หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 1665

พงศกรขมวดคิ้วเมื่อได้รับคำตอบจากเลอศิลป์ จากนั้นเขาก็ส่ายหัว

ทุกคนสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าพงศกรหมายถึงอะไร แต่ก็ไม่กล้าถามเขาว่าทำไมเหมือนกัน

หลังจากเงียบไปนาน ในที่สุดพวกเขาก็ได้ยินพงศกรพูดว่า “พิษจตุปริศนาคือพิษสี่ชนิดในสมัยโบราณ ได้แก่ กระเรียนแดง หญ้าปั่นไส้ วันมรณะ และรอยยิ้มบ้าคลั่ง พวกมันไม่มีอยู่จริง และไม่มีทางที่จะหามาได้”

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เจตนินยังคงบอกเรื่องไร้สาระให้เขาฟัง

ดวงตาของเลอศิลป์หม่นหมองก่อนที่แววอาฆาตจะแวบขึ้นมา

เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจตนินจะโกหกเขาแม้ว่าเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์นั้นก็ตาม

ถ้ามีคนจริงจังกับคำพูดของเจตนินและเริ่มแผนการรักษารษิกาตามคำพูดของเขา รษิกาคงจวนจะตายอย่างแน่นอนในตอนนั้น

เพื่อระงับความโกรธ เลอศิลป์จึงถามอย่างสุภาพว่า “อาจารย์หมอพงศกรครับ คุณคิดยังไงกับอาการของรษิกาเหรอครับ?”

พงศกรหันไปมองรษิกาอย่างเงียบๆ สักพักก่อนจะพูดว่า “พวกเธอทุกคนต้องออกไปแล้ว ฉันต้องให้เธอตรวจร่างกายโดยละเอียด”

ไม่มีใครกล้าคัดค้านเรื่องนั้น

แม้จะกังวลเรื่องรษิกา แต่พวกเขาก็ออกจากห้องไป

แม้แต่เลอศิลป์ก็ยังออกไปยืนอยู่ที่ทางเข้า เขามองเข้าไปในห้องผ่านหน้าต่างตรงประตู

เขารู้ว่าพงศกรต้องการตรวจสุขภาพรษิกาจริงๆ แต่เขาไม่กล้าปล่อยให้รษิกาละสายตาไปจากอาการปัจจุบันของเธอ

“เลอศิลป์ อาจารย์หมอพงศกรเป็นคนมีความสามารถ ฉันแน่ใจว่าเขาจะสามารถรักษารษิกาได้” จักรภพให้ความมั่นใจกับเลอศิลป์

แม้แต่เมธินีก็ยังพยักหน้าเห็นด้วย

นอกจากเลอศิลป์แล้ว ไม่มีใครในโลกนี้ที่กังวลเรื่องรษิกามากไปกว่าเธอ

อย่างไรก็ตาม ในฐานะบุคคลากรในวงการแพทย์ เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับราชาแห่งการแพทย์แห่งเมืองมิตรมณีมาก่อน

เมธินีมั่นใจในความสามารถของพงศกรในการรักษารษิกา

แม้ว่าพวกเขาจะให้ความมั่นใจแล้ว แต่เลอศิลป์ก็เพียงพยักหน้าให้พวกเขาขณะที่ยังคงจ้องมองรษิกาต่อไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม