บทที่ 1230 แลกรางวัลกับกาลเวลา
หลินอวี้จ้องมองป้ายชื่อที่วางอยู่บนโต๊ะบูชาอย่างเหม่อลอย
ป้ายชื่อเหล่านั้นล้วนเป็นของสมาชิกตระกูลหลิน
แต่เขากลับไม่พบชื่อของท่านพ่อ
คงเป็นเพราะมีเพียงผู้ที่มีคุณูปการยิ่งใหญ่ต่อตระกูลหลิน และเป็นผู้ที่มีคุณธรรมสูงส่งเท่านั้น ที่จะมีสิทธิ์ให้ป้ายวิญญาณถูกวางบนโต๊ะนี้หลังจากสิ้นชีวิต
ท่านพ่อของเขาเป็นเพียงชาวนาธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น
มือของหลินอวี้ในตอนนี้ถูกชายชราที่หรี่ตามองไม่ค่อยชัดคนหนึ่งจับไว้แน่น
ชายชราผู้นี้ดูเหมือนจะจำเขาได้
หากนับตามลำดับอาวุโสอย่างเคร่งครัดแล้ว เขาถือเป็นผู้อาวุโสของทั้งคนแก่และเด็ก ๆ ที่ยืนอยู่ทั้งในและนอกหอบรรพชนตระกูลหลินในปัจจุบัน
หลายร้อยปีผ่านไป
ตระกูลหลินยังคงอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ ทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
เรื่องราวมากมายในโลกนี้ ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
ความมั่งคั่งถูกสืบทอด ความยากจนถูกถ่ายทอด
คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอย่างธรรมดาสามัญ ไม่สามารถก้าวข้ามชนชั้นที่ตนเองอยู่ได้
หลินอวี้ได้ทำภารกิจที่องค์ชายของเขามอบหมายเสร็จสิ้นแล้ว
เขารีบนำหยกจารึกไปมอบให้กับจูกัดเซี่ยวไป๋ด้วยตัวเอง
แต่เดิมเขาคิดว่าคงต้องใช้เวลาหลายวัน
เพราะการเดินทางจากดินแดนเทพศักดิ์สิทธิ์ตอนกลางไปยังดินแดนเทียนเป่าในดินแดนน้ำศักดิ์สิทธิ์ทางใต้ต้องใช้เวลาเดินทางหลายวัน
แต่เขาไม่คิดว่าจูกัดเซี่ยวไป๋จะคาดการณ์เรื่องนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว
เขาเพิ่งเดินออกจากกู่หวงเทียน หนึ่งในเก้าสวรรค์ ก็ได้พบกับจูกัดเซี่ยวไป๋
หลังจากทำภารกิจเสร็จ เขาก็กลับไปยังบ้านเกิดในความทรงจำอันแสนไกล นั่นคือหมู่บ้านตระกูลหลิน
หมู่บ้านตระกูลหลินเป็นเพียงดินแดนของสามัญชนที่เล็กมากในพื่นที่กว้างใหญ่ไพศาลของมณฑลอู๋ถง ในอาณาเขตราชวงศ์เซียนต้าโจวแห่งกู่หวงเทียน หนึ่งในเก้าสวรรค์
ภูเขาในบ้านเกิดไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่เนินดินเล็ก ๆ ที่เป็นที่ฝังศพของท่านพ่อท่านแม่ของเขากลับหาไม่พบ
เขาจึงมาที่ศาลบรรพชนเพื่อสอบถาม


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า