ข้ามมิติมาหารัก นิยาย บท 53

เซี่ยเชียนเกอคนนี้สิ เธอช่างสมบูรณ์แบบจริงๆ

ผู้กำกับวิ่งตามเซี่ยเชียนเกอไปแล้วส่งบทนางเอกให้กับเซี่ยเชียนเกออีกครั้ง: "คุณนิสิตเซี่ย บทละครนางเอกเรื่องใหม่นี้เหมาะกับเธอจริงๆ ถ้าเธอไม่เชื่อเธอก็ลองเปิดอ่านดูก่อนก็ได้ ผมรับรองได้เลย เธอจะต้องสงสัยว่าตัวเองเป็นนางเอกในละครเรื่องนี้แน่"

เซี่ยเชียนเกอเหลือบมองผู้กำกับอย่างเย็นชา: "แม้ว่าฉันจะดูเหมือนนางเอกในละครของคุณมากแค่ไหน แต่ฉันก็จะไม่แสดงเพราะฉันไม่สนใจด้านการแสดง"

"คุณนิสิตเซี่ย ก่อนที่จะมาเป็นนักแสดงก็มีดาราหลายคนพูดแบบนี้เช่นกัน พวกเขาไม่มีความสนใจในอาชีพนักแสดง แต่เมื่อพวกเขาโด่งดังและสร้างรายได้มากมาย พวกเขาต่างก็รู้ว่าการเป็นนักแสดง ดารา หรือไอดอลนั้นมันดีขนาดไหน"

เซี่ยเชียนเกอไม่ได้ฟังคำพูดอื่นๆที่ผู้กำกับพูดเลย

เพราะเธอฟังเพียงประโยคเดียว นั่นก็คือ: "เป็นนักแสดงสามารถสร้างรายได้มากมาย?"

เมื่อผู้กำกับเห็นว่าเซี่ยเชียนเกอมีความสนใจ เขาก็รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว: "ใช้แล้ว ดาราเป็นอาชีพที่ร่ำรวยที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ดาราดังแล้ว จะสร้างรายได้เยอะจนเธอประหลาดใจไปเลย คุณนิสิตเซี่ยผมคิดว่าเธอคงจะได้ยินชื่อเสียงของผมจากเพื่อนในมหาลัยแล้วสินะ "

"นักแสดงทุกคนที่เคยถ่ายทำภาพยนตร์ของผมจะดังกันหมด แล้วได้รับรางวัลจนมือเมื่อยไปเลย และสิ่งสำคัญที่สุดคือ เธอยังสามารถมีแฟนคลับจำนวนมากที่รักเธอ พวกเขาจะไล่ตามสารภาพรักเธอทุกวัน ถึงตอนนั้นแล้วเธอจะต้องภาคภูมิใจอย่างแน่นอน"

ไม่ เธอไม่มีวันมีหรอก

เธอไม่ต้องการให้ใครมาสารภาพรักกับเธอ เพราะใจของเธอมีแค่ฝู้อวี้สิงเพียงคนเดียว ส่วนคนอื่นถึงจะสารภาพรักกับเธอร้อยครั้งพันครั้ง เธอก็ไม่สนใจพวกเขาหรอก

เมื่อเซี่ยเชียนเกอคิดแบบนี้แล้วก็พูดกับผู้กำกับว่า: "สามารถหาเงินได้จนเมื่อยมือนี้ก็ดึงดูฉันอยู่นะ ทว่าฉันไม่ชอบให้ผู้ชายคนอื่นมาไล่สารภาพรักฉัน เพราะฉะนั้นขอโทษด้วย ฉันไม่ถ่ายละครเรื่องนี้"

"แม้ว่าเธอจะได้ค่าตอบแทนหนึ่งแสนต่อหนึ่งตอน เธอก็จะไม่ถ่าย?"

ค่าตอบแทนหนึ่งแสนต่อหนึ่งตอน?

เงินหนึ่งแสนนี้เธอแค่หลอกคนอื่นไปมั่วก็มีแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปถ่ายหนังให้ยุ่งยาก

เซี่ยเชียนเกอคิดก็ไม่คิดก็ปฏิเสธผู้กำกับ: "ไม่ถ่าย!"

พอพูดเสร็จเซี่ยเชียนเกอก็เดินหน้าต่อไป และผู้กำกับกล่าวว่า: "คุณนิสิตเซี่ย ถ้าเธอยอมตกลง ผมให้เธอสองแสนต่อหนึ่งตอน"

เซี่ยเชียนเกอเดินหน้าต่อไป

ผู้กำกับไม่ยอมแพ้แล้วต่อราคาอีก: "สามแสนต่อหนึ่งตอน"

"ถ้าคุณให้ฉันล้านหนึ่งต่อหนึ่งตอน ฉันอาจจะยอมคิดดูก็ได้นะ"

หนึ่งล้านต่อหนึ่งตอน?

นี่ไม่ใช่เงินเดือนที่เด็กใหม่ควรได้เลย อีกอย่างนักแสดงนำหญิงเหล่านั้นยังไม่ได้ราคานี้เลย เพราะฉะนั้นคุณนิสิตเซี่ยคนนี้คลั่งไคล้เงินจนบ้าไปแล้วรึเปล่า?

ผู้กำกับวิ่งตามเซี่ยเชียนเกออีกครั้ง แล้วยื่นนามบัตรให้เธอ: "คุณนิสิตเซี่ย ผมให้ได้มากสุดสามแสนต่อหนึ่งตอนเท่านั้น ถ้าเธอคิดดีแล้วสามารถติดต่อผมได้ ผมให้เวลาเธอสามวัน หลังจากสามวันถ้าเธอยังไม่ติดต่อกลับมา บทละครนี้ก็จะตกเป็นของคนอื่น"

เซี่ยเชียนเกอมองไปที่นามบัตรที่ผู้กำกับมอบให้เธอ แล้วยัดมันลงในกระเป๋าของเธอ และเดินไปที่โรงอาหารเพื่อทานอาหาร

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ระหว่างที่เธอรูดบัตร เธอก็พบว่าบัตรของเธอดูเหมือนจะถูกอายัด และเธอก็ไม่สามารถรูดเงินออกมาได้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

เธอมีเงินในบัตรมากกว่าสองพันล้าน แต่ตอนนี้บัตรถูกอายัดอย่างกะทันหัน งั้นเธอก็ไม่สามารถใช้เงินได้สิ

เมื่อเซี่ยเชียนเกอคิดถึงความเป็นไปได้นี้ ก็โกรธจนจะเป็นบ้า!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติมาหารัก