอไม่สนใจศศิตา

อัญชสาไม่พอใจที่ทุกคนให้ความสำคัญกับรษิกา ทันทีที่ทุกคนเงียบลง เธอก็ปล่อยแขนของศศิตาแล้วเดินไปหาอัครพลเธอพูดด้วยน้ำเสียงมีจริตจะก้านว่า “คุณปู่อัครพลขา คุณปู่จะมีชีวิตที่ยืนยาวและไม่มีความเครียดแล้ว เพราะตอนนี้คุณปู่หายจากโรคร้ายแล้วนะคะ!”

อัครพลหันความสนใจมาที่เธอและยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ทำไมเธอถึงพูดอย่างนั้น?”

“แหม ใครๆ ก็พูดกันค่ะ! ฉันรู้ว่าคุณปู่จะมีชีวิตที่ยืนยาวและแข็งแรงมากเลยนะคะ คุณปู่อัครพล!” อัญชสายิ้ม

อัครพลมีความสุขเมื่อได้ยินคำหวานๆ เหล่านั้น "ขอบคุณมาก! หวังว่าที่เธอพูดมันจะเป็นความจริงนะ!”

สิ้นคำนั้น เขาก็หันกลับมามองที่รษิกา ราวกับว่าเขาพยายามจะบอกว่ารษิกาสมควรได้รับความดีความชอบในเรื่องนี้ไปทั้งหมด

อัญชสาสังเกตเห็นอาการนั้น เธอจึงจงใจทำหน้ามุ่ยและเริ่มตำหนิตัวเองขณะที่พูดว่า “น่าเสียดายจังที่ฉันไม่สามารถหาหมอที่น่าประทับใจเท่าคุณหมอรษิกามาได้ ไม่อย่างนั้นคุณปู่คงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานนานขนาดนี้!”

อัครพลรีบโบกมือเป็นเชิงปฏิเสธ และเขาพูดอย่างร่าเริงว่า “ทำไมเธอถึงพูดอย่างนั้น? แม้ว่าฉันจะล้มหมอนนอนเสื่อมาหลายปีแล้ว แต่ฉันก็ตระหนักดีถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวฉัน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเพื่อหาหมอเก่งๆ มากมายมาให้ฉัน ใช่ไหม? ฉันจะจดจำความใจดีของเธอไว้ตลอดไปนะ!”

อัญชสาตอบด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “ถึงอย่างนั้นก็เถอะค่ะ หมอทั้งหมดที่ฉันหามาช่างไร้ประโยชน์...”

อัครพลรู้สึกประทับใจเมื่อเห็นว่าเธอห่วงใยมากเพียงใด เขาพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าว่า “ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนดี เธอเองก็สมควรได้รับความดีความชอบที่หาหมอเหล่านั้นมาให้ฉันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่งั้นฉันคงทรมานมากกว่านี้แน่ๆ”

กุลธิดาก็รีบปลอบเธอเช่นกัน “อัญชสา เธอช่างเป็นคนใจกว้าง อันที่จริง เธอปฏิบัติต่อคุณปู่อัครพลเหมือนคุณปู่ตัวเองด้วยซ้ำ! พวกเรารู้สึกซาบซึ้งใจมากเลยนะ”

หลังจากพูดอย่างนั้น กุลธิดาก็นึกได้ว่าเลอศิลป์มีส่วนในการรักษาอัครพลอย่างไรบ้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “เลอศิลป์ เธอก็เช่นกันนะจ๊ะ ขอบคุณมาก” เธอกล่าวเสริม

เลอศิลป์พยักหน้าเล็กน้อยเป็นการตอบรับ “เราแค่ทำตามหน้าที่ในฐานะลูกหลานครับ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น กุลธิดาก็มองชุดของพวกเขาทันทีและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ของดีมักมาคู่กัน จริงไหม? เธอเองก็อยู่กับอัญชสามาหลายปีแล้ว ฉันเดาว่าเราคงจะได้เจอกันอีกครั้งที่งานหมั้นของพวกเธอนะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม