เมื่อเลอศิลป์ได้ยินเธอตอบออกมาตรงๆ เขาก็ครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง
เขากลัวว่าเธอจะโกรธ จึงอธิบายว่า “ผมไม่คิดว่ามันจำเป็นเลยนะ แต่แม่ผมรั้นมาก คุณเลือกที่จะไม่ตรวจก็ได้ถ้าคิดว่ามันไม่เหมาะสม”
ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น เขาก็ดูเหมือนเด็กที่กำลังกลัวเพราะทำผิดพลาด รษิกาอดยิ้มไม่ได้ เพราะสำหรับเธอแล้ว ท่าทีเช่นนั้นดูตลกดี
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ ฉันแค่ต้องไปเก็บตัวอย่างเส้นผมแล้วทำการทดสอบ มันไม่ได้เป็นอันตรายกับเด็กๆ เลย ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องคัดค้านนะคะ อีกอย่าง ถ้าฉันคัดค้านไป คนอื่นก็จะมองว่าฉันรู้สึกผิดน่ะสิ”
มันไม่ใช่เวลาที่จะมากังวลเรื่องศักดิ์ศรีของเธอ
การให้อชิกับเบนนี่กลับมาหาตระกูลฟ้าศิริสวัสดิ์ไม่ได้เป็นแค่การกลับมาอยู่กับพ่ออย่างง่ายดายเท่านั้น มันยังหมายความว่าพวกเขามีสิทธิ์ที่จะเป็นทายาทของตระกูลนี้อีกด้วย
แม้รษิกาจะไม่สนใจเรื่องเงินเลยแม้แต่น้อย แต่เธอก็มุ่งมั่นจะสู้เพื่อสิทธิ์ของลูกๆ เธอ
ตระกูลฟ้าศิริสวัสดิ์เป็นตระกูลใหญ่ การแสดงหลักฐานให้พวกเขาเห็นว่าเลอศิลป์เป็นพ่อของลูกเธอคือทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้พวกเขาสิ้นสงสัย
หลังจากตอบรับตามคำขอของเลอศิลป์แล้ว รษิกาก็ลงไปข้างล่างและมองดูเด็กชายสองคนอยู่พักหนึ่ง บังเอิญว่าผมของพวกเขาเพิ่งจะยาว รษิกาจึงสั่งให้พ่อบ้านเรียกช่างตัดผมมาเล็มผมให้พวกเขา เธอยังสั่งให้พ่อบ้านเก็บเส้นผมไว้ทำการตรวจดีเอ็นเออีกด้วย
ไม่นานหลังจากนั้น เด็กชายทั้งสองก็เอาผมของตัวเองบางส่วนมาใส่ให้ซองใส และเขียนชื่อไว้อย่างชัดเจนก่อนจะส่งให้รษิกา
เด็กๆ ดูสดใสขึ้นหลังจากตัดผม ไอรดาจึงอยากจะตัดผมบ้าง อันที่จริง เธออยากตัดทรงเดียวกันกับเด็กชายทั้งสองเลย
ช่างตัดผมต้องชมไอรดาอยู่หลายครั้ง เพื่อให้เธอเชื่อว่าเธอไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น
เมื่อรษิกายื่นซองให้เลอศิลป์ เขาก็สังเกตปฏิกิริยาของเธออย่างระมัดระวัง แน่นอนว่าเธอไม่ได้โกรธ
อันที่จริง ศศิตาไม่คิดเลยว่าเลอศิลป์จะทำเรื่องนี้อย่างรวดเร็วหลังจากตอบรับคำขอของเธอมา
เธอรีบติดต่อบริษัทตรวจสุขภาพที่ฟ้าศิริสวัสดิ์ซื้อกิจการไว้ เพื่อให้มีคนมารับเส้นผมไปตรวจดีเอ็นเอ
ระหว่างนั้น เอกพลสูบบุหรี่ไปสองตัวโดยไม่ได้พูดอะไรเลยตลอดเวลา
“คุณน่ะใจร้อนเกิดไป ถึงคุณจะไม่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา เลอศิลป์ก็จะตรวจดีเอ็นเออยู่ดี คุณจะทำให้เขาอารมณ์เสียที่พูดไปแบบนี้” เอกพลย้ำเตือน แต่ศศิตาก็พยายามจะระงับความโกรธ
“การตรวจดีเอ็นเอจะต้องทำไม่ช้าก็เร็วอยู่แล้ว ถ้าฉันจะเป็นแม่สามีใจร้ายแล้วจะทำไมล่ะ? รษิกาไม่เคยเห็นหัวฉันว่าเป็นผู้อาวุโสอยู่แล้ว เธอย้ายเข้าไปอยู่กับเลอศิลป์ แต่ไม่เคยสนใจจะมาเยี่ยมหาเราเลย เห็นๆ กันอยู่แล้วว่าเธอไม่ได้เคารพเรา” ศศิตาตอบด้วยความโมโห
เอกพลถอนหายใจแล้วพูดว่า “เธอมาอยู่ที่นี่ได้แค่ไม่กี่วัน เธออาจจะไม่แน่ใจเท่านั้นเอง อีกอย่าง ตอนนั้นเราก็ทำผิดกับเธอไว้มากนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม
👍🏻...
....
จบดื้อๆเฉยๆ งงมากค่าาาา...
ขาด 1867,1868...
ขาด1860, 1861...
ขาด1804...
อัพๆๆ ค่ะ แอดดดดดดด แอดดดดดดดด อัพๆๆๆ ค่ะ แอดดดดด ^_^...
ขาด1773,1774...
ขาด1768,1770...
ขาด1663,1664,1665,1666,1668...