หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 176

แม้ว่าจะงานยุ่งเพียงใด เลอศิลป์ก็มักจะไปปรากฏตัวอยู่ที่หน้าบ้านของรษิกาเป็นประจำทุกวัน

ในหัวของเขามีเพียงเหตุการณ์ที่รษิกาและรณภพพบกันฉายวนไปวนมาซ้ำๆ รวมถึงเหตุการณ์ที่เธอถามเขากลับอย่างฉุนเฉียวอีกด้วย

หลังจากที่พวกเขาทะเลาะกัน รษิกายังแนะนำอีกด้วยว่าให้พาไอรดากลับบ้านไปกับเขาด้วย ดังนั้นเลอศิลป์จึงทำได้แค่แอบมองพวกเขาทั้งสี่คนจากระยะไกลแทนที่จะเผยตัวให้รษิกาเห็น

ไอรดากลับมาร่าเริงมากขึ้นทุกๆ วัน เลอศิลป์คิดเองว่าน่าจะเป็นเพราะเธอรักรษิกา เขาไม่รู้ว่าไอรดากำลังเริ่มหัดพูดอยู่ตอนนี้

ขณะเดียวกันนั้นเอง อัญชสาก็ปรากฏตัวขึ้นที่ตึกของบริษัทฟ้าศิริสวัสดิ์กรุ๊ปเมื่อถึงเวลาเลิกงาน

“ผมต้องขอโทษด้วยครับคุณอัญชสา แต่คุณเลอศิลป์เพิ่งจะกลับไปเองครับ” ครรชิตบอกเธอเมื่อเห็นเธอกดปุ่มในลิฟท์ที่ไปยังแผนกของผู้บริหาร ส่วนตัวเขาเองเพิ่งเลิกงาน

ได้ยินดังนั้นอัญชสาก็ขมวดคิ้ว “เขาไปไหน?”

ครรชิตยิ้มให้เธออย่างสุภาพ “ผมไม่ทราบตารางเวลาของเจ้านายหลังจากเลิกงานเลยครับ หากคุณสงสัย คุณน่าจะลองโทรถามเขาเองนะครับว่าเขาอยู่ที่ไหน”

เขาโค้งให้เธออย่างสุภาพและหันหลังจากไป

เมื่อประตูลิฟท์ปิดลงต่อหน้าเธอ อัญชสาก็กัดปากตัวเอง คลื่นแห่งความโกรธถาโถมซัดใส่เธอ

แม้ว่าเลอศิลป์จะทำให้เธออับอายขายหน้าและตกเป็นขี้ปากของคนในสังคมชั้นสูง เธอก็ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

สองสามวันมานี้เธอไม่เคยหยุดพยายามติดต่อเลอศิลป์เลย และคาดหวังว่าบางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจบ้าง

ถ้าเลอศิลป์เปลี่ยนใจและกำหนดวันแต่งงานกับเธอ ข่าวลือทั้งหลายเหล่านั้นก็จะสงบลง

นั่นเป็นทางเดียว ไม่มีทางอื่นให้เธอพลิกสถานการณ์ได้แล้วในตอนนี้

อัญชสารู้สึกผิดหวังอย่างมากหลังจากที่พยายามติดต่อเขาแต่กลับได้รับการปฏิบัติอย่างเย็นชา

หลังจากเหตุการณ์ในงานวันเกิดครั้งนั้น เลอศิลป์ไม่เคยมาปลอบโยนหรือขอโทษตระกูลภักดีสรวงเลย เขาเอาแต่วุ่นวายอยู่กับรษิกา

ไม่จำเป็นต้องโทรหาเลอศิลป์ อัญชสาก็รู้ว่าเขาน่าจะต้องอยู่กับผู้หญิงร้ายกาจคนนั้น

เมื่อคิดได้ดังนั้น อัญชสาก็กดปุ่มเปิดลิฟท์และออกไปจากบริษัท

อัญชสาเห็นสุเมธและจันทราอยู่ในห้องนั่งเล่นเมื่อเธอกลับมาถึงบ้าน

เมื่อเธอเดินเข้าไป พวกเขากำลังจะเอ่ยถามว่าได้เจอเลอศิลป์ไหม แต่เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของอัญชสาพวกเขาก็รู้ได้ในทันที “เลอศิลป์ไม่อยู่อีกแล้วเหรอ?”

สองสามวันที่ผ่านมา อัญชสาและพ่อแม่ของเธอพยายามที่จะเข้าพบเลอศิลป์ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะเขาไม่ยอมให้เข้าพบเลยตลอดเวลา

อัญชสาไปหาเขาสองสามครั้ง เขาก็ปฏิเสธไม่ให้เธอเข้าพบ

อัญชสาโกรธจัดจนปากระเป๋าเธอลงบนพื้น “ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของนังผู้หญิงสารเลวคนนั้นคนเดียว! นังนั่นมันมีอะไรดีนักหนา?”

จันทราขมวดคิ้ว “เลอศิลป์ไปหาผู้หญิงคนนั้นอีกแล้วเหรอ?”

อัญชสาทรุดตัวลงนั่งถัดจากพ่อแม่ของเธออย่างหงุดหงิด “หึ! ทุกคนพูดกันว่าเลอศิลป์จะแต่งงานกับรษิกา และบอกว่าหนูเป็นพวกชอบฉวยโอกาสที่เกาะเขาแน่นเป็นปลิงอย่างน่าไม่อาย เลอศิลป์ไม่ต้องการหนูเลยแม้ว่าหนูจะทุ่มเททุกอย่างให้กับเขา!”

จันทราและสุเมธสบตากัน

พวกเขาได้ยินข่าวลือนี้มาบ้างเหมือนกัน และคิดเช่นเดียวกันกับอัญชสาว่าข่าวลือนี้จะยุติลงได้ก็ต่อเมื่อเลอศิลป์ยอมแต่งงานกับลูกสาวของพวกเขา

น่าเสียดายที่ทุกสิ่งไม่เป็นไปตามแผนของพวกเขา

จันทราลูบหลังอัญชสาด้วยความห่วงใย “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราต้องได้คำอธิบายจากเลอศิลป์ในไม่ช้า ใจเย็นๆ ลงก่อนนะลูก”

“แม่กำลังบอกให้หนูใจเย็นงั้นเหรอ? ถ้าพวกเรารอนานกว่านี้ นังผู้หญิงสารเลวคนนั้นได้แต่งงานกับเขาเร็วๆ นี้แน่!” อัญชสาคำรามขึ้นพร้อมกับทำสีหน้าที่ดูเหมือนเสียสติ

แม้ว่าจันทราจะไม่พอใจแต่เธอก็สงบสติอารมณ์เอาไว้ “สิ่งที่เลอศิลป์อยากได้อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลฟ้าศิริสวัสดิ์ต้องการ ลูกไม่เห็นเหรอว่าก่อนหน้านี้แม่ของเขาก็ไม่ชอบผู้หญิงคนนั้น?” เธอย้ำเตือนอัญชสา

อัญชสาใจเย็นลงเล็กน้อย “แม่พูดแบบนี้หมายความว่า…”

“เราไปบ้านตระกูลฟ้าศิริสวัสดิ์กันเถอะ” จันทราเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม