บทที่ 1326 สามีเดินทางไกลพันลี้ ภรรยาเฝ้าห่วงใย
ราชวงศ์เซียนต้าโจว
ณ พระราชวัง จวนอิ้นอ๋อง
ชิงเอ๋อร์กำลังอาบน้ำพลางฮัมเพลง
เพลงนั้นเป็นเพลงที่จ้าวอู่เจียงร้องให้นางฟังหลังจากที่ทั้งคู่ร่วมรักกันในคืนนั้น
“บนเตียงมีหมาป่าเดียวดายนามว่าอู่เจียง หน้าตาดีทั้งใจดี ดวงตาคู่ใหญ่ที่ดึงดูดผู้คน ท่อนไม้ทั้งใหญ่และยาว~”
“ในคืนหลังจากกลับเข้าเมือง ข้าและเขามาอยู่บนเตียงเล็ก ๆ สายน้ำที่ไม่เคยไหลมาก่อน ไหลผ่านหุบเขา”
“ขอบคุณความรักที่เขามอบให้ข้า ชาตินี้ชาติหน้าข้าไม่มีวันลืม”
“ขอบคุณความอ่อนโยนที่เขามอบให้ข้า อยู่เคียงข้างข้าตลอดราตรีอันยาวนาน…”
ปัง! ปัง!
ขณะที่ชิงเอ๋อร์กำลังฮัมเพลงพลางแช่น้ำอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูห้อง
“ชิงเอ๋อร์ ข้าเข้าไปได้หรือไม่?” นอกประตูห้องด้านใน มีเสียงของเซวียนหยวนจิ้งที่เต็มไปด้วยอำนาจบารมี
จ้าวอู่เจียงเคยวิเคราะห์เสียงของบรรดาสตรีงามทั้งหลาย
เซวียนหยวนจิ้งมีเสียงแบบพี่สาว แต่ไม่ใช่เสียงพี่สาวมาตรฐานนัก แต่มีความเป็นเสียงราชินีอยู่บ้าง มักจะมีความเด็ดขาดที่ทำให้ผู้คนเชื่อถือโดยไม่รู้ตัวในระหว่างการสนทนา แต่เมื่อออดอ้อนหรืออายจะมีความนุ่มนวลอยู่บ้าง
หลินหลางมีเสียงพี่สาวแบบมาตรฐานดั้งเดิม เวลาพูดจริงจังจะมีเสียงแหบเล็กน้อย คล้ายกับนักพากย์เสียงที่จ้าวอู่เจียงเคยชื่นชอบมากชื่อว่าจิ่วเค่อ
ตู๋กูหมิงเยว่แต่เดิมก็มีเสียงแบบพี่สาวเช่นกัน แต่หลังจากเป็นมารดาแล้ว เวลาพูดมักจะอ่อนโยนขึ้น จึงเหมือนเสียงของภรรยาที่แต่งงานแล้ว ยิ่งดูเย้ายวนใจ
ชิงเอ๋อร์ยังคงมีเสียงสาวน้อยที่ใสกังวานและนุ่มนวลอยู่บ้าง แต่เมื่อเสียงอ่อนหวานจะเอียงไปทางเสียงเด็กหญิง และเมื่อโกรธจะกลับกลายเป็นเสียงสาวผู้ใหญ่
จ้าวอู่เจียงมีความรู้เรื่องเสียงอยู่บ้าง ซึ่งโดยรากฐานแล้วเป็นเพราะความโลภของเขา
แรกเริ่ม… เขาเพียงต้องการรู้ว่าสาวงามชื่ออะไร
ต่อมา… เขาก็อยากรู้อีกว่าสาวงามจะร้องอย่างไร
ไม่มีอะไรมาก เพียงแค่คุ้นหูเท่านั้น
ดังนั้นเขาจึงเกือบจะเรียกตัวเองได้ว่าเป็นราชาแห่งเสียง
“ได้ค่ะ พี่…พี่จิ้ง”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า