ไม่มีใครรู้ถึงความยากลำบากใจของชายชรา
ก่อนหน้ามีคนบอกเขาว่าไม่ให้เขารับเด็กที่ชื่อกู้จง
ชายชราตอบตกลงไปเพราะเห็นว่าก็แค่ปฏิเสธคน ๆ หนึ่งเท่านั้น ในแต่ละปีสำนักศึกษาย่อยปฏิเสธเด็กกว่าหนึ่งพันคน อย่างน้อยก็แปดร้อยคน
ปฏิเสธิเด็กกู้จงอีกคนจะเป็นไรไป
แต่ใครจะคิดว่าเด็กคนนี้จะมีพรสวรรค์เช่นนี้
แม้แต่ผู้อาวุโสอย่างเขาก็อดไม่ได้ที่จะยกย่องบทกวีนี้
หากเขาไม่รู้ว่าเด็กคนนี้ชื่อกู้จงเขาจะประกาศรับแล้ว
แต่ตอนนี้เขากลับต้องปฏิเสธ
สำหรับผู้ที่ชื่นชมในผู้ที่ความสามารถเป็นการบีบหัวใจยิ่งนัก
“ไม่ได้ ?” เฉียวเหลียนเหลียนอุทานราวกับได้ยินเรื่องตลกเช่นนี้มาบ้าง “ลูกชายฉันเก่งเรื่องบทกวี แต่คุณบอกลูกชายของฉันไม่อาจเข้าเรียนที่นี่ได้”
แม้ว่าเธอจะมีลางสังกรณ์มาก่อนหน้านี้ เธอรู้สึกว่าวิธีการรับเข้าศึกษาตามความชอบส่วนบุคคลนั้นไม่ดี และไม่มีความยุติธรรม แต่เฉียวเหลียนเหลียนไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะไม่ยุติธรรมขนาดนี้
บทกวีของกู้จงนั้นดีมากจนสามารถแยกแยะได้ กล่าวได้ว่าเด็กในสนามสอบยังเขียนได้ไม่ดีเท่าเขาเลย คนที่เขียนดีมีเพียงสองสามคนที่พอจะเทียบกับเขาได้
เด็กคนนี้ถูกปฏิเสธ เช่นนั้นสำนักศึกษาย่อยคัดคนจากอะไร?
"นี่..." ชายมีเคราถึงกับปวดศีรษะ "เด็กคนนี้ไม่อาจเข้าศึกษาต่อที่สำนักศึกษาย่อยนี้ได้ ไม่ได้จริง ๆ ยอมแพ้เถอะ"
เมื่อพูดเช่นนั้น เฉียวเหลียนเหลียนก็เข้าใจ ในที่สุดเธอก็รู้ว่ามีคนพุ่งเป้ามาที่พวกเขา
เธอโกรธจนอยากจะตบหน้าชายมีเครา และอยากจะทุบสำนักศึกษาย่อยแห่งนี้ให้ราบคาบ
“แม่” กู้จงตัวน้อยดึงแขนเสื้อขึ้นในทันใด
จากนั้นเฉียวเหลียนเหลียนก็มีสติ แต่อารมณ์ของเธอนั้นยังยากที่จะสงบ
เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วที่เธอมาถึงเมืองหลวง และรู้สึกหดหู่ราวกับถูกกดขี่ทุกที่ในชีวิต ประการแรกเฉียวเหลียนเหลียนเป็นคนธรรมดา และประการที่สอง เธอไม่ต้องการมีปัญหา
เธอต้องการให้ลูก ๆ ของเธอมีชีวิตที่เงียบสงบโดยไม่สร้างปัญหาใด ๆ
แต่เธอแม้เธอจะไม่ได้สร้างปัญหา แต่ปัญหาก็มีอยู่ทุกที่ ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้เธอใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้ยาก
“ใครไม่อนุญาตให้กู้จงลงทะเบียน?” เฉียวเหลียนเหลียนถามทันที
ชายชราเคราเพะพูดโดยไม่รู้ตัวว่า "พระองค์หญิง"
"องค์หญิงไหน ?" เธอถามอีกครั้ง
ชายมีเคราพูดอย่างรวดเร็วว่า "พระองค์หญิงอะไรก็ตาม คุณแค่ต้องรู้ว่าลูกของคุณไม่สามารถไปโรงเรียนได้ ดังนั้นกลับไปเถอะ"
หลังจากพูดจบ เขาก็พูดอีกประโยคขึ้นมาว่า "เข้าโรงเรียนเอกชนธรรมดากก็ได้ ไม่ช้าก็เร็ว เด็กคนนี้จะกลายเป็นคนเก่ง"
ด้วยพรสวรรค์ด้านกวีนิพนธ์นี้ก็คือ ยากที่จะเป็นคนธรรมดา
ชายชรามีเคราไม่คาดคิดว่าเขาจะพูดคำ ๆ นี้ออกไป ด้วยเจตนาดี เขาจะรอดพ้นจากหายนะได้
เฉียวเหลียนเหลียนมองเขาอย่างมีนัยยะ จากนั้นเธอก็พอกู้จงออกไป
ในรถม้า สองแม่ลูกต่างพากันเงียบ
แม้ว่ากู้จงจะยังเด็ก แต่เขาก็เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เขากระซิบว่า "แม่ครับ ถ้าไม่ได้เรียนสำนักศึกษาย่อยก็ไม่เป็นไร ผมจะตั้งใจเรียนในโรงเรียนเอกชนทั่วไป"
เฉียวเหลียนเหลียนกอดเขา
“เด็กโง่ แม่จะต้องทำให้ลูกได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาย่อยนี้ให้ได้แน่นอน” แม่เลี้ยงหรี่ตา
เฉียวเหลียนเหลียนพากู้จงไปส่งที่บ้าน จากนั้นก็ตรงไปที่ตงจือถัง
เจียงไป๋หยินกำลังตรวจตู้ยา เมื่อเห็นเธอมา เขาก็แปลกใจเล็กน้อย "วันนี้ไม่ใช่วันออกตรวจ ทำไมถึงมาที่นี่ได้หละ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า
ตอนที่ 21-25 เนื้อหาหายไปค่ะรบกวนแก้ไขให้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ...
ลุ้นๆๆๆ ขนมอบต้องมา...
รัททายาทเป็นพ่อที่เลวมากๆ...
สนุกๆ รอตอนต่อไปค่ะ...
เริดๆๆ...
รอต่อค่าาา...
หลงเมียน้อยจนทำร้ายเมียเอก แถมลูกๆต้องกลายเป็นคนตายทั้งหมดอีก พอมาเจอก็สงสัยอีกว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง ไม่ควรเป็นพ่อใครเลยจริงๆ...
gเอาล่ะสิๆๆ...
ง้อเมียว่ายาก ง้อลูดยากที่สุด 5555...
คนไม่ซื่อสัตย์...