บทที่ 1379 ผู้ควบคุมดวงดาวนามว่า อวิ๋นเจิง
ทหารองครักษ์แห่งเมืองสุ่ยเจินที่คุ้มกันจ้าวอู่เจียงต่างก็รู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง เพราะพวกเขารู้เรื่องราวมากกว่าคนอื่นอยู่บ้าง อีกทั้งบุรุษในชุดสีดำที่อยู่เบื้องหน้านี้เป็นคนของราชวงศ์เซียนต้าโจว และน่าจะเป็นบุคคลที่มีฐานะสูงส่งในราชวงศ์
บัดนี้คนของราชวงศ์เซียนต้าโจวกลับอยู่ในดินแดนของราชวงศ์ต้าเฉียน และกำลังทำให้เจ้าสัตว์กลืนทองที่แม้แต่ราชวงศ์ต้าเฉียนก็ไม่เคยฝึกได้อย่างแท้จริงกลับเชื่องเช่นนี้ ทำให้ผู้คนตกตะลึงจนต้องอ้าปากค้าง
หรือว่าในกาลก่อนอันยาวนาน บรรพบุรุษของเจ้าสัตว์กลืนทองนี้เคยเป็นสัตว์ขี่ของบรรพบุรุษของผู้สูงส่งตรงหน้ากระนั้นหรือ?
ผู้คนที่มามุงดูต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา
จ้าวอู่เจียงยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะลูบหัวขนฟูของเจ้าสัตว์กลืนทอง แล้วหันไปบอกทหารองครักษ์เรื่องการตัดสินใจออกเดินทางอีกครั้ง
เจ้าสัตว์กลืนทองส่งเสียงคราง และดูเหมือนจะอาลัยอาวรณ์เจ้านายคนใหม่อยู่บ้าง
ทหารองครักษ์ทั้งหลายคำนับจนเกราะและอาวุธกระทบกัน ก่อนที่พวกเขาจะเข้ามาใกล้
……
จ้าวอู่เจียงใช้กลไกส่งตัวออกจากเมืองสุ่ยเจิน ทหารองครักษ์ที่คุ้มกันเขาต่างก็โล่งอก ก่อนจะพากันกลับไปรายงานตัว
พวกองครักษ์ทั้งหลายต่างกังวลว่าเชื้อพระวงศ์ผู้สูงศักดิ์แห่งราชวงศ์เซียนต้าโจวจะเกิดเรื่องในเมืองสุ่ยเจิน และหากเป็นเช่นนั้นทั้งเมืองสุ่ยเจินก็จะถูกลากเข้าไปพัวพันด้วย
บัดนี้เชื้อพระวงศ์ผู้สูงศักดิ์ได้ออกจากเมืองสุ่ยเจินแล้ว และหากเกิดเรื่องขึ้นอีกก็จะไม่เกี่ยวข้องกับเมืองสุ่ยเจินของพวกเขาแล้ว
ผู้ที่มีความคิดเช่นเดียวกับพวกเขายังมีทหารองครักษ์แถบชายแดนทางตะวันออกเฉียงใต้ พวกเขาได้เริ่มการคุ้มกันจ้าวอู่เจียงอีกรอบด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึง
ยามพลบค่ำ จ้าวอู่เจียงได้โดยสารแท่นส่งวิญญาณ และเดินทางอีกหลายต่อ จนในที่สุดก็มาถึงเมืองหลวงของราชวงศ์ต้าเฉียน
เขามองสำรวจเมืองนี้เมื่อหิมะโปรยปรายยามสนธยา เป็นเมืองที่เขาเคยเห็นมาก่อนหน้าในอดีต ซึ่งล้วนจะสร้างขึ้นจากหินสีเขียวหรือหินสีดำ
ทว่าเมืองหลวงของราชวงศ์ต้าเฉียนแห่งนี้กลับสร้างขึ้นจากหินยักษ์สีขาวราวเมฆทั้งหมด ซึ่งหินยักษ์เหล่านี้เป็นสี่เหลี่ยมและบนพื้นผิวยังมีการสลักลายเมฆอีกด้วย
สมาชิกของราชวงศ์ต้าเฉียนล้วนแซ่อวิ๋น
นอกเมืองหิมะโปรยปรายมากมาย ไม่มีผู้คนเข้าออกประตูเมืองมากนัก จ้าวอู่เจียงส่งใบผ่านทางให้แก่ทหารหน้าประตู
เมื่อทหารตรวจดูใบผ่านทางเรียบร้อยแล้ว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเคารพนบนอบทันที ก่อนที่จะนำทางอยู่ข้างหน้าและเตรียมพาบุรุษผู้มีฐานะสูงส่งผู้นี้เข้าวังหลวง
จ้าวอู่เจียงเพิ่งก้าวข้ามประตูเมือง และยังไม่ทันได้พิจารณาสิ่งก่อสร้างและบรรยากาศในเมืองหลวงอย่างละเอียด แต่ก็มีร่างหนึ่งเดินถอยหลังมาจากหิมะและลมที่ไม่ได้ถูกบดบังจากในเมือง
เป็นเช่นนั้น… เดินถอยหลังมา
จ้าวอู่เจียงถึงกับสงสัยว่าตนเองมองผิดไปหรือไม่ เหตุใดถึงต้องเดินถอยหลัเช่นนั้น?


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า