บทที่ 1241 ดุร้ายและบ้าคลั่ง
“หวังปิ่ง!”
จูกัดเซี่ยวไป๋อาเจียนเลือดออกมาพรวด
ใบมีดที่อกของเขาหายไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
ชายที่นั่งยอง ๆ อยู่บนกำแพงกระโดดลงมา รอยยิ้มเยาะหยัน ดวงตาเปล่งประกายตื่นเต้น แฝงไว้ด้วยความวิปลาสและชั่วร้าย
“จุ๊ ๆ หนึ่ง สอง สาม สตรีงามสามคน โอ้ไม่สิ ยังมีอีกคน สี่คน…
“แล้วยังมีเจ้าจูกัดบ้านนอกที่ผิวขาวเนียนละเอียด ก็ไม่เลวเหมือนกัน”
“หวังปิ่ง เจ้าออกมาได้อย่างไร! ตระกูลหวังของพวกเจ้ากำลังทำลายข้อตกลงในตอนนั้น!” จูกัดเซี่ยวไป๋บีบลูกเต๋าแก้วที่เหลืออยู่ในมือจนแตก
ของเหลวจากลูกเต๋าแก้วไหลผ่านฝ่ามือ ไต่ขึ้นหลังมือ ข้อมือ แขน และสุดท้ายก็ไหลไปทั่วร่าง
“หากเจ้าตายก็จะไม่มีใครรู้มิใช่หรือ?” หวังปิ่งจ้องมองหญิงสาวที่มีรูปร่างอวบอิ่มที่สุดในบรรดาสามสาวที่ถูกคุ้มครองด้วยสายตาเร่าร้อน พลางถูมือด้วยความตื่นเต้น
จูกัดเซี่ยวไป๋รอให้ของเหลวจากลูกเต๋าไหลไปทั่วร่าง สีหน้าของเขาหนักอึ้งยิ่งนัก
หวังปิ่งเป็นบุตรชายคนเล็กของหวังอ่าย ผู้อาวุโสตระกูลหวังและผู้เฒ่าแห่งสำนักเมตตาธรรม ได้รับความรักและตามใจมาตั้งแต่เด็ก
นิสัยเลวทรามและชั่วช้า รังแกคนอ่อนแอแต่กลัวคนแข็งแกร่ง ชอบย่ำยีผู้อ่อนแอ
เมื่อสิบปีก่อน หวังปิ่งได้ข่มขืนและสังหารธิดาเทพจากสำนักเล็ก ๆ สองคนในงานประชุมเก้าสวรรค์แห่งดินแดนเทพศักดิ์สิทธิ์ตอนกลาง เรื่องนี้ถูกเปิดเผยและแพร่กระจายไปทั่วทุกสำนักที่เข้าร่วมงานประชุมเก้าสวรรค์
ผู้ฝึกบำเพ็ญมากมายต่างเรียกร้องให้ลงโทษหวังปิ่ง
แต่หวังอ่ายพยายามปกป้องหวังปิ่งผู้เป็นบุตรชายคนเล็กสุดอย่างสุดความสามารถ โดยยอมจ่ายค่าชดเชยมหาศาล และกำหนดข้อตกลงว่าหวังปิ่งจะไม่ออกจากตระกูลหวังตลอดชีวิต จึงทำให้ความโกรธแค้นของผู้คนสงบลงชั่วคราว
ตลอดสิบปีที่ผ่านมา ไม่มีใครพบเห็นหวังปิ่งภายนอกจริง ๆ
แต่วันนี้จูกัดเซี่ยวไป๋ได้พบเขาเข้าแล้ว
สิบปีก่อน หวังปิ่งอยู่ในระดับจักรพรรดิขั้นห้า แม้พื้นฐานจะไม่มั่นคงแต่ก็ถือว่าไม่ธรรมดา
บัดนี้เวลาผ่านไปสิบปี ด้วยทรัพยากรของตระกูลหวังและการบำเพ็ญอย่างหนักที่ถูกบังคับ เพียงแค่จูกัดเซี่ยวไป๋สัมผัสวรยุทธ์ของหวังปิ่งเบา ๆ ก็รู้ว่าไม่ด้อยไปกว่าขั้นหกแน่นอน
นี่เป็นระดับที่เขาไม่อาจต่อกรได้
แต่เขาก็จะไม่ถอยหนี
เขาได้รับปากพี่ชายร่วมตระกูลไว้แล้ว นี่คือภารกิจของเขา


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า