ตอนที่31
#หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม
แต่ในเช้าวันนี้ภูรีบตื่นเร็วกว่าปกติ อาบน้ำแต่งตัวก่อนจะออกมายืนรอที่หน้าประตูห้องของคิน เพราะทักไลน์ไปหามากมายว่าคินจะออกจากห้องตอนไหนแต่ก็มีเพียงความเงียบที่ได้รับมา เลยต้องหาทางออกโดยที่ออกมายืนรอคินตั้งแต่เช้า ถึงแม้จะยังไม่รู้เลยก็ตามว่าคินจะยอมติดรถไปด้วยไหม แต่แน่นอนว่าต่อให้อีกฝ่ายไม่ยอมไปด้วย กระนั้นแล้วอย่างน้อยได้เจอหน้าของคินแม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี
...แกร๊กกก.. ยืนรอมานานเกือบชั่วโมงในที่สุดประตูห้องก็ถูกเปิดออก
“หลบ” เพียงประโยคแรกจากปากของคินก็ไม่น่าฟังและนั่นทำให้ภูแอบหน้าถอดสี
“ให้กูไปส่งไหม” แต่ภูยังคงทำหน้าด้าน คนผิดก็ต้องรับผลกรรมท่องเข้าไว้
“ผมบอกให้หลบ”
“ก็บอกก่อนสิว่าจะให้ไปส่งหรือเปล่า”
“ไม่ต้อง ไปเองได้ ขับรถเป็น” คราวนี้คำตอบยาวเหยียดแต่มาพร้อมกับเสียงไม่พอใจ บวกกับการที่คินผลักภูออก เดินแทรกจนออกจากห้องได้สำเร็จจนภูต้องรีบวิ่งตามเข้าไปในลิฟต์ บรรยากาศอึดอัดเกิดขึ้นในทันทีเมื่อต้องอยู่กันตามลำพังสองต่อสอง คินถอนหายใจ กอดอกพลางเบือนหน้าหนีโดยที่มีภูพยายามชวนคุย
“ไปกลับทางเดียวกัน ไปรถด้วยกันน่าจะสะดวกกว่านะ”
“ใครเขาอยากร่วมรถกับพี่กัน” โดนตอกกลับมาอีกครั้งและภูยังไม่ยอมแพ้
“งั้นกูขอติดรถไปด้วยสิ น้ำมันรถกูใกล้จะหมด”
“ไม่ได้ ผมไม่ได้ขับแท็กซี่และผมไม่รับคนแปลกหน้า”
“แต่กูไม่ใช่คนแปลกหน้ากูเป็นผั....” ก่อนจะพูดประโยคที่ไม่น่าฟังภูต้องรีบหุบปากเอาไว้เพราะถ้าพูดไปมีหวังได้โดนคินโกรธหนัก ตามง้อตลอดทางแต่คินเอาแต่เดินหนี จนมาถึงรถอีกฝ่ายก็รีบเปิดประตูขึ้นรถแล้วขับออกไป ทำยังกับว่าภูเป็นเพียงอากาศรอบตัวที่ถ้าอยากจะพูดด้วยเมื่อไหร่ก็มีเพียงคำต่อว่าเท่านั้น
“ง้อยากจังโว้ยยย!!” เสียงตะโกนลั่นดังจากชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาดี ภูเดินเตะฝุ่น เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถของตัวเองด้วยใบหน้าหงุดหงิด ขนาดนอนกอดมาทั้งคืนคินยังไม่มีทีท่าว่าจะใจอ่อน อยู่ด้วยกันสองต่อสองก็แล้ว พูดดีด้วยก็แล้ว
ยังเหลือต้องทำอะไรอีก ยังเหลืออะไรที่ยังไม่ได้ทำ
คิดได้แบบนี้คิ้วของภูเริ่มขมวด เพราะถ้าพูดถึงสิ่งที่ยังไม่ได้ลองทำ....
“จับข่มขืนก็โกรธกูกว่าเดิมสิวะ” ขับรถไปก็บ่นไป เกิดมาไม่เคยเครียดขนาดนี้มาก่อน เอาเป็นว่าคนแบบภูไม่เคยต้องวิ่งตามใคร ในตอนตามง้ออดีตแฟนสาวเขายังไม่ทำมากขนาดนี้เลย ตอนนี้กลายเป็นว่าพอคิดมากเข้าทั้งวันก็เอาแต่นึกถึงเรื่องของคิน ไม่ว่าจะตอนเรียน ตอนซ้อม หรือแม้แต่ตอนทำกิจกรรมอื่นในชีวิต
เข้าใจหัวอกตอนที่คินคิดมากเรื่องของเลย
อารมณ์คงประมาณนี้ใช่ไหม
“ไอ้แบงค์!!” หลังจากมาถึงมหาลัย ระหว่างที่เดิมเหม่อภูตะโกนเรียกเพื่อนตัวเองดังลั่นเมื่อเห็นแผ่นหลังคุ้นตาที่เดินอยู่ไม่ห่างนัก ทางฝ่ายนั้นทำท่าจะวิ่งหนีแต่ภูรีบวิ่งตามเพราะถ้ามองไม่ผิดเขาว่าเขาเห็นแบงค์เดินคู่กับใครอีกคนที่ดูคุ้นหน้าคุ้นตา ตัวของแบงค์เหมือนจะหนีพ้นแต่แล้วสุดท้ายต้องวิ่งวนกลับมาเพราะคนที่แบงค์เดินอยู่ด้วยเหมือนจะวิ่งต่อไม่ไหว เป็นแบบนี้สุดท้ายภูเลยตามจนทัน แล้วผลปรากฏว่า
“ทำไมมึงมากับไอ้เอิร์ธได้?” ส่งไปแล้วหนึ่งคำถาม ทางแบงค์อึกอัก ยิ่งเอิร์ธไม่ต้องพูดถึง
“มึงไปสนิทกันตอนไหน”
“เอ่อ.....”
“ไอ้แบงค์” ภูถามเสียงนิ่ง ทางด้านของแบงค์หันไปบอกเอิร์ธว่าให้เดินออกไปก่อนและแน่นอนว่าฝ่ายนั้นก็รีบเดินหนีออกไป เห็นแบบนี้ภูยิ่งสงสัยหนัก ปกติแบงค์กับเอิร์ธเจอกันยังไงก็ต้องมีต่อย แต่นี่เล่นเดินด้วยกันนี่มัน?
“มึงจะบอกความจริงกูไหม”
“เออกูบอก แต่แค่คิดอยู่ว่าจะพูดยังไงดี”
“ทำไม สรุปมึงไปสนิทกับไอ้เอิร์ธได้ยังไง” ภูเริ่มขึ้นเสียงและแบงค์ถอนหายใจ
“ก็ไม่ได้มีแค่มึงที่พลาดท่านอนกับคนที่ไม่ชอบขี้หน้าปะวะ”
“....?” คราวนี้บนหน้าของภูมีแต่ประโยคคำถาม
“ก็....กูกับไอ้เอิร์ธ ก็ตามนั้นอ่ะ”
“ตามนั้นนี่คือ?”
“กูกับมันคุยๆกันอยู่”
“ไอ้แบงค์!!” ภูตะโกนเสียงดังจนแบงค์ต้องรีบเข้าปิดปาก
“มึงจะเสียงดังทำไมวะเนี่ย ตกใจอะไร แหม่ทีมึงกับไอ้คินหละ”
“แต่ไอ้เอิร์ธมันเหี้ยมากเลยนะเว้ย อย่าบอกนะว่ามันหลอกเอามึงแล้วทิ้งเนี่ย”
“บ้านมึงดิ!หน้าอย่างกูต้องยอมโดนเสียบหรือไง”
“ก็คือ มึง....?” ภูกับแบงค์มองหน้ากัน และแบงค์พยักหน้ารับ
“เชี่ยยยย อะไรเข้าสิงมึง...แล้วทำไมอย่างมันถึงยอมมึงวะ”
“มันไม่ได้ยอม”
“......”
“กูข่มขืนมัน” แบงค์พูดด้วยเสียงหัวเราะแห้งๆส่วนภูนิ่งไปแล้ว ในหัวกำลังตีกันอีกครั้งเพราะเพิ่งถามตัวเองมาเมื่อเช้าว่าหรือจะจับคินข่มขืนให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย จนมาตอนนี้ยิ่งมีแบงค์ที่ดูจะรักกับเอิร์ธดีเสียเหลือเกินทั้งที่วิธีรวบหัวรวบหางตอนแรกก็คือขืนใจเขา สีหน้าของภูชักเริ่มร้ายกาจจนแบงค์ยังขนลุก
“มึงคิดอะไรของมึง”
“กูว่ากูจะจับไอ้คินข่มขืนเลย มันจะได้ใจอ่อนสักที”
“เห้ยไม่ได้!มึงจะบ้าหรือไง!!”
“อะไร ทีมึงข่มขืนไอ้เอิร์ธสุดท้ายยังดีกันเลย”
“มันไม่เหมือนกัน โอ้ยยยไอ้โง่!” แบงค์หมดคำจะพูด กับเรื่องอื่นเก่งนักหนาแต่กับเรื่องแบบนี้ทำไมเพื่อนถึงได้โง่นัก ความผิดของภูไม่ใช่เรื่องเล็ก ยิ่งถ้าไปขืนใจมีหวังได้แตกหักกันถาวร เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ลากกันออกมานั่งคุยที่โต๊ะม้าหินอ่อน โดยที่มีแบงค์นั่งเป็นโค้ช ส่วนภูคือลูกทีมฝีมือแย่ที่ห่วยมากถึงมากที่สุด
“มึงฟังกูนะ กรณีมึงกับกูมันไม่เหมือนกัน มึงจะไปข่มขืนเขาไม่ได้” แบงค์เริ่มอธิบาย
“.............”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi]