บทที่ 1047 หลายหัว!
จูกัดเซี่ยวไป๋จูงมือเล็ก ๆ ของจูกัดเจี่ยเว่ย ทำให้จูกัดเจี่ยเว่ยอุ่นใจ
นายบ่าวทั้งสองค่อย ๆ เดินขึ้นบันไดด้านข้างของห้องโถงหลัก ได้กลิ่นของธูปเทียนลอยมา
ด้านนอกห้องโถงหลัก ทั้งสองข้างของประตูใหญ่มีกระถางธูปสูงครึ่งตัวคนวางอยู่ บนกระถางธูปมีธูปปักอยู่อย่างแน่นขนัดเรียงกันไม่เป็นระเบียบ
ธูปส่วนใหญ่ไหม้จนเหลือแค่ครึ่งก้านแล้ว แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังคงลุกไหม้อยู่ ราวกับเพิ่งจุดและปักไว้เมื่อไม่นานมานี้
“ในวัดมีคนอยู่ แต่ทำไมไม่จุดไฟล่ะ?” จูกัดเจี่ยเว่ยสังเกตการเผาไหม้ของธูปฃฃแล้วเกิดความสงสัย
นายบ่าวทั้งสองผลักประตูใหญ่เปิดออก ทันทีที่ประตูเปิด ลมเย็นพัดกระทบใบหน้า พักเอากลิ่นธูปเทียนและกลิ่นฝุ่นที่สะสมมานานหลายปีมา
จูกัดเจี่ยเว่ยหลบอยู่ด้านหลังจูกัดเซี่ยวไป๋ ชะโงกหน้ามองเข้าไป ตรงกลางมีรูปปั้นพระพุทธรูปองค์หนึ่ง สองข้างมีธูปเทียนจุดอยู่ แสงเทียนสีเหลืองวูบไหวช้า ๆ ในสายลม
จูกัดเจี่ยเว่ยสงสัยมาก ทั้ง ๆ ที่มีแสงเทียน ทำไมเมื่อครู่ตอนอยู่นอกวัดถึงไม่เห็น
พระพุทธรูปองค์นี้ใหญ่มาก สูงถึงหนึ่งชั้นครึ่งของโถง
ต้องรู้ว่าวัดโบราณหนึ่งชั้นสูงประมาณเกือบสองจั้ง หากต้องการเห็นรูปปั้นพระพุทธเจ้าทั้งองค์ก็จำเป็นต้องยืนอยู่ใต้รูปปั้นและเงยหน้ามอง หรือหากต้องการเห็นพระพักตร์อันเปี่ยมด้วยความเมตตาของพระพุทธรูปจากด้านหน้าก็จำเป็นต้องขึ้นไปยังชั้นสอง
จูกัดเซี่ยวไป๋โบกไปมา เปลวไฟลุกโชนขึ้นในกระถางธูปหน้าพระพุทธรูป ธูปเทียนที่ดับไปก็ถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง
แล้วเขาก็เงยหน้ามองไปรอบ ๆ บริเวณมุมทั้งสองของโถงมีบันไดขึ้นไปยังชั้นสอง เหมือนจะมีแสงสว่างอยู่ข้างบน
“นายน้อย พวกเราจะขึ้นไปชั้นบนหรือไม่?” จูกัดเจี่ยเว่ยรู้สึกเย็นเยือกอยู่ตลอด วัดควรเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และน่าเคารพ แต่ในยามค่ำคืนกลับให้ความรู้สึกน่าขนลุก
พระพุทธรูปที่แต่เดิมทรงเปี่ยมด้วยความเมตตา กลับบิดเบี้ยวไปในความมืดของราตรี
“ไม่จำเป็น ชั้นสองไม่ใช่สถานที่พักผ่อนของพวกเรา อีกทั้งพวกเราต้องตามหาคน ไม่ใช่มาพักผ่อน”
จูกัดเซี่ยวไป๋ลูบศีรษะของจูกัดเจี่ยเว่ย แล้วจูงเขาเดินไปยังประตูด้านข้างของหอโถงหลัก
เมื่อผลักประตูด้านข้างของหอโถงหลักออก ก็เจอระเบียงไม้ทอดยาวไปจนถึงห้องพักด้านข้างของวัด


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า