บทที่ 1418 บทกวีกับพายุหิมะ
ภายในวังหลวง แม้กระทั่งในหมู่สมาชิกตระกูลซูต่างก็มีข่าวลือแพร่สะพัด
ข่าวลือว่าซูอวิ๋นเหยาไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่แสดงออกภายนอก แต่แท้จริงแล้วชอบกินหญ้าริมรั้ว และล่วงเกินน้องสาวร่วมตระกูลมาไม่น้อย
กระทั่งในงานเลี้ยงที่เชิญอิ้นอ๋องมาแต่งบทกวีโต้ตอบนั้น หยางปิ่งเอินก็เคยเปิดโปงความลับของซูอวิ๋นเหยาเช่นนี้ในยามที่โกรธจัด
แต่ตอนนั้นกลับไม่มีใครสนใจ รวมถึงตัวซูเสี่ยวเหยาเอง
ซูเสี่ยวเหยาเพียงแค่คิดอย่างบริสุทธิ์ใจว่า ข่าวลือเหล่านี้เป็นการใส่ร้ายป้ายสีจากผู้ที่มีความเคียดแค้นต่อซูอวิ๋นเหยา
แต่สิ่งที่ได้เห็นวันนี้..ทำให้ซูเสี่ยวเหยาได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของพี่ชาย
บ่าวรับใช้นอกห้องถูกไล่ไปหมดแล้ว จนในห้องเหลือเพียงทั้งสองคน
ซูอวิ๋นเหยาที่มีใบหน้าเหี้ยมเกรียม ก้าวเข้ามาอีกไม่กี่ก้าวก็จะฉีกเสื้อผ้าของน้องสาว เพื่อลิ้มรสความงาม
แม้ว่าซูเสี่ยวเหยาพยายามหลบหนี แต่นางจะเป็นคู่ต่อสู้ของซูอวิ๋นเหยาได้อย่างไร นางจึงร้องขอความเมตตาเสียงดัง แต่แม้จะร้องขอติดต่อกันหลายครั้ง ด้านนอกก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ
“เสี่ยวเหยา…อย่ากังวลไปเลย” ซูอวิ๋นเหยามือหนึ่งกำข้อมือขาวผ่องของน้องสาวแน่น ส่วนอีกมือหนึ่งก็เตรียมถอดเสื้อผ้า
“ข้าจะดีกับเจ้า..จะปกป้องเจ้า..จะห่วงใยเจ้าตลอดไป..เหมือนที่เคยทำมามาตลอด”
มือของเขาเพิ่งวางลงบนเสื้อผ้าบริเวณหน้าอกของน้องสาว และตั้งใจจะฉีกมันออกในคราวเดียว เพื่อเผยให้เห็นร่างอันอ่อนนุ่มของนาง
แต่ในชั่วขณะถัดมา ร่างของเขากลับลอยกระเด็นออกไปและกระแทกเข้ากับประตูห้องอย่างรุนแรง
ความเจ็บปวดได้แล่นไปทั่วร่างของเขา อีกทั้งดวงตาที่มองไปยังน้องสาวก็เผยความรู้สึกไม่อยากเชื่อออกมา
เมื่อเห็นเพียงน้องสาวซูเสี่ยวเหยาถือกระดาษจดหมายสีเหลืองนวลแผ่นหนึ่งในมือ ซึ่งบนนั้นมีลายมือที่งดงาม
‘หากวันหน้าเราได้ตากหิมะด้วยกัน ชาตินี้ก็นับว่าเราได้ร่วมหัวหงอกด้วยกันแล้ว’
โดยบนกระดาษแผ่นเล็กนั้น…มีบทกวีบรรทัดที่ดูเหมือนจะแฝงไว้ด้วยพลังอันลึกลับ
ซูเสี่ยวเหยากัดริมฝีปากแดงแน่น จนมีรอยเลือดซึมออกมา มืออันสั่นเทาของนางที่ถือบทกวีที่นางเขียนด้วยตัวเอง
นางชอบประโยคนี้มาก
หลังจากการสารภาพรักที่จบลงอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น นางกับเขาเคยตากหิมะด้วยกัน และนางเชื่อในคำพูดนี้
เมื่อครู่นี้ ประโยคที่นางเก็บไว้ในอกเริ่มร้อนขึ้น และเผาไหม้นางอย่างรุนแรง จากนั้นนางก็หยิบมันขึ้นมาถือไว้ พลันให้พลังอันลึกลับก็แผ่ซ่านออกมาและพัดซูอวิ๋นเหยาที่มีเจตนาร้ายให้ลอยไป
เมื่อเห็นพลังจากจดหมาย นางเองก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดความเศร้าหลายพันหลายหมื่นถาโถมลงมาปกคลุมหัวใจของนาง จนน้ำตาของนางไหลอาบใบหน้าอีกครั้ง
ซูเสี่ยวเหยาถือกระดาษจดหมายเดินสั่นเทาไปหาซูอวิ๋นเหยา เพราะสัญชาตญาณบอกนางว่า หากนางขว้างจดหมายนี้ใส่ซูอวิ๋นเหยา เขาจะต้องบาดเจ็บสาหัสหากไม่ถึงตาย


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า