บทที่ 1430 คนผมขาวส่งคนผมดำ
“คนผมขาวส่งคนผมดำเสียแล้ว” จางซวีคุนขดตัวอยู่ข้างเตาหลอมยาด้วยดวงตาที่เผยความเวทนาออกมา
แต่จ้าวอู่เจียงกล่าวอย่างสงบนิ่ง “เกิดและตายล้วนมีชะตากำหนด แต่ชะตานั้นข้าเป็นผู้กำหนดเอง”
“ความตายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ บางทีอาจเป็นการตายเพื่อเกิดใหม่ ใครจะรู้ บางทีในตอนที่ข้าตาย…อาจเป็นช่วงเวลาที่นกเฟิ่งหวงเกิดใหม่จากกองเพลิง”
“เจ้าเป็นนกเฟิ่งหวงหรือ?”
เพราะจางซวีคุนเองก็เหลือเวลาไม่มากแล้ว แต่เขายังมีชีวิตอยู่นานกว่าจ้าวอู่เจียงอีกสักระยะ และเขายังคงให้ความเคารพต่อเทพปีศาจ
ทว่ายามเผชิญหน้ากับความตาย ความยับยั้งชั่งใจในจิตใจก็ลดน้อยลงไป คำพูดของเขาจึงเป็นอิสระมากขึ้น
ขณะนั้นจ้าวอู่เจียงกลับส่ายหน้า
“ไม่ใช่…แต่ ‘นก’ ของข้ามิได้เล็กนัก แม้จะอ่อนล้าหลายครั้ง แต่ก็ยังคงผงาดขึ้นมาใหม่ได้ นี่มิใช่การ ‘บังเกิดใหม่จากกองเพลิง’ อีกรูปแบบหนึ่งหรอกหรือ?”
จางซวีคุนพูดไม่ออกและได้แต่พยักหน้า เพราะเทพปีศาจก็คือเทพปีศาจจริง ๆ ช่างยียวนเหลือเกิน!
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง จางซวีคุนพูดด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา “อันที่จริงข้ารู้ถึงแผนการของท่านตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบันแล้ว…”
“แต่เจ้าก็พูดออกมาไม่ได้ หากพูดออกมาก็จะตายในทันที” จ้าวอู่เจียงกลอกตา ก่อนจะยักไหล่ด้วยท่าทางจนปัญญา
เขารู้สึกว่าตัวเองยังคงไม่ฉลาดพอ เขายังไม่อาจเข้าใจการวางแผนทั้งหมดของตนเองในอดีตจนถึงปัจจุบันได้อย่างถ่องแท้ อีกทั้งยังไม่เข้าใจว่าตนเองบรรลุวิถีแห่งเต๋าจนกลายเป็นผู้มีวรยุทธ์ขั้นสูงสุดได้อย่างไร?
จนถึงตอนนี้เขายังไม่สามารถเข้าใจวิถีแห่งเต๋าของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังห่างจากการเป็นผู้สูงสุดเพียงก้าวเดียว แต่กลับไม่สามารถเปิดหรือถีบมันออกไปได้
บางทีอาจจำเป็นต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้น เขาถึงจะเข้าใจได้
ท้ายที่สุดแล้ว คนสอนคนร้อยคำก็ไร้ประโยชน์ แต่เหตุการณ์สอนคนเพียงครั้งเดียวก็เข้าถึงใจ เพราะการเติบโตของเขายังต้องผ่านประสบการณ์ชีวิตอีกมาก
“ยังคงเป็นเจ้าที่คิดถึงข้าสินะ” จางซวีคุนถอนหายใจพร้อมรอยยิ้ม
เขาอยากจะบอกว่าช่วยไม่ได้ เพราะจ้าวอู่เจียงเป็นเทพปีศาจและมีน้ำหนักต่อชะตากรรมมากมาย หากเขาเอ่ยปากพูดออกมาจะเป็นการผลักดันชะตากรรม
เขากำลังร่วงโรยใกล้สิ้นอายุขัย อีกทั้งยังมิอาจก้าวสู่ขั้นสูงสุด เช่นนั้นการเร่งเร้าโชคชะตาจึงเป็นการบั่นทอนชีวิตของตนเอง
แม้เขาจะเอ่ยปากพูดครึ่งคำที่เกี่ยวข้อง…แต่ก็จะล้มตายทันที
ทว่าเขาไม่กลัวตาย และตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาตายด้วยซ้ำ!
“น่ารำคาญเสียจริง” จ้าวอู่เจียงร้องครวญคราง ก่อนจะล้มตัวลงนอนกับพื้น
“ข้ารำคาญพวกเจ้าที่พูดอะไรเป็นปริศนาที่สุดเลย!”
“ความเชื่อมั่นคือพลัง” จางซวีคุนยิ้มแล้วไอหนัก ๆ ทีหนึ่ง ทว่าขณะนั้นกลับมีรสหวานคาวเลือดผุดขึ้นมาที่ลำคอ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยโดยไม่ให้เห็นร่องรอย จากนั้นก็พูดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
“ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม แม้ท่านจะมีเวลาไม่มาก แต่ก็ยังสามารถคิดให้ดีได้ ถ้าท่านเป็นตัวท่านในอดีต ท่านจะทำอย่างไร?”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า