บทที่ 149 ไม่เชื่อใจ
“ฝ่าบาทต้องการจะให้ทารกน้อยผู้นี้เป็นคนทำการรักษาจริง ๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“ฝ่าบาท นี่ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะพ่ะย่ะค่ะ ได้โปรดลองทบทวนดูอีกสักครั้ง!”
บรรดาองครักษ์มังกรทั้งแปดคนที่ห้อมล้อมอยู่รอบกายชายชราต่างก็ส่งเสียงขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน แม้ว่าพวกเขาจะซ่อนเร้นใบหน้าอยู่ภายใต้หน้ากากอสูร แต่จ้าวอู่เจียงก็ยังสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน
องครักษ์มังกรเป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อฮ่องเต้มาตั้งแต่ยุคสมัยการก่อตั้งแคว้นต้าเซี่ย และผู้คนในหน่วยองครักษ์มังกรชุดปัจจุบัน ก็ล้วนแต่เป็นผู้ที่จงรักภักดีต่อฮ่องเต้องค์ก่อนทั้งสิ้น
บัดนี้ ชายชราที่ใกล้ตายคนนี้เกี่ยวพันกับความจริงเรื่องการสิ้นพระชนม์ของฮ่องเต้องค์ก่อน พวกเขาจึงไม่คิดไว้ใจใครง่าย ๆ แม้แต่เซวียนหยวนจิ้ง พวกเขาก็ยังกล้าตั้งคำถามในการตัดสินใจ
ในสายตาขององครักษ์มังกรกลุ่มนี้ จ้าวอู่เจียงเป็นเพียงชายหนุ่มที่ไม่ได้มีข้อดีอันใดนอกจากหน้าตาอันหล่อเหลา แล้วจ้าวอู่เจียงจะสามารถรับผิดชอบภารกิจใหญ่หลวงเช่นการรักษาชายชราได้อย่างไร? การรักษาในครั้งนี้จำเป็นต้องใช้สุดยอดหมอหลวงขั้นสูงจากโรงหมอหลวงเท่านั้น!
เจี๋ยสือจิ่วก็อยู่ในกลุ่มแปดองครักษ์มังกรเช่นกัน แม้เขาจะทราบว่าจ้าวอู่เจียงเป็นคนสนิทของฮ่องเต้ แต่เมื่อสหายคนอื่น ๆ ยืนยันเสียงแข็งถึงเพียงนี้ เจี๋ยสือจิ่วก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
“จ้าวอู่เจียงเป็นคนสนิทของข้า!” เซวียนหยวนจิ้งระเบิดเสียงคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด แต่ก็ไม่ได้โกรธหน่วยองครักษ์มังกรที่กล้าตั้งคำถามกับการตัดสินใจครั้งนี้ ในความคิดของนาง พวกเขาล้วนแต่เป็นคนที่ซื่อสัตย์ แต่นางไม่พอใจที่พวกเขากล้าตั้งคำถามในความสามารถของจ้าวอู่เจียง
กลุ่มองครักษ์มังกรทั้งแปดถึงกับตกตะลึง แม้พวกเขาจะเคยได้ยินเจี๋ยสือจิ่วบอกเล่ามาบ้างว่า ฮ่องเต้มีคนสนิทคนใหม่ แต่ก็ไม่คิดเลยว่าคนสนิทผู้นั้นจะกลับกลายเป็นจ้าวอู่เจียงที่ยืนอยู่เบื้องหน้าคนนี้ไปเสียได้
ในความคิดของพวกเขา คนสนิทของฮ่องเต้สมควรเป็นขุนนางระดับสูง มีอำนาจอยู่ในมือมากล้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นผู้คนในวัยชรา เล่ห์เหลี่ยมเขี้ยวลากดิน
“กระหม่อมกราบขอพระราชทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ!” องครักษ์มังกรคนหนึ่งประสานมือคำนับให้กับทั้งฮ่องเต้และจ้าวอู่เจียง ก่อนจะกล่าวต่อ
“ชีวิตของพยานคนนี้กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย ที่เขายังรอดอยู่จนถึงตอนนี้ก็เพราะได้รับการถ่ายทอดพลังลมปราณจากพวกเรา ไม่ใช่ว่ากระหม่อมเจี๋ยสือปาไม่เชื่อใจในคนสนิทของพระองค์ แต่ฝ่าบาท การรักษาพยานคนนี้จำเป็นต้องใช้ผู้ชำนาญทางการแพทย์ระดับสูง คนสนิทของพระองค์ยังเยาว์วัยและมีอนาคตที่ยาวไกล แต่เขายังขาดประสบการณ์ ยังขาดความรู้ ความเชี่ยวชาญ ยิ่งไปกว่านั้น ชายชราได้รับบาดเจ็บถึงเพียงนี้ คนสนิทของพระองค์จะสามารถรักษาได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“กระหม่อมขอบังอาจล่วงเกิน หากชายชราผู้นี้ตายไป ปริศนาการสิ้นพระชนม์ของพระบิดาของฝ่าบาทก็จะต้องกลายเป็นความลับดำมืดไปตลอดกาล! กระหม่อมหวังว่าพระองค์และคนสนิทจะลองคิดทบทวนดูอีกสักครั้ง รีบออกคำสั่งให้คนจากโรงหมอหลวงมาทำการรักษาเถอะพ่ะย่ะค่ะ”
“กระหม่อมก็คิดเช่นเดียวกันพ่ะย่ะค่ะ ชายชราคนนี้เป็นพยานปากสำคัญของเรา เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก กระหม่อมขอบังอาจล่วงเกินฝ่าบาท แม้ฝ่าบาทจะลงโทษกระม่อมในภายหลัง กระหม่อมก็ยินดี! แต่ได้โปรดลองคิดทบทวนดูใหม่เถอะพ่ะย่ะค่ะ!” องครักษ์มังกรอีกหนึ่งคนกล่าวสนับสนุนความคิดเห็นของเจี๋ยสือปา
“พวกเจ้า…” ฮ่องเต้โบกสะบัดแขนเสื้อด้วยความเดือดดาล
“จ้าวอู่เจียงมีทักษะการแพทย์ระดับสูง ความสามารถของเขาไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าซุนอี้ขู่ บัดนี้ ซุนอี้ขู่ตายไปแล้ว เขาก็เป็นเพียงคนเดียวในวังหลวงแห่งนี้เท่านั้นที่สามารถรักษาคนผู้นี้ได้!”
ถึงแม้จะได้ยินเช่นนั้น แต่บรรดาองครักษ์มังกรก็ยังไม่ยินยอมให้จ้าวอู่เจียงทำการรักษา พวกเขาได้แต่คิดว่าฮ่องเต้ทรงเชื่อใจคนสนิทมากเกินไป คำพูดจะกล่าวเยินยออย่างไรก็ได้ แต่ความสามารถที่แท้จริงนั้นสำคัญที่สุด จ้าวอู่เจียงคนนี้ดูอย่างไรก็ยังเยาว์วัยนัก ดูไม่เหมือนคนที่มีทักษะการแพทย์ระดับสูงเลยแม้แต่น้อย


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า