บทที่ 1419 เรื่องเล็กน้อยแปดเก้าเรื่อง
เมื่อความมืดทำลายแสงดาว ทั้งหิมะและลมที่โหมกระหน่ำคือเศษแสงดาวที่กำลังปลิวไสว
จ้าวอู่เจียงเงยหน้ามองท้องฟ้า แต่ในมือของเขากลับถือกระดาษจดหมายสีเหลืองอ่อน เพราะเขายังคงพยายามทำความเข้าใจพลังลึกลับบนนั้นอยู่
เขารู้สึกว่า นี่คือ ‘ความคิด’ คือ ‘ความเชื่อ’
เพราะความเชื่อมั่นที่ไม่หวั่นไหว และได้สร้างปาฏิหาริย์ที่ทำให้โลกต้องตกตะลึง
เขาถอนหายใจยาว ก่อนจะค่อย ๆ ปิดดวงตาที่เปล่งประกายดั่งดวงดาวลง
ทั้งดวงดาราเคลื่อนคล้อย หรือลมหนาวพัดพาหิมะโปรยปรายเบา ๆ กระทั่งฤดูกาลเดินทางมาถึงปลายปีอีกครั้ง และเวลาก็ล่วงเลยไปอย่างรวดเร็วราวกับสายลม
ตั้งแต่ช่วงที่จ้าวอู่เจียงออกเดินทางไปทำงาน หญิงงามของเขาต่างก็ทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย
ตู๋กูหมิงเยว่ในยามปกติ นอกจากดูแลเสี่ยวเนี่ยนเซี่ยในแต่ละวันแล้วก็เริ่มฝึกฝนวิชาด้วย
แม้ว่าพรสวรรค์ในการฝึกฝนจะไม่สูงนัก แต่เมื่ออยู่ในราชวงศ์เซียนต้าโจว มีการปกป้องจากพลังมังกรของเซวียนหยวนจิ้ง รวมถึงการคุ้มครองจากจ้าวอู่เจียง ทำให้ทรัพยากรมากมายก็หลั่งไหลมาสู่ตู๋กูหมิงเยว่
ตู๋กูหมิงเยว่มีความมุ่งมั่น เพราะนางไม่ต้องการหลบหนีเหมือนแต่ก่อน อีกทั้งไม่ต้องการให้จ้าวอู่เจียงและคนอื่น ๆ ต้องเสียสมาธิเพราะต้องปกป้องนาง และยิ่งไม่ต้องการว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันในอนาคต นางจะไม่สามารถปกป้องลูกของตัวเองได้
นางได้รับการสนับสนุนด้านทรัพยากร ด้วยความเชื่อมั่นและความพยายามในแต่ละวัน วิชาของนางจึงเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน และเติบโตอย่างรวดเร็ว
ส่วนชิงเอ๋อร์ก็ฝึกกระบี่อีกครั้ง
ในปีที่นางปกป้องพี่สาวและเสี่ยวเนี่ยนเซี่ย เป็นปีที่วิชากระบี่ของนางก้าวหน้าเร็วที่สุด
นางมีพรสวรรค์โดดเด่นมาแต่กำเนิด เพียงแต่มีนิสัยเด็ก ๆ ชอบเล่น ดังนั้นหลังจากถูกพากลับไปยังราชสำนักเซียนต้าโจว นางที่ชอบเล่นสนุก ทำให้ความก้าวหน้าในวิชากระบี่ช้าลง
ปัจจุบัน ในสภาพอากาศหนาวเหน็บ และอนาคตที่ปกคลุมด้วยหมอกสีเทาที่ทำให้ผู้คนกังวล นางจึงเริ่มฝึกกระบี่อย่างขยันขันแข็งอีกครั้ง
บัดนี้จ้าวอู่เจียงได้กลับมาแล้วและกำลังว่างอยู่ในวังหลวง เมื่อนางว่าง นางก็จะขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิชากระบี่จากจ้าวอู่เจียง หรือบางครั้งก็ประลองกระบี่กับจ้าวอู่เจียง
แต่ก็มักจะพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว เพราะทนต่อกระบี่สิบแปดท่าของจ้าวอู่เจียงไม่ไหว
ชิงเอ๋อร์เป็นเด็กสาวที่ฉลาดหลักแหลมมาก เพียงแต่ในยามปกติไม่ชอบคิดมาก
นางไม่มีความคิดยิ่งใหญ่อะไร และไม่ได้อยากเป็นผู้แข็งแกร่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์
ทว่าความภาคภูมิใจเล็ก ๆ ของนาง คงเป็นการที่วันหนึ่งนางจะสามารถถือกระบี่ท่องไปทั่วหล้า ปราบคนชั่วช่วยคนดี และรักษาความยุติธรรม
เรื่องราวเหล่านี้ทำให้ชิงเอ๋อร์ที่แทบไม่เคยออกไปไกลบ้านเกิดความใฝ่ฝัน และนางรู้สึกว่าเรื่องราวในยุทธภพช่างสง่างามเสียจริง
ความคิดนี้เกิดขึ้นจากประสบการณ์ในอดีต
ตอนนั้นที่นางยังอยู่ในราชวงค์ต้าเซี่ย ทุกครั้งที่จ้าวอู่เจียงกลับมาจากการท่องยุทธภพ เวลาพูดคุยกับนาง นอกจากจะยั่วเย้าแล้ว ส่วนใหญ่เขาจะเล่าเรื่องราวในยุทธภพ
เรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางคนเดียวไปทั่วทุกทิศ แสงกระบี่อันเงาคม ความแค้นและความรัก รวมถึงเรื่องของความเป็นยอดคน


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า