หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 212

ในขณะเดียวกัน ในห้องวีไอพีชั้นบน เลอศิลป์กำลังมองดูชายพุงย้วยวัยกลางคนกำลังชนแก้วกับคนนั้นคนนี้ด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์

เมื่อเขาไปรับไอรดาในตอนบ่าย เขาสังเกตเห็นว่าลูกสาวอารมณ์ไม่ดี แถมยังฉุนเฉียวใส่เขาเมื่อกลับถึงบ้าน

ฉันเดาว่าไอวี่คงอารมณ์ไม่ดีเพราะไม่ได้เจอรษิกามาพักหนึ่งแล้ว หรือว่ารษิกาทำตัวห่างเหินกับไอวี่กันนะ? แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร ฉันเองนี่แหละที่เป็นคนผิด เธอคงตีตัวออกหากไอวี่เพราะฉันเอง

ด้วยเหตุนี้ ทำให้เลอศิลป์กระสับกระส่ายตลอดทั้งคืน

และเขายิ่งรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นที่ไม่ได้ข้อเสนอที่น่าพอใจจากชายเหล่านั้น ทั้งที่อุตส่าห์เจรจากันเป็นเวลานาน

“ขอโทษนะครับ ผมขอตัวออกไปสูดอากาศสักหน่อยนึงนะ” พูดจนเลอศิลป์ก็ลุกขึ้นยืนทันที

ชายเหล่านั้นไม่กล้าพูดอะไร ทำได้เพียงเฝ้าดูเขาเดินออกไปจากห้อง

ห้องส่วนตัวของเลอศิลป์หันหน้าไปทางเวทีเต้นรำชั้นล่าง ในขณะที่เขาเดินออกไป สายตาของเขาก็หยุดชะงักที่เวทีเต้นรำ และเขาก็เห็นร่างที่คุ้นเคยลางๆ

เลอศิลป์ถึงกับก้าวขาเดินต่อไปไม่ได้

แสงไฟวูบวาบไปมาบนเวทีเต้นรำ ทำให้เลอศิลป์ไม่แน่ใจสายตาตัวเอง ขณะที่เขาพยายามมองอีกครั้ง แต่ร่างที่คุ้นเคยนั้นก็ลับหายไปจากสายตาเขาแล้ว

เขายืนนิ่ง จ้องมองไปที่เวทีเต้นรำด้วยความหวังว่าจะหาร่างนั้นเจออีกครั้ง แต่เขากลับไม่พบอะไรเลย เลอศิลป์ดึงสายตาตัวเองกลับมา พลางเย้ยหยันตัวเองในใจ

ฉันสงสัยจริงๆ ว่ารษิกามีพลังเวทมนตร์แบบไหนกันนะ? ฉันแค่มองไปรอบๆ แต่ทำไมเธอกลับโผล่เข้ามาในหัวฉันซะได้?

เมื่อเขากำลังจะหันหลังกลับ เขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากโต๊ะหนึ่งที่อยู่ชั้นล่าง

เสียงนั้นดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที เกือบทุกคนในบาร์ให้ความสนใจโต๊ะนั้น รวมถึงเลอศิลป์ด้วย

ดวงตาของเลอศิลป์จ้องเขม็งทันทีที่เห็นว่าใครอยู่ที่โต๊ะนั้น

นี่ไม่ใช่ภาพลวงตา! คนที่ดูคุ้นๆ นั้นคือรษิกาจริงๆ! เธอคงเดินกลับโต๊ะหลังจากเต้นบนเวทีจนหนำใจแล้ว

เลอศิลป์จ้องมองเธอ และเห็นได้ทันทีว่าเธอถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มๆ แถมเธอยังฉีกยิ้มกว้างจนถึงใบหูให้กับผู้ชายคนหนึ่งในนั้นด้วย

ดูๆ แล้ว พวกเขาส่งเสียงดังเพราะสิ่งที่รษิกาทำกับชายคนนั้น พวกเขาดูสนิทสนมกันจัง

ในขณะเดียวกัน รษิกาก็กระดกหมดแก้วหลังจากที่ชนแก้วกับเทวากร

เห็นได้ว่าทุกคนโห่ร้องอย่างตื่นเต้นให้กับพวกเขา

รษิกาวางแก้วลงและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอรู้สึกได้ว่ามีคนมองเธอจากที่ไกลๆ ตอนที่เธอดื่มไวน์แก้วเมื่อครู่นี้

เธอเงยหน้าขึ้นมองตามสัญชาตญาณ แต่มันมืดมาก

แต่ก็แปลกพอสมควร เพราะเธอมีลางสังหรณ์ลึกๆ ว่านั่นคือเลอศิลป์

เมื่อคิดได้เช่นนั้น รษิกาก็หมดอารมณ์ที่จะดื่มต่อแล้ว

“ฉันเหนื่อยแล้ว ฉันว่าจะขอตัวกลับก่อน” รษิกายิ้มอย่างเกรงใจทุกคน ก่อนจะเข้าไปหาเมธินีและชวนเธอกลับ “ดึกมากแล้ว เรากลับกันเถอะ”

เมธินีดื่มไปเยอะและรู้สึกเมามาก เมื่อรษิกาชวนกลับ เธอจึงพยักหน้าด้วยความงุนงงและพึมพำว่า “โอเค สนุกกันต่อเลยนะทุกคน พวกเราขอกลับก่อน”

พูดจบเธอก็ยื่นมือไปหารษิกา

รษิกาดึงตัวเธอขึ้นมาอย่างสุดกำลังพร้อมทั้งบอกลาทุกคนอย่างสุภาพ

“เดี๋ยวผมช่วยเอง” เทวากรยืนขึ้นและพูดต่อว่า “คุณไม่ไหวหรอก ให้ผมช่วยพาเธอไปส่งที่รถดีกว่า”

รษิกาลังเลอยู่ไม่กี่วินาที เมื่อมองไปที่เพื่อนขี้เมาของเธอ ในที่สุดเธอก็เห็นด้วย “ขอบคุณที่ช่วยนะคะ!”

หลังจากเห็นท่าทีของเทวากรในคืนนั้น รษิกาก็รู้สึกประทับใจในตัวเขา นอกจากนี้ เธอก็ไม่สามารถดูแลเมธินีได้หลังจากที่ตัวเองดื่มไวน์ไปสองสามแก้ว

เมื่อเห็นว่าเธอตอบตกลง เทวากรจึงเดินเข้าไปหาพวกเธอและกำลังยื่นมือไปช่วยรษิกา แต่ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงทุ้มๆ ดังมาจากข้างหลัง น้ำเสียงของชายคนนั้นดูไม่พอใจเท่าไรนัก

“ผมซึ้งในน้ำใจของคุณนะครับ แต่ผมจะไปส่งพวกเธอเอง ขอบคุณมากนะคุณเทวากร”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม