บทที่ 1433 สหายเก่าในเมืองผี
หมอกสนธยาทอดตัวหนาทึบ
ช่วงปลายยามเว่ย
จ้าวอู่เจียงกับเซวียนหยวนจิ้งได้ก้าวเท้าเข้าสู่อาณาเขตของเมืองผีในที่สุด
ภายนอกเมืองผี หิมะโปรยปรายลงมา แต่ทันทีที่ก้าวเข้าสู่อาณาเขตของเมืองผี เกล็ดหิมะก็หายไป เหลือเพียงหมอกสีเทาที่ปกคลุมทั่วฟ้าดิน
จ้าวอู่เจียงเล่าประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เคยมาเมืองผีให้เซวียนหยวนจิ้งฟังอีกครั้ง
แน่นอนว่า เขาไม่ได้เล่าเรื่องทั้งหมด บางเรื่องเขาก็เล่าข้ามไป อย่างเรื่องการจับวิญญาณสตรี การปราบปีศาจยั่วยวน เรื่องพวกนี้ไม่จำเป็นต้องเล่าให้เซวียนหยวนจิ้งฟัง
ประตูของเมืองผีมีขนาดใหญ่จนสามารถมองเห็นได้แต่ไกล จ้าวอู่เจียงที่อยู่ท่ามกลางหมอกสีเทารู้สึกว่าพลังวิญญาณของตนเองไหลเวียนเพิ่มขึ้นอย่างไม่ขาดสาย เพราะมีความรู้สึกเหมือนกลับมายังสถานที่คุ้นเคย จึงสามารถใช้วรยุทธ์ได้อย่างเต็มที่
เขาเห็นร่างเลือนรางสองร่างยืนอยู่ที่ประตูเมืองผี ร่างหนึ่งดูตัวเล็กบอบบาง ส่วนอีกร่างหนึ่งร่างกายกำยำ และดูเหมือนว่าร่างนั้นกำลังอุ้มดาบใหญ่เล่มหนึ่งไว้
เมิ่งผัว? เซี่ยปี้อันหรือ? จ้าวอู่เจียงขมวดคิ้ว เขากับเซวียนหยวนจิ้งค่อย ๆ ก้าวเท้าเข้าใกล้ประตู
เมื่อเข้าไปใกล้จึงพบว่า ร่างเล็กบอบบางเป็นหญิงสาวหน้าตางดงามที่เขาบังเอิญได้รู้จัก นางคือเซี่ยเฉินซู่ บุตรสาวของเซี่ยปี้อัน
เซี่ยเฉินซู่ในตอนนี้เป็นเพียงวิญญาณที่มีความอาลัยหลงเหลืออยู่ ส่วนเซี่ยเฉินซู่ตัวจริงนั้น นางได้ตายไปพร้อมกับศิษย์พี่ร่วมสำนักตงหนิงนานแล้ว โดยฝีมือของเยว่ปู้ฝาน
ส่วนอีกร่างหนึ่งคือศิษย์พี่ร่วมสำนักคนปัจจุบันของเซี่ยเฉินซู่ มีนามว่า เยี่ยเชี่ยนชุน
จ้าวอู่เจียงขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าหลังจากวันที่เขาบังเอิญเห็นความจริงและจากไปนั้น วิญญาณที่หลงเหลืออยู่ของเซี่ยเฉินซู่และตงหนิงยังไม่ได้ตื่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ และยังคงกลับไปเป็นเหมือนตอนแรกเริ่ม
เซี่ยเฉินซู่ยังคงลืมเรื่องราวอันเศร้าสลดที่เคยเกิดขึ้น เพียงแต่ความยึดมั่นถือมั่นบอกนางว่าต้องทำอะไร และรออะไร
ส่วนตงหนิงนั้นเสียใจที่ไม่สามารถปกป้องเซี่ยเฉินซู่ ศิษย์น้องร่วมสำนักได้ จึงยังคงแบ่งร่างออกเป็นสองคน คนหนึ่งคือตงหนิงที่เป็นบัณฑิตผู้อ่อนแอ อีกคนคือเยี่ยเชี่ยนชุนผู้แข็งแกร่งและมีพละกำลังไม่ธรรมดา
จ้าวอู่เจียงถอนหายใจ พลางก้าวเข้าไปข้างหน้าอีกก้าว เพื่อเตรียมทักทายก่อน
“เอ๋? จ้าวอู่เจียง เจ้ามาได้อย่างไร?” แต่เดิมเซี่ยเฉินซู่เป็นสตรีที่ค่อนข้างเอาแต่ใจ แต่วันนี้กลับเรียบร้อยอย่างหาได้ยาก ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวลและความหวัง ราวกับกำลังรอคอยใครบางคน
จ้าวอู่เจียงชะงักไปเล็กน้อย เขาได้แต่หัวเราะเยาะตัวเอง แต่แรกเขาคิดไปเองว่าเซี่ยเฉินซู่คงรู้ว่าวันนี้เขาจะมา เลยตั้งใจมารอแทนเซี่ยปี้อัน
แต่จากสีหน้าที่ฉายความสงสัยของเซี่ยเฉินซู่ ดูเหมือนว่านางกำลังรอคอยคนอื่น
“กลับมาเยี่ยมสถานที่เก่า” จ้าวอู่เจียงยิ้มเล็กน้อย และพยักหน้าให้เยี่ยเชี่ยนชุนที่อยู่ข้าง ๆ ซึ่งกำลังอุ้มดาบใหญ่ด้วยท่าทางเงียบขรึมและเฉื่อยชา


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า