หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 192

เมื่อรษิกากินข้าวโอ๊ตเสร็จแล้ว เลอศิลป์ก็จัดเตียงให้เธอและเก็บชามไปโดยอัตโนมัติ

ทั้งคู่จ้องกันอยู่นานโดยไม่พูดอะไรเลยสักคำ กลายเป็นความเงียบเหล่านั้นที่เป็นคนพูดแทนพวกเขาเอง

รษิกานอนพักมาทั้งวัน ทำให้ยากที่จะหลับอีกครั้ง ถึงกระนั้น เธอก็ยังหลับตาลง เพราะไม่อยากพูดคุยกับเลอศิลป์

ในอีกด้านหนึ่ง เลอศิลป์เหนื่อยล้ามาทั้งวัน และความง่วงก็ค่อยๆ คลืบคลานหาเขา และในชั่วพริบตาเดียว เขาก็ผล็อยหลับไป

นาทีต่อมา เสียงหายใจที่เป็นจังหวะอันแผ่วเบาเป็นเพียงเสียงเดียวที่ดังอยู่ในห้องคนไข้

รษิกาลืมตามาช้าๆ และมองไปทางเลอศิลป์

เสื้อแจ็กเก็ตของเขาวางอยู่บนผ้าห่มเธอ เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตบางๆ ที่ตัวเขา เขากอดอกตัวเองไว้ ดูเหมือนเป็นการพักผ่อนที่ลำบากเหมือนกัน

รษิกาลังเลเล็กน้อยก่อนที่เธอจะตัดสินใจลุกขึ้นและเดินไปหาเขาเงียบๆ เธอหยิบเสื้อแจ็กเก็ตมาจากเตียง และคลุมตัวเขาไว้ช้าๆ

อารมณ์ที่แสนยุ่งเหยิงคืบคลานเข้ามาในใจเธอเมื่อเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาใกล้ขนาดนี้

ยังคงเป็นใบหน้าอันคมคายเหมือนหกปีที่แล้วเลย แต่ฉันไม่ได้เป็นผู้หญิงที่หลงรักเขาแบบเมื่อก่อนแล้ว ฉันไม่รู้ว่าเขามองฉันยังไง และฉันจะไม่หาคำตอบกับเรื่องนี้ด้วย ฉันแค่อยากจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขพร้อมกับเด็กน้อยทั้งสองคนของฉัน

ทันใดนั้น รษิการู้สึกโล่งใจขึ้นมา เธอเดินมาอีกฝั่งของห้องเพื่อปิดไฟ จากนั้นก็กลับไปที่เตียง

พอเธอหลับตาลง หลากหลายความคิดก็วิ่งเข้ามาในหัวเธอ ทำให้เธอนอนไม่หลับสักที

ในทางกลับกัน เสียงแผ่วเบาจากเตียงก่อนหน้านี้ปลุกให้เลอศิลป์ตื่นขึ้นมา ด้วยความที่เขาเป็นคนที่ตื่นง่ายอยู่แล้ว แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้าเธอตรงมาหาเขา เขาก็เลือกจะไม่ลืมตาและแกล้งทำเป็นหลับอยู่

หลังจากนั้นเธอก็มาหยุดตรงหน้าเขา และเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมจางๆ ที่อบอวลมาจากร่างกายเธอ

เนื่องจากความใกล้ชิด กลิ่นนั้นทำให้ใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ และลมหายใจก็ไม่เป็นปกติ แต่เขารู้สึกว่าเธอยังจ้องมองเขาอยู่ จึงทำได้เพียงแกล้งหลับต่อจนกระทั่งเขาได้ยินเสียงดังมาจากเตียง

เขาค่อยๆ ลืมตาอันพร่ามัวแล้วมองที่เธอ และสายตาของเขาก็ไม่ละออกจากเตียงเลยตลอดทั้งคืน

คืนนั้น ไม่มีใครได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม

เช้าวันต่อมา รษิกาตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเอะอะโวยวายจากนอกห้อง

“พวกเด็กๆ เป็นห่วงคุณรษิกามาก เลยขอให้พามาหาคุณตั้งแต่เช้าตรู่เลยค่ะ” ลิสาพูดอย่างหมดหนทาง

เสียงอชิที่ดูกังวลดังขึ้นมา “แม่เป็นยังไงบ้าง? แม่ยังหลับอยู่ใช่ไหมครับ?”

“ใช่แล้ว เดี๋ยวเธอค่อยเข้าไปหาแม่นะ” เสียงของเลอศิลป์ฟังดูแหบแห้ง

เขาไม่ได้พักผ่อนมากนัก พอถึงเวลาที่เขางีบหลับ พวกเด็กๆ ก็พรวดพราดเข้ามาในห้องคนไข้ และถามหารษิกาแล้ว พอเห็นว่าเธอกำลังนอนหลับสนิท เลอศิลป์พาพวกเขามาข้างนอกห้องและปิดประตูตามหลังเขา

อชิสังเกตเห็นว่าเลอศิลป์เซื่องซึมแค่ไหน ถึงแม้ว่าอชิจะขมวดคิ้วอยู่ เด็กน้อยก็ทำตามคำสั่งเขาแต่โดยดี

ในขณะนั้น เบนนี่ก็กำลังแอบมองผ่านช่องว่างของประตูที่ปิดอยู่ โดยหวังว่าเขาจะเห็นรษิกาบ้าง แต่ก็ไม่เป็นผล ด้วยเหตุนี้ เขาจึงทำหน้าบูดบึ้ง

ลิสากำลังอุ้มไอรดาอยู่ เธอเองก็เป็นห่วงรษิกาด้วยเช่นกัน ดวงตากลมโตของเธอคอยจ้องที่ประตูราวกับว่ามันจะเปิดออกมาถ้าเธอคอยมองมันไปเรื่อยๆ

แต่ไม่ว่าอย่างไร พวกเด็กๆ ก็ยังยืนอยู่ด้านนอกและรอที่ทางเดินอยู่เงียบๆ ขณะที่พ่อของพวกเขาเตือนอีกครั้งว่ารษิกากำลังนอนหลับอยู่

เป็นผลให้ความสงบสุขกลับคืนสู่โรงพยาบาล

ความรู้สึกอบอุ่นและคลุมเครือย่องเข้ามาหารษิกาเมื่อเธอรู้ตัวว่าเหล่าเด็กๆ เป็นห่วงมากแค่ไหน เธอประทับใจมากที่สุดในความเป็นห่วงของพวกเขาและอยากเปิดประตูต้อนรับพวกเขา

พอเธอลุกขึ้นนั่งบนเตียง เธอจับตาดูชายหนุ่มคนนั้นผ่านกระจกบานเล็กที่ประตู

ใจเธอเต้นแรงจนควบคุมไม่ได้เมื่อสบตากัน

พอเธอกำลังคิดหาวิธีที่จะตอบเขา เลอศิลป์ก็ละสายตาไปแล้ว เขาหันไปหาเด็กๆ และบอกว่า “ตอนนี้พวกเธอเข้าไปกันได้แล้วล่ะ”

เขาเปิดประตูให้พวกเด็กๆ หลังจากนั้น

เด็กน้อยทั้งหลายต่างก็มีประกายในดวงตาเมื่อได้เจอรษิกานั่งอยู่ที่เตียง เพียงไม่กี่วินาที พวกเขาทั้งหมดก็พุ่งเข้าไปหาเธอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม