บทที่ 1518 เล่าจื๊อแห่งเขาสู่เต๋า
เดือนสิบสอง วันที่ยี่สิบเก้า
มิมีสิ่งใดมิเหมาะสม มิมีข้อห้าม
ดินแดนน้ำศักดิ์สิทธิ์ทางใต้มีผู้คนมากมายเดินทางมุ่งหน้าไปยังดินแดนหลิงซี
ยามนี้ภายนอกดินแดนหลิงซีได้กลายเป็นโศกนาฏกรรมของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยทะเลโลหิต พวกทรยศที่เข้าร่วมกับวิถีสวรรค์ และพวกประนีประนอมต่างลงมือโจมตีประชาชน สังหารผู้คนที่พยายามเอาชีวิตรอด
ขณะเดียวกันภายในดินแดนหลิงซีกลับสงบเรียบร้อย หลินเสี่ยวเค่อจากเผ่าจิ้งจอกชิงชิวได้รับคำสั่งจากเทพเต่าศักดิ์สิทธิ์ ให้ควบคุมดูแลทุกเรื่องในดินแดนหลิงซีทั้งหมดยกเว้นเมืองผี นางได้ทำการจัดเตรียมที่พักให้เหล่าสรรพชีวิตต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม มิมีความวุ่นวายแม้แต่น้อย
ส่วนผู้คนที่ลี้ภัยเข้าไปในเมืองผี ส่วนใหญ่ก็ได้เห็นภาพในเมืองผีที่มีวิญญาณและภูตผีต่าง ๆ ล่องลอยอยู่ทั่วไปป็นเครั้งแรกในชีวิต
เมื่อสรรพชีวิตมากมายเข้าสู่เมืองผี บางคนกังวลว่าจะไม่มีที่อยู่
แต่เมื่อดอกบัวจำนวนมากลอยขึ้นมาจากแม่น้ำลืมเลือน ทุกคนก็ต้องตื่นตกใจ เมื่อพบว่าพวกเขาที่เข้ามาในเมืองผีนั้น ร่างกายกลับเล็กลงราวกับเม็ดทรายในดาราจักร และถูกดูดเข้าไปในดอกบัว
และภายในดอกบัวแต่ละดอกนั้น เป็นโลกอันลึกลับที่กว้างใหญ่ไพศาล ที่สามารถรองรับทุกคนได้
—
ภายในจวนอิ้นอ๋อง จ้าวอู่เจียงมิได้ใช้ร่างเสมือนท่องไปในโลกมนุษย์อีกต่อไป ในยามนี้เขากำลังบำเพ็ญตนอย่างสงบ
หลังจากที่ค่อย ๆ เข้าใจวิถีแห่งสรรพชีวิตที่แท้จริง วรยุทธ์ของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนสามารถบรรลุถึงขั้นจอมจักรพรรดิได้อย่างง่ายดาย
เพียงแต่เมื่อเขาต้องการใช้สภาวะจอมจักรพรรดิทำลายเครื่องรางที่กักขังตนเอง ก็กลับล้มเหลวอีกครา
แม้เครื่องรางเหล่านี้จะเป็นของจางซวีคุน แต่ภายในกลับเป็นหลักการของเทพปีศาจจากยุคโบราณ แม้เขาจะเป็นถึงจอมจักรพรรดิก็มิอาจทำลายมันได้
เขาทำได้เพียงบำเพ็ญเพียรต่ออีกครั้ง วรยุทธ์ของเขาเพิ่มขึ้นมิหยุดยั้ง แม้จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ทว่าจิตใจกลับมิสงบเนัก
—
ม่านหมอกสีเทาปกคลุมยามเช้า
สายฝนเย็นที่ตกลงมา หยดกระทบลงบนร่างของนักพรตชราจางซวีไป๋ โลหิตไหลลงมาตามชุดนักพรตของเขามิหยุด
ตามขั้นบันไดมีโลหิตไหลเป็นทาง ซากศพไร้ชีวิตที่กองอยู่ถูกน้ำฝนชะล้างจนดูขาวซีด
จางซวีไป๋ร่างกายค่อมงอ ดูราวกับลิงผอมแห้งที่ยืนอยู่
ราตรีอันเงียบสงบ มิมีโสตเสียงใดจากเชิงเขาอีก
ทว่าจางซวีไป๋ก็มิได้ประมาทแม้แต่น้อย ยังคงตั้งสติสังเกตความเคลื่อนไหวรอบข้าง
จนกระทั่งเสียงครวญครางของสายลมดังมา นัยน์ตาของจางซวีไป๋สั่นไหวเล็กน้อย เบื้องหน้าเขาปรากฏร่างในชุดดำที่คลุมใบหน้า ในอากาศว่างเปล่ากระบี่สั้นอาบยาพิษแหวกอากาศแทงทะลุหัวใจของเขาโดยตรง
จางซวีไป๋จับข้อมือของผู้ลอบโจมตีแน่น มิยอมให้คนผู้นั้นได้ดึงกระบี่สั้นออก
“ท่านนักพรตจาง ขออภัยที่ล่วงเกิน” เห็นได้ชัดว่าผู้ลอบโจมตีรู้จักจางซวีไป๋
จางซวีไป๋มองด้วยแววตาเศร้าสลด
“ถ้ำกระบี่ตระกูลอู๋ทรยศอย่างสิ้นเชิงแล้วหรือ?



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า