บทที่ 1475 เกรงว่าจะเสียดาย
“ฮะ ๆ ๆ”
จางซวีไป๋ยิ้มแย้มทั่วใบหน้า ถูมือไปมาอย่างเก้อเขิน ก่อนจะเดินเข้าไปหา สตรีงามนางนั้น เขามองด้วยแววตาอ่อนโยน
“ถึงเวลาต้องออกเดินทางแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะเดินทางลำบาก”
“ว่านจื่อ อุ้มเพียเอ๋อร์ไป พวกเจ้าไปก่อนเถอะ”
สตรีงามเหลือบมองจางซวีไป๋ด้วยสายตาดุดัน แล้วอุ้มเพียเอ๋อร์ที่จูงอยู่ส่งให้ว่านจื่อ
ว่านจื่ออึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรับเด็กน้อยจากมือของอาจารย์หญิง นางเอียงหน้ามองไปทางเด็กอ้วนที่กำลังขนรูปปั้นเทพปีศาจด้วยความมุ่งมั่น
“หวังเทียนป้าง ไปกันเถอะ”
เด็กอ้วนท่าทางหมดอาลัยตายอยาก วิ่งเหยาะ ๆ มาด้วยสีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจ แต่เมื่อเห็นห่อผ้าเล็ก ๆ ที่จางกั่วกั่วเอ๋อร์แบกอยู่ ก็พลันยื่นมือจะคว้า แต่จางกั่วกั่วเอ๋อร์เชิดหน้าส่งเสียงฮึดฮัด แล้ววิ่งออกไปนอกศาลเต๋า
เด็กทั้งสองวิ่งไล่กันออกไป
“ข้าไปก่อนนะเจ้าคะ” ว่านจื่อมองอาจารย์ทั้งสองของนางเพียงครู่ ก่อนจะแบกสัมภาระห่อใหญ่เดินออกไปจากศาล
จางซวีไป๋มองศิษย์น้อยด้วยแววตาอ่อนโยน พยักหน้าเบา ๆ
เมื่อเห็นลูกศิษย์จากไป เขายื่นมือจะจับมือสตรีงาม ทว่านางกลับสะบัดมือหนี
“เจ้าก็ไปเถอะ”
จางซวีไป๋ยิ้มอย่างอ่อนโยน เผยให้เห็นเค้าความสง่างามในวัยหนุ่ม
สตรีงามกอดอกเผยทรวดทรงองค์เอว
“เจ้าไม่ไปหรือ?”
จางซวีไป๋เอ่ยตอบนางด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“พวกเจ้าไปก่อนเถิด”
“ข้ายังต้องบอกกล่าวเรื่องปิดศาลเต๋ากับผู้ที่มาจุดธูปอีกสักหน่อย เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ข้าจะรีบตามไป”
รอยย่นที่หางตาของสตรีงามขยับเล็กน้อย นางจ้องมองชายชราตรงหน้าที่ดูอ่อนล้าลงทุกวัน
“ท่านมีเรื่องใดปิดบังข้าหรือไม่? ไม่ยอมบอกข้าอย่างนั้นหรือ?”
จางซวีไป๋จับมือทั้งสองข้างของสตรีงามพลางกล่าว
“จะมีได้อย่างไร ข้ามิกล้าหรอก”
สตรีงามจ้องตาจางซวีไป๋แน่วนิ่ง
“เล่าจื๊อจะนับถึงสาม…”
“หนึ่ง!”
จางซวีไป๋รีบโอบกอดสตรีงามแน่น ทำให้นางขยับตัวไม่ได้


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า