ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า นิยาย บท 263

“เจ้า.....” พระชายาพูดอะไรไม่ออก

จี้หยุนชูเเละนางไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เเต่ก็ไม่เคยพูดอะไรที่มันจริงจังเช่นนี้

หรือเพราะต้องการเเย่งเด็กมาจากองค์รัชทายาท?

ไม่ใช่ว่าจวิ้นอ๋องเเห่งชิงผิงเป็นบ้าไปเเล้วหรอ?

พระชายาทำอะไรไม่ได้ นอกจากเขย่าเเขนขององค์รัชทายาทอย่างเเรง

องค์รัชทายาทกระเเอมอยู่สองสามครั้ง และเขาก็ลุกขึ้นตามที่คาดไว้ ด้วยน้ำเสียงที่ทำอะไรไม่ถูก "หยุนชู เจ้ากำลังพูดถึงอะไร"

“องค์รัชทายาท ท่านฟังไม่เข้าใจอย่างนั้นเหรอ” จี้หยุนซูมองต่ำลง เเม้ว่าจะรู้สึกโกรธอยู่เล็กน้อย “ทั้งก่อนเเละหลัง องค์รัชทายาทไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเลยหรอพะยะคะ”

ทำเป็นใสซื่อ ไม่ใช่ว่ารู้อยู่เเล้วหรอกหรอ ทำไมถึงเสเเสร้งเเละถามออกมาเเบบนี้

องค์รัชทายาทถอนหายใจยาว

เเน่นอนว่าเขารู้ เเละเข้าใจดีด้วยว่าพระชายาไม่สบายพระทัย เขาหมอบต่ำต่อหน้าฮ่องเต้ด้วยความโกรธ พยายามที่จะค้นหามันในเด็กพวกนี้

ก่อนหน้านี้เขาอาจเพิกเฉยได้ เพราะมันไม่สำคัญสำหรับเฉียวเหลียนเหลียน ในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง นางรู้สึกเป็นเกียรติที่จะใช้มันเพื่อให้พระชายาได้ระบายความโกรธของเธอ

เเต่ในตอนนี้จี้หยุนชูกำลังอยู่ในยุคที่รุ่งเรือง เเละทั้งสองคนก็เติบโตมาพร้อมกัน องค์รัชทายาทไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป

“เกอเอ๋อร์ยังเด็ก เป็นไปได้ที่จะพูดเรื่องไร้สาระ เหวินจิ้ง เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับลูก” องค์รัชทายาทมองดูพระชายา

ชื่อเดิมของพระชายาคือ จ้าวเหวินจิ้ง เป็นบุตรสาวของตระกูลจ้าว หนึ่งในสิบของตระกูลขุนนางระดับสูง

“ฝ่าบาท” นัยน์ตาของพระชายาเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที และนางกัดริมฝีปากล่างเบาๆ ด้วยฟันสีขาวสวย “ไม่ใช่ว่าไม่ได้สนใจเด็ก เพียงเเต่ว่าไม่ค่อยได้พบสาวน้อยคนนี้ ข้าเเค่อยากทำให้นางมีความสุข ”

ในท้ายที่สุด เพื่อพิสูจน์ความจริงใจ นางก้าวขาเข้าไปพร้อมกับยื่นมือไปหาหยูเฟยเกอ “เด็กดี เเม่ขอกอดหน่อย”

เด็กหญิงที่กอดเฉียวเหลียนเหลียนไว้เเน่น รู้สึกสับสนอยู่ครู่หนึ่ง

ผู้หญิงที่นิสัยไม่ดีคนนี้ ทำไมถึงยื่นมือออกมา

นางจะทำอะไร นางจะเอาตัวเองออกมาจากเเม่ของนางหรือไม่?

หยูเฟยเกอกระพริบตาที่เริ่มเปียกโชค ปากของนางสั่นระริก นางกำลังร้องไห้

เฉียวเหลียนเหลียนรีบปลอบนาง “เกอเอ๋อร์ไม่ร้องนะ เกอเอ๋อร์ฟังนะ คนคนนี้น่ะ เป็นเเม่ของเจ้า นางก็เเค่อยากกอดเจ้าเเค่นั้น”

หยูเฟยเกอเม้มริมฝีปากและนิ่งเงียบ

เด็ก ๆ ไม่รู้วิธีวางอุบาย แต่พวกเขาสามารถรับรู้ได้เองตามธรรมชาติ

อ่อนโยนและใจดีหรือมุ่งร้าย

ในสายตาของหยูเฟยเกอ พระชายาแสดงเจตนาร้ายไปทั่วร่างของนาง แม้ว่านางจะยิ้ม แต่ดวงตาของนางก็เย็นชามาก

เสี่ยวเกอเอ๋อร์กลัวท่าทางเเบบนี้ที่สุด และไม่ต้องการกอดนาง

แต่พี่ชายและน้องสาวดูเหมือนจะกังวลมาก และแม่ก็ดูเหมือนจะกังวลมากเช่นกัน

หยูเฟยเกอเงยหน้าขึ้นอย่างว่างเปล่า

นางยังเด็ก ยังไม่รู้เรื่องอะไรมากมาย เเละไม่รู้ว่าคนตรงหน้ามีความหมายต่อนาง เเต่อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกของนางลางๆ ว่าต้องรับอ้อมกอดนี้

แม้ว่าเธอจะไม่ชอบก็ตาม

“เกอเอ๋อร์ลูก เเม่ขอกอดหน่อย” พระชายาอยู่ในท่ากอดเป็นเวลานาน ทำให้เเขนเริ่มเจ็บ เเต่นาง็ยิ้มเเละฝืนพูดออกไปว่า “เจ้าไม่ชอบเเม่ของเจ้าหรอ? เจ้าไม่อยากกอดเเม่ของเจ้าหรือยังไง?”

หัวใจของเฉียวเหลียนเหลียนเต้นไม่เป็นจังหวะ

ถ้าหยูเฟยเกอไม่เข้าไปกอดนาง พระชายาอาจจะทำตัววุ่นวายอีกเป็นได้

แต่มันยากเกินไปสำหรับเด็กที่จะเข้าใกล้คนที่ไม่ได้รู้จักดี

เฉียวเหลียนเม้มริมฝีปากครั้งแล้วครั้งเล่า และกำลังจะเอาใจเด็กหญิงตัวน้อยอีกครั้ง

ทันใดนั้น หยูเฟยเกอก็ปล่อยขาของเธอ แล้วเดินไปหาพระชายา และกอดนางอย่างไม่เต็มใจนัก

พระชายายิ้มและกอดหยูเฟยเกอด้วยมือของเธอ "เจ้าเก่งมาก"

หยูเฟยเกอเม้มริมฝีปาก รู้สึกอึดอัดในใจ จ้องมองเฉียวเหลียนเหลียนด้วยสายตาราวกับพยายามกลั้นน้ำตา

เล็บของเฉียวเหลียนเหลียนจิกลงบนฝ่ามือของเขาในทันที

เมื่อรับรู้ถึงอารมณ์ของเธอ จี้หยุนชูโอบไหล่ของนางไว้เพื่อมอบความเเข็งเเกร่งเเละความสบายใจให้นาง

จากนั้นเขาก็ให้ลูกสาวคนโตดู

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า