เมื่อเห็นสภาพของเลอศิลป์แล้ว รษิกาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
ในทางกลับกัน ไอรดาเพียงแค่ได้ยินว่าอาการของเธอเป็นโรคติดต่อ แต่ไม่เห็นจุดแดงบนร่างของลูเชียน เธอห่อตัวไปด้านข้างอย่างน่าสงสาร โดยไม่ยอมให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนแตะต้องเธออีก
เมื่อตั้งสติได้แล้ว รษิกาก็หรี่ตาลง พอเธอเห็นไอรดาขดตัวเป็นลูกบอลกลมๆ หัวใจของเธอก็บีบแน่นอย่างเจ็บปวด “มานี่หน่อยไอวี่ ขอฉันดูหนูหน่อยนะ”
ไอรดาส่ายหัวตอบ “ไม่ค่ะ ไม่เป็นไร หนูจะแพร่เชื้อให้คุณนะคะ คุณรษิกา”
คำพูดของเธอทำให้ดวงตาของรษิการ้อนผ่าวด้วยน้ำตา เธอยิ้มและเกลี้ยกล่อมว่า “ฉันไม่กลัวหรอกจ้ะ ฉันเคยรักษาผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายกันและเคยป่วยด้วยอาการนี้มาก่อนด้วย ดังนั้นฉันจะไม่ติดเชื้ออีกแน่นอน”
แม้แต่เลอศิลป์เองก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอกำลังพูดความจริง
ไอรดาจ้องมองอย่างพินิจพิจารณารษิกาด้วยความสงสัยเป็นเวลานาน เมื่อเธอแน่ใจว่าอีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ได้โกหก และเธอก็รู้สึกแย่มากจนทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอจึงค่อยๆ เข้าไปหารษิกาแล้วยื่นมือออกมาให้
รษิกาลูบหัวเพื่อปลอบเธอก่อนจะเอื้อมไปจับข้อมือของเด็กน้อยเพื่อวินิจฉัยอาการของเธอ
เลอศิลป์จ้องมองผู้หญิงตรงหน้าเขาจากด้านข้างด้วยสายตาอันหม่นหมอง
ท่าทีของเธอเมื่อเธอพูดก่อนหน้านี้ทำให้ฉันหลงเชื่อเช่นกัน แต่เมื่อคิดใหม่อีกครั้ง เธอยังไม่ได้ตรวจไอวี่เลยด้วยซ้ำ แล้วเธอจะรู้ได้ยังไงว่าอาการของเธอเป็นโรคติดต่อหรือเปล่า? ดังนั้นคำพูดของเธอก่อนหน้านี้จึงพูดออกมาเพื่อปลอบใจไอวี่เท่านั้น
เมื่อถึงเวลาที่เขาตระหนักได้ รษิกาก็เริ่มจับชีพจรของไอรดาแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่เขาจะพูดอะไรในตอนนั้น ความรู้สึกแปลกๆ เอ่อล้นอยู่ภายในใจเขา
เธอไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของเธอกับไอวี่ แต่เธอก็เต็มใจที่จะเสี่ยงอย่างมากเพื่อวินิจฉัยและรักษาเธอ...
ชั่วครู่หนึ่ง เขารู้สึกเสียใจที่พาไอรดามาที่นี่
ฉันควรจะพาไอวี่ไปโรงพยาบาล อย่างน้อยที่สุด ฉันก็จะป้องกันไม่ให้รษิกาติดเชื้อได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม
👍🏻...
....
จบดื้อๆเฉยๆ งงมากค่าาาา...
ขาด 1867,1868...
ขาด1860, 1861...
ขาด1804...
อัพๆๆ ค่ะ แอดดดดดดด แอดดดดดดดด อัพๆๆๆ ค่ะ แอดดดดด ^_^...
ขาด1773,1774...
ขาด1768,1770...
ขาด1663,1664,1665,1666,1668...