หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 199

อัญชสา จันทราและสุเมธพูดคุยกันเป็นเวลานานก่อนที่จะมีความเห็นตรงกันว่าศศิตาต้องเป็นคนแก้ไขปัญหานี้

ท้ายที่สุดแล้ว ศศิตาเป็นคนที่คอยสนับสนุนอัญชสาเกี่ยวกับการแต่งงานกับครอบครัวฟ้าศิริสวัสดิ์มากที่สุดและที่สำคัญเลอศิลป์ก็ยังเชื่อฟังเธอในระดับหนึ่ง

ด้วยเหตุนี้จันทราออกไปหาศศิตาในทันที

“เธอก็มาด้วยเหรออัญชสา? เธออยากทานอะไรไหม? เดี๋ยววันนี้ฉันเลี้ยงเอง ” ศศิตาไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ เธอนั่งลงตรงข้ามพวกเขาด้วยรอยยิ้ม

อัญชสายิ้มออกไปอย่างฝืนๆ เล็กน้อย “ขอบคุณค่ะคุณศศิตา แต่วันนี้ฉันไม่ค่อยอยากอาหารสักเท่าไร”

หลังจากพูดเช่นนั้น เธอก็ก้มหัวลงอย่างสิ้นหวังและวางมือทั้งสองไว้บนเข่า พร้อมบิดนิ้วเข้าหากัน

เมื่อเห็นเช่นนั้น ศศิตาจึงถามกลับไปด้วยความกังวลว่า “เธออารมณ์ไม่ดีเหรอ? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?"

แต่อัญชสากลับแสดงออกด้วยการแค่เม้มปากและส่ายหัว

ในตอนนั้นศศิตามองหน้าจันทราด้วยความงุนงง

รอยยิ้มของจันทราก็ดูฝืนเช่นกัน เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาและเข้าอินเตอร์เน็ต ครั้งนี้เธอไม่ต้องค้นหาเลยด้วยซ้ำ เพราะพาดหัวข่าวขึ้นมาในช่องหัวข้อข่าวที่กำลังมาแรง เธอคลิกไปที่หัวข้อข่าวนั้นทันทีแล้วส่งโทรศัพท์ให้ศศิตาดู “ดูพาดหัวข่าวนี้สิ”

ศศิตาเริ่มใจไม่ดีเมื่อเธอเห็นการแสดงออกของพวกเขาทั้งสอง แต่ถึงกระนั้นเธอก็เอื้อมมือไปหยิบมาดู

รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของศศิตาเมื่อเธอเห็นเนื้อหาของรายงานข่าว “ฉันเพิ่งรู้ว่าพวกเขาเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบเสียจริง เลอศิลป์จะปฏิบัติตัวต่ออัญชสาดีขึ้นกว่านี้อีกแน่นอนหลังจากการแต่งงาน”

เธอสัมผัสได้ถึงความผิดปกติเมื่อเห็นสีหน้าของผู้หญิงสองคนที่อยู่ตรงข้ามเธออีกครั้ง แต่เธอก็ยังไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริง

แน่นอนว่าเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้หญิงในรูปไม่ใช่อัญชสา

จันทราข่มความขุ่นเคืองในตัวเธอ และหันเหลือบมองไปที่ลูกสาวของเธอก่อนจะออกความเห็นด้วยสีหน้าไม่พอใจ “แต่... เมื่อคืนอัญชสาสบายดี เธออยู่ที่บ้านทั้งคืน”

เมื่อศศิตาได้ยินเช่นนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็ค่อยๆ จางหายไป

เมื่อคืนอัญชสาอยู่ที่บ้าน ถ้าผู้หญิงในภาพไม่ใช่เธอ แล้วจะเป็นใครไปได้อีกล่ะ?

เธอจ้องมองภาพบนหน้าจออย่างใจจดใจจ่อ และเริ่มคาดเดาความเป็นไปได้ต่างๆ นานา

ไม่แน่ใจว่าข้อสันนิษฐานของเธอช่วยอะไรได้บ้างหรือไม่ แต่เมื่อเธอมองไปที่ผู้หญิงในรูป เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้คือรษิกา

จันทราฝืนยิ้ม และแสดงสีหน้าเข้าอกเข้าใจพร้อมทั้งระบายความในใจออกไปว่า “ฉันกลัวว่าจะเข้าใจผิด ฉันเลยอยากจะถามว่า ผู้หญิงในภาพคือลูกพี่ลูกน้องของเลอศิลป์หรือเปล่า เพราะถ้าเป็นคนอื่น ฉันคงยอมรับไม่ได้จริงๆ”

ในที่สุดอัญชสาก็เงยหน้าขึ้นและรอคำตอบของศศิตาด้วยสีหน้าเศร้าใจแต่ก็ยังพอมีความหวังอยู่บ้าง

เมื่อเห็นว่าว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอต้องทนทุกข์กับความคับแค้นใจเช่นนี้ ความรู้สึกผิดก็ถาโถมเข้ามาใส่ศศิตา เธอเหลือบมองรูปถ่ายของลูกชายขณะที่อุ้มผู้หญิงคนอื่นอีกครั้ง เธอห้ามตัวเองไม่ให้บอกตัวตนของผู้หญิงในรูปถ่ายให้อัญชสารู้

หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ประกาศว่า “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข่าวการแต่งงานก็แพร่สะพัดไปทั่วแล้ว ตอนนี้เรื่องอื้อฉาวพวกนี้แพร่กระจายออกไป แต่ครอบครัวของเราไม่ได้ทำผิดอะไรเสียหน่อย ไม่ต้องกังวลนะอัญชสา ฉันจะคุยกับเลอศิลป์ให้แน่นอน เรื่องแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต!”

สายตาของอัญชสาหม่นหมองลงเล็กน้อย เธอทำได้เพียงพยักหน้าตอบรับอย่างเชื่องช้า

ศศิตาทนไม่ไหวและไม่รีรออะไรอีกต่อไปแล้ว เธอรีบลุกออกไปจากที่นั่นหลังจากกล่าวลากับทั้งสองคน

ในชั่วพริบตา ท่าทีของอัญชสาก็แปรเปลี่ยนไปเป็นเคร่งเครียดในทันใด

หลังจากกลับมาถึงบ้านภักดีสรวง เธออดไม่ได้ที่จะดูรายงานข่าวนั้นอีกครั้ง โดยเฉพาะในส่วนความคิดเห็น

มีความคิดเห็นหนึ่งกล่าวว่า ว้าว คุณเลอศิลป์อุ้มผู้หญิงคนนั้นเหมือนอุ้มเจ้าสาวเลย! คู่หมั้นของเขาโชคดีจริงๆ!

ความคิดเห็นอื่นๆ ยังกล่าวอีกด้วยว่า แม้ว่าความละเอียดของภาพจะแย่มาก แต่ฉันก็ยังเห็นว่าออร่าและรูปร่างของคู่หมั้นเขาน่าทึ่งมาก! ผู้หญิงของคุณเลอศิลป์สวยสง่าตามที่คาดไว้จริงๆ ด้วย!

ความเห็นอื่นก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

พวกเขาต่างชื่นชมถึงความเอาใจใส่ของเลอศิลป์ที่มีต่อผู้หญิงในรูปและท่าทางที่พวกเขาดูเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก

เมื่อเธอเห็นผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ อัญชสาก็กดล็อกหน้าจออย่างแรงด้วยโทสะของเธอ

ครู่ต่อมาก็มีเสียงสิ่งของตกดังโครมครามอยู่ในห้อง

โทรศัพท์ที่อยู่ในมือของอัญชสาหล่นไปอยู่ที่พื้นและหน้าจอแตก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม