บทที่ 1413 รอยยิ้มของเทพปีศาจ
“เด็กน้อยเมื่อครู่เป็นศิษย์คนเล็กสุดของข้า..นามว่าจางกั่วกั่วเอ๋อร์”
แม้ว่าจางซวีไป๋จะบ่นไปก่อนหน้านี้ แต่เมื่อเขาพูดถึงศิษย์ของตัวเอง ดวงตาและคิ้วของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ช่างเป็นเด็กหญิงที่ไร้เดียงสาและอ่อนหวาน” จ้าวอู่เจียงยิ้มอย่างอ่อนโยน เวลาที่จางกั่วกั่วเอ๋อร์พูดคุยกับจางซวีไป๋ และส่วนใหญ่มักจะพูดภาษาถิ่นของเมืองสู่หวัง
ภาษาถิ่นแบบนี้ฟังแล้วให้ความรู้สึกแปลกประหลาดสำหรับเขา มันฟังไพเราะและนุ่มนวล แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงไว้ด้วยความเฉียบขาดและความมีเอกลักษณ์
จางกั่วกั่วเอ๋อร์ทำให้เขานึกถึงเสี่ยวเนี่ยนเซี่ย บุตรสาวที่บ้าน ตอนที่เสี่ยวเนี่ยนเซี่ยอายุสี่ห้าขวบก็น่าจะมีลักษณะประมาณนี้เหมือนกัน
เขาอยากให้เวลาหยุดนิ่ง เพื่อจะได้ดูเสี่ยวเนี่ยนเซี่ยเติบโตขึ้น
แต่น่าเสียดาย…
“น่ารำคาญมากกว่าน่ะสิ เด็กคนนี้ชอบจ้อเป็นพิเศษ โดยเฉพาะตอนที่ว่านจื่อไม่อยู่ นางจะพูดมากเป็นพิเศษ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำราวกับมีเรื่องให้พูดไม่รู้จบ” จางซวีไป๋พูดด้วยสีหน้าอ่อนโยน
“แต่เมื่อเทียบกับหวังเทียนป้าง หรือเผียเอ๋อร์ เด็กสองคนนั้นแล้ว..จางกั่วกั่วเอ๋อร์ยังรู้ความกว่า”
จ้าวอู่เจียงค่อย ๆ ลุกขึ้น แล้วชมว่า
“ว่านจื่อเองก็เป็นสตรีที่อ่อนโยนและร่าเริงมีไหวพริบเหมือนกัน”
“หา?” จางซวีไป๋มองจ้าวอู่เจียงด้วยความประหลาดใจ เพราะเขาสงสัยว่าตนเองได้ยินผิดไปหรือไม่
ว่านจื่อเป็นเด็กสาวที่อ่อนโยนตั้งแต่เมื่อใดกัน?
ในฐานะที่เป็นทั้งอาจารย์และบิดา ไฉนเขาจึงไม่รู้เรื่องนี้?
“อา…” จางซวีไป๋อุทานเสียงหนึ่ง แล้วก็พยักหน้ายอมรับคำพูดของจ้าวอู่เจียง
“ใช่จริง ๆ”
“เมื่อเทียบกับอาจารย์หญิงของนางแล้วก็ถือว่าอ่อนโยนกว่ามากทีเดียว”
……
“เขาพูดแบบนั้นจริง ๆ หรือ?”
ภายในสำนัก ใต้รูปปั้นเทพ ว่านจื่อและจางกั๋วกั๋วนั่งคุกเข่าบนเบาะหน้ารูปปั้น ทั้งสองคนกำลังเคี้ยวอาหารในปาก
“อื้ม จ้าวอู่เจียงพูดเอง” จางกั๋วกั๋วมีสีหน้าจริงจังอย่างที่สุดบนใบหน้าเล็ก ๆ ของนาง อีกทั้งนางพยักหน้าแล้วหยิบผลไม้เซ่นไหว้ลงมาจากโต๊ะบูชาส่งให้ศิษย์พี่
“ข้าอยากกินอันนี้ ช่วยปอกให้ข้าหน่อย”
ว่านจื่อยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะรับผลไม้เซ่นไหว้มาปอกเปลือก แล้วกัดคำหนึ่ง และส่งคืนให้จางกั๋วกั๋ว
“เขายังพูดอะไรอีก?”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า