บทที่ 1103 เช้าค่ำ…
หลังอาบน้ำ จ้าวอู่เจียงโอบกอดจิ่งเอ๋อร์แล้วเข้านอนไปพร้อมกัน
บางสิ่งไม่จำเป็นต้องทำให้เสร็จในคืนเดียว พวกเขาไม่ได้รีบร้อน สามารถทำได้ทุกคืน
บางคำพูดก็ไม่จำเป็นต้องพูดให้จบในคืนเดียว ความรักของพวกเขานิรันดร์ สามารถพูดไปพร้อมกับทำได้
เช้าแล้วค่ำ…
ดวงดาวยามค่ำกะพริบบนท้องฟ้ายามราตรี แสงดาวเดี๋ยวหรี่ริบเดี๋ยวเจิดจรัส บนผืนฟ้าสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำ ดวงดาวดาดาษ
ตำแหน่งของหมู่ดาราไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยตลอดหลายหมื่นปี
เมื่อหลายหมื่นปีก่อนในยุคโบราณก็อยู่ภายใต้ท้องฟ้าเดียวกันนี้
แสงไฟพยายามขับไล่ความมืดมนหลังภัยพิบัติ ชายหญิงที่ล้อมอยู่รอบตัวจ้าวอู่เจียง บ้างก็ก้มหน้า บ้างก็สะอื้นไห้ไร้เสียง
ชายชราผู้มีดวงตาสองชั้น ผมขาวโพลน ดวงตาไม่ได้จับจ้องสิ่งใด นั่งเงียบ ๆ อยู่ข้างเด็กน้อยที่หายใจรวยริน เป่าขลุ่ยกระดูกเบา ๆ จ้าวอู่เจียงยิ้มน้อย ๆ แล้วค่อย ๆ หลับตาลง สีหน้าสงบนิ่ง
เสียงสะอื้นของผู้คนที่นั่งล้อมรอบกลายเป็นเสียงร่ำไห้โหยหวน ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าตามแสงไฟที่พลิ้วไหว
หลู่จงได้เห็นพี่ชายที่ตนเคารพรักจากไปต่อหน้าต่อตา เขาทรุดตัวลงบนร่างของพี่ชาย ร้องไห้จนตาแดง เสียงแหบแห้ง
……
บัดนี้ หลู่จงผู้มีผมขาวโพลนเต็มศีรษะ คุกเข่านิ่งอยู่ข้างโลงศพ มองพี่ชายที่นอนอยู่ในโลง ดวงตาของเขาแดงเรื่อเล็กน้อยพวกเขาเปิดโลงศพได้ในที่สุด
หลายหมื่นปีผ่านไป พี่ชายยังคงเป็นพี่ชายผู้สง่างามและงดงามเหมือนเดิม
เส้นผมสีดำยาวสลวยดุจน้ำตก แซมด้วยสีเงินขาวและม่วงแดง ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติซีดขาวเป็นพิเศษ ระหว่างคิ้วมีรอยแผลเป็นตั้งตรงยาวประมาณหนึ่งนิ้ว คล้ายดวงตาที่สาม
เทพปีศาจ
ชื่อที่ทรงอำนาจมาแต่โบราณกาล บุรุษผู้เทียบชั้นเทพเจ้าตายแล้ว
ตายไปนานมากแล้ว
หลู่จงและฉีหลินร่วมมือกัน ใช้พลังไปมากมาย ในที่สุดก็ผลักฝาโลงออกได้
แต่ในโลงนอกจากร่างไร้วิญญาณของเทพปีศาจก็ไม่มีสิ่งอื่นใดอีก
พวกเขายังคงไม่พบสมบัติล้ำค่าที่เทพปีศาจทิ้งไว้ ทั่วทั้งเก้าชั้นของหอคุมปีศาจ นอกจากโลงศพหนึ่งใบ ตะเกียงทอง และขลุ่ยโบราณบนฝาโลง ก็ไม่มีสิ่งของอื่นใดที่ดูเหมือนจะเป็นสมบัติล้ำค่าของเทพปีศาจอีก
ซ่อนอยู่ที่ใดกันแน่ คืออะไรกันแน่?

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า