บทที่ 1148 โปรดสำรวมกิริยา
ยามเที่ยง
แสงอาทิตย์อันอบอุ่นส่องสว่างจ้า
แสงถูกใบไม้ตัดเป็นจุดแสงกระจัดกระจาย หล่นลงบนพื้น ราวกับดวงดาวมากมายบนผืนดิน
สายลมพัดเอื่อย ๆ
จ้าวอู่เจียงนอนอยู่บนเก้าอี้ที่แกว่งไปมา เขากำลังรับแสงแดด พร้อมกับจินตนาการถึงโลกอันหลากหลายในความคิด ทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ในอดีต เพื่อค้นหารายละเอียดบางอย่าง
การครุ่นคิดทำให้เหนื่อยล้า โชคดีที่จิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่ง
แต่ก็ยังต้องการการพักผ่อนที่ดี
หากต้องการพักผ่อนให้ดี ก็จำเป็นต้องรับแสงแดดให้มาก
คนจำนวนมากนอนไม่หลับในตอนกลางคืน เพราะได้รับแสงแดดน้อยเกินไป
คนที่อาบแดดอย่างจริงจัง มักจะหลับได้อย่างรวดเร็วในตอนกลางคืน
ทั้งหมดนี้ล้วนมีหลักการทางวิทยาศาสตร์
แน่นอนว่าเป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์แบบไหน หรือผู้เชี่ยวชาญคนไหนเป็นคนพูด จ้าวอู่เจียงเกือบจะลืมไปแล้ว เขารู้สึกว่าตัวเองจากดาวสีน้ำเงินมานานมากแล้ว และรู้สึกว่าราชวงค์ต้าเซี่ยล่มสลายมานานมากเช่นกัน
จริง ๆ แล้วก็ไม่นานเท่าไร แค่หนึ่งถึงสองปีเท่านั้น
แต่ในช่วงหนึ่งถึงสองปีนี้ แต่ละวันที่ผ่านไปราวกับหนึ่งปี
เซวียนหยวนจิ้งกำลังฝึกฝนพัดภูผาหมื่นลี้ที่ได้รับมาจากเจ้าสำนักศรัทธาษฎร จางหลินต้าว
จางซวีคุนบอกว่า ต้องถึงขั้นจักรพรรดิถึงจะสามารถใช้พลังที่แท้จริงของพัดภูผาหมื่นลี้ได้
เซวียนหยวนจิ้งฝึกฝนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เมื่อจ้าวอู่เจียงอยากจะทำอะไรกับนาง นางก็ปฏิเสธอย่างเด็ดขาดว่า “บุรุษมีแต่จะทำให้การบำเพ็ญของข้าล่าช้า”
แต่จ้าวอู่เจียงจำได้ว่าเมื่อคืนตอนที่นางหายใจเข้าออก นางไม่ได้พูดแบบนี้
สตรีเปลี่ยนใจเร็วยิ่งกว่าพลิกหน้าหนังสือจริง ๆ จะเชื่อใจสตรีได้ก็เท่ากับแม่หมูปีนต้นไม้
ขณะที่จ้าวอู่เจียงรู้สึกอบอุ่นและความคิดก็อ่อนโยนดั่งแสงอาทิตย์
ก็มีคนมารบกวนอีกแล้ว คราวนี้เป็นนางกำนัลจากตำหนักฉีเฟิงบอกว่าฮองเฮาเรียกพบ
จ้าวอู่เจียงยกมือลูบหน้าผาก พวกเอ็นพีซีเหล่านี้เป็นบ้าอะไรกัน จะมอบภารกิจอีกแล้วหรือ
แต่เมื่อฮองเฮาเรียกพบ เขาก็จำต้องไป
ไม่นานนัก จ้าวอู่เจียงก็เดินทางมาถึงตำหนักฉีเฟิงอย่างคุ้นเคย
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า