ข่าวมาเร็วเกินไปเหมือนพายุ
ปี้ซงนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน เช้าวันรุ่งขึ้นเขาตื่นขึ้นมาพร้อมขอบตาดำคล้ำ
เฉียวเหลียนเหลียนปรุงบะหมี่จานโปรดของเด็กอ้วน เธอใส่หมูสับและกุ้งลงไปด้วย เมื่อเห็นว่ามีคนเพิ่มขึ้น เธอจึงทำเส้นเพิ่ม
ท้ายที่สุดก็ยังไม่พอกิน
ปี้ซงกินบะหมี่หมดเกลี้ยงพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้เฉียวเหลียนเหลียน “อร่อยมาก อร่อยสมกับฝีมือของคุณนาย นอกจากขาแกะพะโล้ที่ทำให้ประหลาดใจแล้ว วันนี้ผมได้กินบะหมี่ของคุณนาย ผมพบว่าไม่ใช่แค่ขาแกะพะโล้เท่านั้นที่อร่อย แต่ทุกอย่างคุณนายทำนั้นอร่อยมาก คุณนายฝีมือทำอาหารยอดเยี่ยมมากเลย”
ว่ากันว่ามีคนนับพันที่เยินยอ
แม้ว่าเขากินบะหมี่ไปถึงสี่ชาม จนเกือบทำให้คนอื่นไม่พอกิน แต่เฉียวเหลียนเหลียนก็อายที่จะดุเขา
“ถ้ากินไม่อิ่มก็กินขนมได้นะ” เธอเดินไปที่ครัวแล้วหยิบขนม และลูกชิ้นทอดมา
ขนมคลุกน้ำตาลทอดมีรสหวาน วิธีการทำคือนำแป้งมาต้มน้ำร้อน จนแป้งสุกแล้วนำน้ำตาลมาห่อ แล้วนำไปทอดในกระทะจนเป็นสีทอง หากรับประทานเลยต้องระวังเพราะน้ำตาลข้างในกลายเป็นน้ำเชื่อมซึ่งร้อนมาก
ส่วนลูกชิ้นทอดนั้นมีรสเค็ม ใช้หัวไชเท้าใส่เมล็ดข้าวหุงสุกทำเป็นเส้นที่หนาขึ้น ดูเหมือนเหนียวแต่ไม่เหนียว ใช้ช้อนตักเป็นลูกเล็กแล้วโยนลงหม้อทอด พอทอดได้สีทองก็เอาตัดขึ้นมาได้
สองสิ่งนี้เป็นของขึ้นชื่อช่วงตรุษจีนของเมืองเซี่ยหยาง เมื่อวานเฉียวเหลียนเหลียนเห็นที่ตลาด และซื้อเพิ่ม
คนส่วนใหญ่ซื้อกลับบ้านเพื่อกินเป็นอาหารเย็น แต่จะไม่ค่อยอร่อย
แต่เฉียวเหลียนเหลียนมีวิธีอุ่นเพื่อให้ร้อนและความกรอบ อีกทั้งรสชาติเกือบจะเหมือนกับเพิ่งออกจากกระทะ
ทันทีที่ขนมถูกวางบนโต๊ะ เด็กๆต่างให้ความสนใจ
แม้แต่กู้เฉิงที่ชอบกินมังสวิรัติก็กินไปสองชิ้น
ปี้ซงเหลือบมองเขาหลายครั้งและพึมพำในใจว่า "พระราชนัดดาชอบกินขนมหวานที่สุด และหลายๆคนต่างชอบที่จะถวายขนมหวานเพื่อเอาใจพระราชนัดดา"
แต่ตอนนี้กู้เฉิงกินขนมเพียงสองก้อนและหยุดกิน
แม้ขนมจะมีขนาดเล็กเพียงครึ่งฝ่ามือ และไม่เป็นปัญหาสำหรับเด็กที่จะกินห้าหรือหกชิ้น
หากเป็นตอนที่อยู่แถวตลาดแผงลอย กู้โหลวกินสองชิ้นยังไม่พอ
แต่กู้เฉิงไม่ได้สนใจมากนัก บางทีเขากินไปสองชิ้นนั้นเพราะเห็นแก่แม่เลี้ยง
ปี้ซงบ่นในใจ
เมื่อคืนนายท่านพูดเพียงครึ่งหนึ่ง ทำให้ปี้ซงงง เขาอยากจะถามสองประโยค แต่นายท่านของเขาก็หลับไปแล้ว
จนถึงตอนนี้เขาก็ยังงงงวย
กู้เฉิงวางชามและตะเกียบลง และพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “แม่ครับ ผมอิ่มแล้ว ผมจะไปอ่านหนังสือ”
“ได้” เฉียวเหลียนเหลียนพยักหน้า และไม่ลืมบอกลูกชายคนโต “อย่าอ่านหนังสือจนลืมพักผ่อนหล่ะ”
กู้เฉิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เป็นเพราะเฉียวเหลียนเหลียนเขาจึงมีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียน
ปี้ซงมองอย่างสงสัย และถามว่า "คุณนาย พระ... กู้เฉิงมีความสามารถในการสอบซิ่วไฉ"
“ซิ่วไฉ?” เฉียวเหลียนเหลียนนึกถึงการแบ่งระดับการศึกษา และส่ายหัว “เสี่ยวเฉิงยังสอบไม่ผ่านระดับต้นเลย ปีใหม่ฉันถึงส่งเขาไปสอบ”
การสอบระดับต้นเป็นเพียงหนทางไปสู่ซิ่วไฉ
หลังจากผ่านการสอบระดับต้นแล้ว สามารถเข้ารับการสอบซิ่วไฉได้ และหลังจากผ่านการสอบซิ่วไฉแล้ว ก็สามารถเป็นจิ้นชื่อหรือบัณฑิตชั้นสูงได้
หลังตรุษจีนกู้เฉิงอายุครบสิบขวบ แต่เขาไม่มีโอกาสใช้ชีวิตวัยเด็กเหมือนเด็กคนอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพระราชนัดดาอายุได้เจ็ดขวบ เขาเขียนบทกลอนได้หนึ่งบท ลายมือของเขาก็เป็นอิสระและง่ายดาย และแม้แต่จิ้นชื่ออาวุโสก็ยังรู้สึกทึ่งกับบทความที่เขาเขียน
องค์รัชทายาทรักเขามาก จนจักรพรรดิโปรดปรานในพระราชนัดดาองค์นี้
เด็กที่ถูกเอาอกเอาใจเช่นนี้ไม่ได้หยิ่งทะนงและหยิ่ง แต่มีความมั่นใจในตนเองอยู่เสมอ
เมื่อมองไปที่กู้เฉิงอีกครั้ง เขากลับเงียบและสงบ หลังเขาตรง เขาไม่สามารถพูดได้สามคำต่อวัน วันๆหนึ่งเขาพูดไม่เกินสามประโยค และเขามักจะพูดถึงหนังสือเรียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า
ตอนที่ 21-25 เนื้อหาหายไปค่ะรบกวนแก้ไขให้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ...
ลุ้นๆๆๆ ขนมอบต้องมา...
รัททายาทเป็นพ่อที่เลวมากๆ...
สนุกๆ รอตอนต่อไปค่ะ...
เริดๆๆ...
รอต่อค่าาา...
หลงเมียน้อยจนทำร้ายเมียเอก แถมลูกๆต้องกลายเป็นคนตายทั้งหมดอีก พอมาเจอก็สงสัยอีกว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง ไม่ควรเป็นพ่อใครเลยจริงๆ...
gเอาล่ะสิๆๆ...
ง้อเมียว่ายาก ง้อลูดยากที่สุด 5555...
คนไม่ซื่อสัตย์...