ทุกคนในที่แห่งนั้นล้วนเข้าใจ ทุกคนต่างนิ่งเงียบไม่ส่งเสียง ที่เงียบไป ย่อมมิใช่กำลังรู้สึกโศกเศร้าสงสารหลงจ่านเหยียน แต่แค่กำลังคิดถึงการเปลี่ยนแปลงรัชสมัยเปลี่ยนแปลงขุนนาง ไม่รู้ว่าหลังฝ่าบาทสวรรคตและฮ่องเต้พระองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์แล้วจะเกิดผลกระทบอะไรขึ้นกับตระกูลหลงบ้าง
นางเฉินฮูหยินของหลงฉางอี้ถามขึ้นด้วยความวิตกกังวล “ตอนนี้นางเด็กคนนั้นยอมเห็นด้วยแล้วหรือยังเจ้าคะ? ถึงยามนั้นเกิดร้องไห้โวยวายขึ้นมาจะทำอย่างไร?”
หลงฉางเทียนเอ่ยอย่างเย็นชา “นางจะตอบว่าไม่ยอมได้อย่างนั้นหรือ? ถึงยามนั้นแค่กรอกยานอนหลับแล้วส่งตัวเข้าวังไปก็สิ้นเรื่อง พอเข้าวังแล้ว ก็มีคนมาจัดการนางเอง!”
“พูดมาก็จริงเจ้าค่ะ!” นางเฉินผุดยิ้ม “คนในวังหลวง ฝีมือร้ายกาจ ถึงยามนั้นหากนางกล้าอาละวาดโวยวาย คงถูกทรมานสาหัสไม่ใช่เล่น!”
ทุกคนต่างยิ้มออกมา อนุภรรยาของหลงฉางอี้เอ่ยขึ้นพลางกลัวหัวเราะ “เพราะนางหาเรื่องเจ็บตัวเอง ใครใช้ให้นางดื้อรั้นเล่า?”
หลงจ่านเหยียนยืนฟังอยู่หน้าประตูได้ครู่หนึ่งแล้ว จากนั้นก็มีสาวใช้ที่สายตาเฉียบแหลมคนหนึ่งมองเห็นนาง จึงตะโกนว่า “คุณหนูใหญ่มาแล้วหรือเจ้าคะ?”
หลงจ่านเหยียนเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า คนในห้องโถงต่างพากันเงยหน้าขึ้นมองนาง สายตาของทุกคนล้วนเฉยเมยเป็นที่สุด ไม่มีผู้ใดรู้สึกว่าสิ่งที่พูดเขาพูดคุยกันอย่างเย็นชาเมื่อครู่ คือความเป็นความตายของดรุณีตรงหน้า กลับรู้สึกเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยธรรมดาสามัญเรื่องหนึ่งมากกว่า
หลงฉางเทียนชำเลืองมองนางปราดหนึ่งอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าไม่อยู่ในห้อง จะออกมาทำอะไร?”
หลงจ่านเหยียนเหลือบสายตามองหลงฉางเทียน เอ่ยด้วยเสียงราบเรียบ “โบราณกล่าวไว้ เสือร้ายยังไม่กินลูก ในฐานะบิดา ท่านแม่ทัพไม่รู้สึกละอายใจบ้างหรือ?”
หลงฉางเทียนมองนางด้วยความไม่พอใจ กรุ่นโกรธที่นางกล้าท้าทายอำนาจของตนเองอย่างเปิดเผยไม่ยำเกรง เขาเอ่ยด้วยเสียงเย็นเยียบ “สามหาว ในฐานะลูกสาว เจ้าทำประโยชน์อะไรให้กับตระกูลนี้บ้าง? เจ้าอยากจะให้ตระกูลหลงทั้งเจ็ดสิบสองชีวิตต้องจบลงบนแท่นประหารเพียงเพราะว่าเจ้าขัดขืนต่อราชโองการอย่างนั้นหรือ?”
หลงฉางเทียนไม่โกรธแต่กลับหัวเราะ และเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็นน่าขนลุก “ดี เจ้ารู้จักพูดเช่นนี้คือดีที่สุด ข้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาอีก ประเดี๋ยวกูกูสอนมารยาทในวังหลวงก็จะมาแล้ว นางเป็นคนสนิทของไทเฮา เจ้าจงจำคำที่เจ้าเพิ่งพูดไปเมื่อครู่นี้ให้ดี หากพลาดไปแม้เพียงเสี้ยวประโยค เจ้าได้เห็นดีแน่!”
หลงฮูหยินเดินขึ้นไปช่วยเกลี้ยกล่อม นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงยอมรับโทษผิดว่า “ท่านพี่โปรดระงับโทสะ อย่าโทษนางเลยเจ้าค่ะ ต้องโทษที่ปกติข้าอบรมสั่งสอนนางไม่ดี จนนางไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง กิริยาวาจากลับหัวกลับหางไปหมด!”
แม้จะดูคล้ายว่าฮูหยินหลงกำลังพูดเข้าข้างหลงจ่านเหยียน ทว่าทุกคำทุกประโยค เป็นเหมือนเข็มพิษที่พุ่งเป้ามายังหลงจ่านเหยียนทั้งสิ้น ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง กิริยาวาจากลับหัวกลับหาง สำหรับดรุณีที่ยังไม่ออกเรือนคนหนึ่งแล้ว นี่นับว่าเป็นความผิดที่ใหญ่หลวงขนาดไหน?
หลงจ่านเหยียนหัวเราะออกมาเบา ๆ พลางเลิกคิ้ว บนดวงหน้าสีซีดขาวกลับมีเสน่ห์อันที่สิ้นสุด ทว่าคิ้วและแววตาอาจจะดูดุดันโหดเหี้ยมไปสักหน่อย “หากฮูหยินจะขอขมา เหตุใดจึงไม่ไปขอขมาหน้าหลุมศพของท่านแม่ข้าเองเล่า?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้ คงไม่ได้อ่านนิยายอีกแล้ว ขอบคุณที่ให้อ่านมาเป็นเวลานาน...