บทที่ 140 การต่อสู้หน้าวังหลวง
จ้าวอู่เจียงเฝ้ามองรถม้าแล่นจากไป ก่อนที่ตนเองจะรีบเดินไปทางวังหลวง
จวนซิงชิงหยวนอยู่ติดกับวังหลวง จึงใช้เวลาเดินกลับราวเค่อเดียวเท่านั้น
จ้าวอู่เจียงเดินขมวดคิ้วมุ่นไปตลอดเส้นทาง เขากำลังกังวล แต่ก็ไม่ทราบว่าตนเองกำลังกังวลเรื่องใดอยู่กันแน่ ถึงอย่างนั้น ทางที่ดีที่สุดคือต้องหาหนทางเตรียมตัวรับมือไว้ก่อน
ศัตรูที่เขากำลังจะต้องเผชิญหน้าหลังจากนี้ ไม่ได้เป็นคนจากสำนักใต้ดิน และไม่ได้เป็นผู้ฝึกยุทธขั้นห้าหรือขั้นหกอย่างเฉินอันปัง แต่เป็นบุรุษไร้หน้าซึ่งเป็นถึงมือกระบี่อันดับหนึ่งแห่งยุทธจักร!
จ้าวอู่เจียงไม่มีทางลืมข้อมูลที่ฉีหลินเคยบอกกับเขา
มือกระบี่สิบอันดับแรกมีขอบเขตส่วนใหญ่อยู่ในขอบเขตยอดยุทธ์ ถ้าอยู่ในระดับสูง ๆ ก็จะอยู่ในขอบเขตปรมาจารย์ แต่บุรุษไร้หน้าเป็นมือกระบี่อันดับหนึ่ง และไม่มีผู้ใดทราบเลยว่าความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับใด
แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ ความแข็งแกร่งของเขาเป็นความแข็งแกร่งที่จ้าวอู่เจียงในตอนนี้ไม่สามารถรับมือได้อย่างแน่นอน หากต้องเผชิญหน้ากัน จ้าวอู่เจียงรู้ตัวดีเลยว่าตนเองคงต้องถูกสังหารตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ชายหนุ่มหัวใจเต้นรัวเร็ว ตลอดเวลาสอดส่ายสายตามองรอบตัวด้วยความระมัดระวัง จนกระทั่งเห็นประตูทางเข้าวังหลวงอยู่ไม่ไกล เขาจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“จ้าวอู่เจียง!”
แต่แล้วก็มีเสียงตะโกนเรียกดังขึ้น
ชายหนุ่มหันไปมองทางต้นเสียง พบรถม้าคันหนึ่งกำลังวิ่งมาทางตน คนขับรถม้าผู้นั้นสวมใส่ชุดสีน้ำเงิน ท่าทางน่าจะเป็นข้ารับใช้
จ้าวอู่เจียงหรี่ตาลงเล็กน้อย จ้องมองบุรุษในชุดสีน้ำเงิน ดวงตาที่เป็นประกายระยิบระยับของคนขับรถม้าคล้ายกับสัญญาณเตือนภัยบางอย่าง ชายหนุ่มรีบถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว ห่างออกไปไม่ไกลเป็นจุดประจำการของหน่วยราชองครักษ์หน้าวังหลวง
บนรถม้าที่ยังวิ่งมาไม่ถึง อันผิงจ้องมองจ้าวอู่เจียงด้วยสายตาเย็นชา
“นายท่านขอรับ พิจารณาจากพฤติกรรมและสีหน้าของคนผู้นี้ มันจะต้องรู้เกี่ยวกับกระบี่มังกรฟ้าอย่างแน่นอน!”
“ลากตัวมันมา!” เสียงอันเย็นชาของเซียวเหยาอ๋องดังออกมาจากภายในห้องโดยสาร
“ขอรับ” อันผิงถือสายบังเหียนด้วยมือซ้าย ส่วนมือขวาชักกระบี่ออกมาจากข้างเอว เขาไม่รอช้าขว้างกระบี่ไปทางจ้าวอู่เจียงทันที
ปราณกระบี่ตัดผ่านอากาศจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หลังจากที่อันผิงพ่ายแพ้ให้แก่ฉีหลิน เขาก็ได้ทบทวนฝีมือกระบี่ของตนเอง และถึงกับสามารถเลียนแบบท่าไม้ตายของฉีหลินในการใช้ปราณกระบี่จากสุสานกระบี่ได้แล้ว
นี่เป็นพลังโจมตีรูปแบบเดียวกัน
ทันทีที่จ้าวอู่เจียงก้าวเท้าถอยหลัง เขาก็เห็นอันผิงขว้างกระบี่มา พลันได้ยินเสียงคมกระบี่ตัดผ่านอากาศอย่างชัดเจน
ชายหนุ่มไม่ทราบเลยว่าอันผิงฝึกวิทยายุทธอยู่ในขั้นใดแล้ว แต่ในเมื่ออันผิงเป็นคนขับรถม้า เขาก็คงไม่ใช่บุรุษไร้หน้า ดังนั้น จ้าวอู่เจียงจึงยังมีความมั่นใจอยู่บ้าง
คมกระบี่พุ่งมาถึงเบื้องหน้าในพริบตาเดียว
“ทองคำไร้พ่าย!”
จ้าวอู่เจียงร้องตะโกนด้วยความเกรี้ยวกราด พลังลมปราณโคจรเต็มอัตรา สองเท้าหยัดยืนบนพื้นอย่างมั่นคง สองมือยกขึ้นไขว้กันเป็นรูปกากบาท รับการโจมตีจากกระบี่ด้วยแขนของตนเอง
ปราณกระบี่พวยพุ่ง พยายามทะลวงผ่านม่านพลังลมปราณรอบกาย คล้ายจะฉีกกระชากทุกสิ่งราวกับฝนธนูเจาะเกราะ
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า