บทที่ 111 ความลับของเฉินอันปัง
ครืด…ครืด…
บังเกิดเสียงกลไกทำงานขึ้นใต้พื้นห้อง และสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวอันหนักหน่วง
เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น หลุมขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นด้านหลังจ้าวอู่เจียง มันเป็นหลุมลึกมืดดำไม่ต่างจากปากของสัตว์ร้ายที่พร้อมกลืนกินผู้คน
จ้าวอู่เจียงยกตะเกียงน้ำมันในมือขึ้น และค่อย ๆ เดินไปที่หลุมลึกนั่น ก่อนจะพบว่าภายในมีบันไดทอดยาวลงไปด้านล่าง
จ้าวอู่เจียงสูดหายใจลึก ยื่นตะเกียงน้ำมันออกไปข้างหน้า พอให้มองเห็นทางในความมืดแม้จะเลือนราง ก่อนจะค่อย ๆ เดินลงบันไดไปอย่างเชื่องช้า
เมื่อลงไปสู่อุโมงค์มืดมิด
จ้าวอู่เจียงก็ได้ยินเสียงสายลมโชยพัดผ่านในทุกย่างก้าวที่เดินไปข้างหน้า
เพียงไม่กี่ลมหายใจ ชายหนุ่มก็ไปถึงปลายสุดของทางเดินใต้ดิน ที่สุดทางเดินปรากฏประตูศิลาขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านขวางทางอยู่เบื้องหน้า
จ้าวอู่เจียงคลำมือไปบนผนัง จนกระทั่งพบกับรูเล็ก ๆ รูหนึ่ง
เขาจึงนำกุญแจทองแดงที่เก็บมาจากร่างของเฉินอันปังเสียบเข้าไป ประตูศิลาค่อย ๆ เปิดออก ชายหนุ่มจึงก้าวเดินเข้าไปด้านใน
สิ่งที่อยู่หลังประตูศิลาเป็นห้องขนาดใหญ่ ด้านในบรรจุด้วยหีบไม้และถุงผ้าจำนวนมาก
จ้าวอู่เจียงเดินไปเปิดหีบไม้ใบหนึ่งออกดูด้วยความระมัดระวัง
สิ่งที่อยู่ในหีบไม้คือจดหมายหลายฉบับ ล้วนแต่เป็นจดหมายลับที่เป็นการติดต่อระหว่างเฉินอันปังกับผู้คนของกรมอื่น และจดหมายแต่ละฉบับก็มีการระบุวันเวลาเอาไว้อย่างชัดเจนอีกด้วย
นี่คือหลักฐานการฉ้อโกงใช่หรือไม่?… จ้าวอู่เจียงพอจะคาดเดาได้อยู่แล้วว่า เฉินอันปังจะต้องมีหลักฐานเอาผิดพวกเดียวกันเองเก็บไว้อย่างแน่นอน แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าเฉินอันปังจะเตรียมหลักฐานไว้อย่างแน่นหนาขนาดนี้
จ้าวอู่เจียงรีบสำรวจดูจดหมายเหล่านี้อย่างรวดเร็ว และพบว่าข้อมูลในจดหมายกินเวลาย้อนกลับไปนับตั้งแต่ห้าปีก่อนจนถึงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เฉินอันปังนำตัวเองเข้าไปพัวพันกับขบวนการฉ้อราษฎร์บังหลวงมาเป็นเวลาห้าปีแล้ว
จ้าวอู่เจียงเก็บจดหมายเหล่านั้น รายชื่อของขุนนางที่อยู่ในจดหมายส่วนหนึ่งถ้าไม่ได้ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ก็เกษียณอายุราชการ หรือบางคนก็ถูกฝังลงดินไปแล้ว
แต่ก็ยังมีอีกไม่น้อยเช่นกันที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน
จ้าวอู่เจียงเดินไปสำรวจดูหีบไม้อีกใบหนึ่ง หีบใบนี้มีขนาดเล็กกว่าใบที่แล้วหลายเท่า และมันมีความยาวเพียงหนึ่งฉื่อเท่านั้น
เมื่อเปิดหีบดูก็พบว่ามีจดหมายถูกเก็บอยู่ด้านในเพียงสี่ฉบับเท่านั้น
จ้าวอู่เจียงหยิบจดหมายขึ้นมาอ่านดูอย่างรวดเร็ว ขมวดคิ้วด้วยความเคร่งเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ ข้อมูลที่ระบุอยู่ในจดหมายเป็นหลักฐานเอาผิดการฉ้อราษฎร์บังหลวงของเสนาบดีกรมคลังตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการยักยอกเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย การยักยอกงบของกองทัพสำหรับการทำสงคราม มีแม้แต่กระทั่งการยักยอกงบสำหรับโครงการชลประทาน รวมไปถึงการขายทรัพย์สินในกิจการอื่น ๆ อีกด้วย
ความผิดที่ระบุอยู่ในจดหมายเหล่านี้ เพียงพอที่จะทำให้จางทุยผู้เป็นเสนาบดีกรมคลังถูกประหารชีวิตโดยทันที


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า