หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 163

ทันใดนั้น บรรยากาศรอบตัวคนทั้งนิ่งก็เงียบงันขณะที่สายตาของทุกคนจับจ้องมาทางเธอ

รษิกาขมวดคิ้วด้วยความไม่สบายใจ เธอไม่ต้องการจะพูดคุยกับเลอศิลป์มากเกินความจำเป็น เธอจึงหันไปหาจักรภพแทน “ลมอะไรหอบคุณมาคุยกับพวกเราตรงนี้ได้คะ? คุณจักรภพ”

จักรภพหัวเราะเบาๆ หลังจากที่อึ้งอยู่ครู่หนึ่ง “มันดูไม่ค่อยสุภาพน่ะครับที่เชิญคุณมาแต่ไม่ได้คอยดูแลคุณเลย ผมก็เลยคิดว่าควรจะมาตรงนี้และคุยกับคุณสักหน่อย”

สิ้นคำนั้น ความเงียบก็ตามมา จักรภพจึงหันไปส่งสายตาที่เต็มไปด้วยนัยยะบางอย่างให้กับเลอศิลป์

ฝ่ายเลอศิลป์ดูเหมือนจะไม่แยแสอะไร เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีเจตนาจะชี้แจงว่าเขาเดินมาตรงนี้ทำไม

จักรภพไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากยอมรับความผิดเป็นของตัวเองแต่เพียงผู้เดียว

รษิกายิ้มบางๆ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อันที่จริงฉันก็บังเอิญเจอกับรณภพที่นี่แล้ว ช่วงนี้เราก็ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไร ก็เลยมีเรื่องให้คุยกันเยอะแยะเต็มไปหมด ฉันขอบคุณมากเลยนะคะที่คุณใจดีจะช่วยดูแลฉัน แต่คุณไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ค่ะ”

จักรภพสำลักกับการบอกปัดข้อเสนอที่แสนจะอ่อนโยนของเธอ ขณะที่เขากำลังพยายามหาข้อแก้ตัวอื่นเพื่อที่จะอยู่คุยต่อ ก็มีเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งเดินเข้ามาใกล้และดึงความสนใจของเขาไป

“อยู่ที่นี่เองเหรอคะ เลอศิลป์” เสียงของอัญชสาดังมา “แม่คุณถามหาคุณอยู่แน่ะ คุณควรไปดูหน่อยนะว่าเธออยากได้อะไรหรือเปล่า”

จักรภพได้แต่ระงับข้อแก้ตัวที่เขาเพิ่งคิดได้เอาไว้

เลอศิลป์ขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้ออกไปในทันที หญิงสาวข้างหลังเขาเดินมายืนอยู่ข้างเขาแล้ว เธอจ้องหน้ารษิกาด้วยสายตาคมกริบขณะที่เธอเดินเข้ามา

รษิการู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นภาพของคนทั้งสองยืนอยู่ข้างกัน “ดูเหมือนคุณมีธุระอะไรที่จะต้องไปทำนะ อย่าปล่อยให้ฉันต้องรบกวนคุณอยู่อย่างนี้เลย”

สิ้นคำนั้น เธอก็กระซิบอะไรบางอย่างกับรณภพ แล้วคนทั้งคู่ก็หันหลังเดินจากไป

อัญชสายืนอยู่ข้างๆ เลอศิลป์และคอยเตือนตลอดเวลาว่าศศิตาต้องการเจอเขาเพื่อป้องกันไม่ให้เขารั้งรษิกาเอาไว้

“คุณศศิตาดูเหมือนจะรีบด้วยนะ ฉันควรจะไปกับคุณด้วย” อัญชสารู้สึกใจหายเมื่อเห็นเขาจ้องหญิงสาวคนนั้นเดินห่างออกไป ด้วยความตื่นตระหนก การย้ำเตือนของเธอค่อยๆ เพิ่มความเร่งด่วนและเสียงก็สูงขึ้นมาอีกด้วย

เลอศิลป์ที่รู้สึกหงุดหงิดอยู่แล้ว จึงหันมาส่งสายตาเย็นชาใส่เธอ ทำเอาอัญชสาหุบปากไปในทันที

วินาทีต่อมา ชายหนุ่มก็เดินผ่านเธอไปอย่างไม่แยแสโดยไม่เหลือบมองเธอเลยแม้แต่น้อย

อัญชสาอึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนจะตั้งสติได้และเดินตามเขาไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับกัดฟันแน่น

ระหว่างนั้น รษิกากับรณภพก็เจอที่เงียบๆ ให้นั่งคุยกัน

รณภพอดถามไม่ได้ว่า “เกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณกับคุณเลอศิลป์เหรอ? รษิกา”

รษิกายิ้ม “ไม่มีอะไรหรอก เราก็เจอกันโดยบังเอิญน่ะ”

แต่ทว่ารณภพก็รู้สึกสงสัย “จริงเหรอ? ผมคิดว่าคุณสองคนคิดจะกลับไปอยู่ด้วยกันเสียอีก”

ความเกลียดชังที่เลอศิลป์แผ่ออกมายังคงติดตาตรึงใจเขาอยู่เลย

รษิกาไม่คิดว่าเขาจะเข้าใจผิดไปเช่นนี้ “จะเป็นอย่างนั้นได้ไง?” เธอถามด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “คุณไม่ได้สังเกตเลยเหรอ? คู่หมั้นเขาก็ยืนอยู่ข้างเขานั่นไง”

รณภพกำลังจะถามต่อแต่รษิกาไม่อยากคุยเรื่องนี้อีกจึงเปลี่ยนหัวข้ออย่างตรงไปตรงมา “มาคุยเรื่องอื่นกันดีกว่านะ เราคุยถึงไหนกันแล้วล่ะ?”

เธอพูดถึงเรื่องที่พวกเขากำลังคุยกันก่อนที่จักรภพจะเข้ามา

รณภพไม่ถามต่อเพราะเห็นว่าเธอต้องการอย่างนั้น เขาพูดเรื่องเกี่ยวกับการแพทย์ที่คุยค้างกันอยู่ต่อไป

ด้วยความที่ทั้งสองต่างเป็นผู้นำในสาขาที่ตัวเองถนัด พวกเขาจึงทิ้งเรื่องส่วนตัวไว้เบื้องหลังและพุ่งความสนใจไปยังบทสนทนาในหัวข้อที่น่าตื่นเต้นแทน

รษิกาเริ่มจะถอดใจที่ต้องเสียเวลาไปกับงานเลี้ยงวันเกิดอันน่าเบื่อ แต่เมื่อรณภพปรากฏตัวก็ทำให้การมาร่วมงานในครั้งนี้ของเธอช่างแสนคุ้มค่า

แต่เธอก็เริ่มเป็นกังวลเมื่องานเลี้ยงนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิกราแม้จะปาเข้าไปสี่ทุ่มแล้วก็ตาม

เด็กทั้งสามที่บ้านโดยเฉพาะไอรดากำลังรอเธออยู่ สองสามวันที่ผ่านมานี้ เด็กหญิงตัวน้อยจะหลับได้ก็ต่อเมื่อรษิกาเข้าไปกล่อมเธอนอนเท่านั้น เธอมักจะหลับยากถ้ารษิกาไม่ได้อยู่ด้วยกันกับเธอ

ด้วยความคิดเช่นนั้น ทำให้รษิการีบจบการสนทนากับรณภพก่อนจะลุกขึ้นกล่าวอำลาอัครพล

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม